May 19, 2024   5:07:23 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > คุยเรื่อง SINGHA
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 20/07/2006 @ 12:42:50
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

คุยเรื่อง SINGHA
--------------------------------------------------------------------------------
วันนี้เอาเรื่อง SINGHA มาคุยให้ฟัง ปกติเวลาที่ผมรู้สึกสนใจหุ้นตัวไหน ผมก็จะไปค้นข้อมูล ถ้ามีหุ้นตัวไหนที่มีข้อมูลน่าสนใจก็จะมาเขียนให้อ่านกัน ไม่ได้จะแนะนำให้ซื้อหรือขาย คนที่อ่านก็ใช้วิจารณญาณ พิจารณาให้รอบคอบ เมื่อ 2-3 วันก่อน ผมเห็นหุ้น SINGHA ขึ้นมาหลังจากที่จำได้ว่า เคยขึ้นไปถึง 10 บาท จากนั้นก็ลงไปอยู่แถว ๆ 3 บาท ตอนนี้ก็ขึ้นมายืนอยู่บริเวณ 3.40 บาท ก็เลยสงสัยว่า หุ้นตัวนี้มันขาดทุนหรือไม่ ทำไมราคาหุ้นถึงลงแรง แล้วก็สถานการณ์บริษัทตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ผมก็พบข้อมูลว่า บริษัทนี้ก็ยังทำกำไรได้ตลอด แล้วก็มีจ่ายเงินปันผลด้วย ข้อมูลที่น่าสนใจของบริษัทมีดังนี้
บริษัท สิงห์ พาราเทค จำกัด ( SINGHA ) เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไม้พื้นสำเร็จรูป เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา , ประเทศแคนาดา ประเทศในแถบเอเซีย และประเทศในสหภาพยุโรป โดยมีสัดส่วนการขายในสหภาพยุโรปกว่า ร้อยละ 91.82 ของรายได้จากการขายต่างประเทศ
SINGHA มีรายได้หลักจากการขายไม้พื้นสำเร็จรูปประเภท 3 ชั้น ซึ่งแบ่งออกเป็นชนิดหน้าไม้ลายทั่วไป และชนิดหน้าไม้สิงห์ลาย ซึ่งชนิดหน้าไม้สิงห์ลายนี้ปัจจุบันบริษัทเป็น 1 ใน 3 รายของโลกที่สามารถผลิตได้ โดยมีรายได้จากการขายไม้พื้นสำเร็จรูปคิดเป็น 75% ของรายได้รวม
เมื่อปี 2548 บริษัทมีรายได้ ทั้งปี 750 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.38 บาท/หุ้น แล้วก็มีเงินปันผลให้ทุก 6 เดือนด้วย โดยครึ่งปีแรกของปี 48 จ่ายเงินปันผล 0.12 บาทต่อหุ้น แล้วก็ครึ่งปีหลังจ่ายเงินปันผลอีก 0.13 บาทต่อหุ้น ส่วนผลการดำเนินในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา SINGHA มีกำไรสุทธิ 17 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.05 บาทต่อหุ้น ซึ่งก็ถือว่าลดลงค่อนข้างมาก ก็ต้องลุ้นผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ที่จะถึงนี้ว่าจะดีขึ้นหรือไม่
บริษัทอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิต ปัจจุบัน SINGHA มีกำลังการผลิตได้ 1,200,000 ตารางเมตรต่อปี โดยใช้กำลังการผลิตจริงทั้งปีอยู่ที่ 1,060,000 ตารางเมตรต่อปี หรือคิดเป็น 88% ของกำลังการผลิตทั้งหมด นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายการลงทุนทำธุรกิจ โดยได้เพิ่มโรงงานผลิตพื้นไม้สำเร็จรูปประเภท 1 ชั้น และ 2 ชั้น ซึ่งเป็นสินค้าที่ตลาดส่งออกมีความต้องการและมีราคาขายสูงกว่าพื้นไม้สำเร็จรูปประเภท 3 ชั้น อยู่ประมาณ 20-30% โครงการลงทุนดังกล่าวนี้ใช้งบประมาณในการก่อสร้างอาคารโรงงานและติดตั้งเครื่องจักรประมาณ 150 ล้านบาท โรงงานดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าโครงการนี้จะดำเนินการได้แล้วเสร็จ และเริ่มผลิตสินค้าได้ภายในปี 2549 นี้ ซึ่งจะยังผลให้กำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้น คาดว่าในปี 2549 นี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 1,400,000 ตารางเมตรต่อปี
ส่วนราคาหุ้นของ SINGHA ที่ปรับตัวสูงขึ้นผู้บริหารก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า รายได้ไตรมาส 2 ปี 2549 โตกว่าไตรมาส 1ปี 2549 แน่นอน เนื่องจากบริษัทฯมีออเดอร์เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งออเดอร์จากลูกค้ารายเก่าที่มีเข้ามาตลอดเวลาและออเดอร์จากลูกค้ารายใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงทำให้รายได้ของบริษัทฯโตขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้บริษัทฯได้รับออเดอร์จากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่จากทวีปยุโรป สำหรับไตรมาส 3 ปี 2549 แล้ว ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประเมินรายได้ทั้งปี 2549 จะโตขึ้นกว่าปี 2548 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท จากเดิมที่อยู่ที่ 700 กว่าล้านบาท
สำหรับความเสี่ยงของ SINGHA ก็มี ปัญหาราคายางที่ได้ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะส่งผลให้การตัดไม้ยางพาราชะลอตัวลงได้ ซึ่งอาจทำให้บริษัทฯขาดแคลนวัตถุดิบไม้ยางพาราไปบางส่วน ผู้บริหารก็คาดว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับธุรกิจของบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากทางฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการวิจัยหาไม้ทดแทนไม้ยางพารา เพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบในส่วนของไม้ยางพาราลง ทั้งนี้วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตไม้พื้นของบริษัทฯ มีหลายประเภทด้วยกัน อาทิ ไม้แอส ไม้แคมปัส เป็นต้น
เนื่องจากรายได้หลักมาจากการขายต่างประเทศเป็นหลัก SINGHA ก็จะได้ไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในประเทศแถบสหภาพยุโรป และมีฯ มีสัดส่วนการส่งออกอยู่ถึง 80% ทำให้ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง จะส่งผลบวกกับทางบริษัทโดยตรง
ส่วนข่าวพันธมิตรที่จะเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัท ก็ดำเนินการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัท Westcoast ได้ซื้อหุ้น SINGHA จำนวน 18 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 11 บาท คิดเป็น 5.62% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด จากเดิมที่แจ้งว่าจะซื้อหุ้น 40 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 14.50 บาท โดยบริษัทได้แจ้งข่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2549 ให้กับตลท. เรียบร้อยแล้ว

ที่มา/ นสพ.ทันหุ้น

 กลับขึ้นบน
arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
#1 วันที่: 20/07/2006 @ 12:43:51 : re: คุยเรื่อง SINGHA
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง http://www.thaihoon.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2517#9912
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com