สหรัฐฯยุเกาหลีใต้เร่งพัฒนาระบบต่อต้านขีปนาวุธไว้ป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯในเกาหลีใต้ระบุ
การทดลองยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
เป็นสัญญาณเตือนว่า เกาหลีใต้จำเป็นต้องเร่งเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ

โดยสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า
พล.อ.บี บี เบล ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ระบุว่า
เกาหลีเหนือครอบครองขีปนาวุธพิสัยใกล้และกลาง ซึ่งสามารถยิงมายังเกาหลีใต้ได้อย่างแม่นยำ

พล.อ. เบลเน้นว่า เกาหลีใต้จำเป็นต้องเร่งพัฒนาระบบต่อต้านขีปนาวุธโดยเร็ว
เพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของคาบสมุทรเกาหลี

อิสราเอล ใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกระทรวงต่างประเทศปาเลสไตน์อีกครั้ง

อิสราเอลยังคงใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องในเช้าวันนี้
โดยยิงขีปนาวุธโจมตีกระทรวงต่างประเทศปาเลสไตน์อีกครั้ง
ทำให้เด็ก 10 คน ที่อาศัยอยู่ใกล้กับกระทรวงได้รับบาดเจ็บ
การโจมตีมีขึ้นเพียง 1 วันหลังจากอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้ว 23 คน เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลเพื่อกดดันให้ปาเลสไตน์
ปล่อยตัวทหารอิสราเอลที่ถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่มเป็น 75 คน

ทางด้านประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาสของ ปาเลสไตน์ได้กล่าวประณามการรุกรานครั้งนี้
และเรียกร้องสหรัฐและคณะผู้แทน 4 ฝ่ายที่สนับสนุนกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลางให้เข้าแทรกแซง
เพื่อคลี่คลายวิกฤติการณ์โดยเร็ว


ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ ( 11.26 น.) [/color:0ced25e758">

คาราวานคนจนวงแตก อ้างเครือข่ายสมาชิกติดทำนา

คาราวานคนจนวงแตก ระงับประชุมใหญ่ทุกภูมิภาค
อรรถฤทธิ์อ้างสมาชิกเครือข่ายส่วนใหญ่ยังไม่พร้อม เนื่องจากติดทำนา
พร้อมเลื่อนการประชุมไม่มีกำหนด

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :
จากกรณีที่เครือข่ายคาราวานคนจนได้ประกาศว่า
จะมีการประชุมหารือเกี่ยวกับทิศการเคลื่อนไหวรณรงค์ให้เกิดการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค.ทุกภูมิภาค
โดยในส่วนภาคอีสานกำหนดจัดให้มีการประชุมแกนนำเครือข่าย ที่จ. สกลนคร ในวันที่ 13 ก.ค.นี้
แต่ล่าสุดในวันดังกล่าวแกนนำเครือข่ายคาราวานคนจนได้ประกาศยกเลิกการประชุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


นายอรรถฤททธิ์ สิงห์ลอ รองเลขาธิการเครือข่ายคาราวานคนจน กล่าวว่า
ก่อนหน้านี้ตนได้ประกาศว่าจะมีการประชุมแกนนำเครือข่ายคาราวานคนจนทั่วทุกภูมิภาค ในวันที่ 13 ก.ค.
เกี่ยวกับการหารือทิศทางการเคลื่อนไหวของเครือข่าย ล่าสุดการประชุมดังกล่าวได้ยกเลิกไป
เนื่องจากการประสานแกนนำที่ผ่านมาพบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมที่จะเคลื่อนไหวในเวลานี้


การประชุมทุกภูมิภาคได้มีการสั่งยกเลิกไม่ว่าจะเป็นในส่วนของภาคอีสานที่จ.สกลนคร
กลุ่มรถตู้ที่กำหนดการประชุมกันที่ จ.อยุธยา
และกลุ่มแท๊กซี่ กลุ่มสามล้อที่มีกำหนดการจะประชุมกันที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด
ก็ได้มีการยกเลิกไปพร้อม ๆ กัน โดยสาเหตุหลักมาจากความไม่พร้อมของสมาชิก
เนื่องจากช่วงนี้อยู่ระหว่างการทำนา ซึ่งทุกคนต่างให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาเป็นอันดับแรก
โดยเฉพาะในส่วนของพี่น้องในภาคอีสานนายอรรถฤทธิกล่าว


นายอรรถฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการเคลื่อนไหวในครั้งต่อไปนั้น
เบื้องต้นยังไม่ได้มีการหารือกัน คงต้องรอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน
ถึงจะมีการประชุมหารือการเคลื่อนไหวอีกครั้ง
นอกจากนี้การยุติการเคลื่อนไหวของเครือขายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การประชุมเครือข่ายคาราวานคนจนได้ยกเลิกการประชุมไป

นายกฯ ปฏิเสธไม่ทราบเรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณายุบพรรค
พร้อมยืนยัน ไม่มีรัฐมนตรีขอลาออก

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ปฏิเสธ ยังไม่ทราบรายละเอียด
กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคดียุบพรรคการเมืองไว้พิจารณาในสารระบบ
รวมถึงยังไม่ทราบว่าจะส่งตัวแทนไปชี้แจงหรือไม่
แต่พรรคไทยรักไทย มีฝ่ายกฎหมายดูเรื่องนี้อยู่แล้ว
และไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ต้องการให้ตนเองไปชี้แจงหรือไม่

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่มีรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งขณะนี้
ซึ่งก่อนหน้านี้ มีข่าวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี
และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมยื่นหนังสือลาออก



ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์[/color:2580aa0ba9">

ตุลาการศาลรธน.มีมติเอกฉันท์รับพิจารณายุบ 5 พรรค

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์รับคำร้องยุบ 5 พรรคการเมือง
เตรียมส่งเรื่องให้ 5 จำเลยส่งคำชี้แจงภายใน 15 วันก่อนเดินเครื่องพิจารณาคำร้อง
อุระยันไม่ดึงเรื่องให้ช้าแน่

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายอุระ หวังอ้อมกลาง ว่าที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
พร้อมด้วยนายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
ได้แถลงถึงผลการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคำร้องที่สำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.)
ได้ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยยุบ 5 พรรคการเมือง


นายไพบูลย์ กล่าวว่า
ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนญูได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องที่ 19/2549 ? 23/2549
ซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักงานอัยการสูงสุดขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยคำร้องยุบพรรคการเมือง 5 พรรค
ประกอบด้วย พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรคพัฒนาชาติไทย พรรคแผ่นดินไทย พรรคไทยรักไทย และพรรคประชาธิปัตย์
โดยคำร้องของอสส.ที่ขอให้พิจารณายุบประชาธิปไตยก้าวหน้า
ซึ่งอสส.ได้ยื่นคำร้องตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 67
เนื่องจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า โดยนางสาวอิสรา หรือพรณารินทร์ ยวงประสิทธิ หัวหน้าพรรค
และเป็นผู้แทนของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า
กระทำการอันเป็นปฎิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ
และกระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย
หรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามพรบ.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 (2) และ(3)

ส่วนการพิจารณาคำร้องของออส. ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพัฒนาชาติไทยนั้น
อสส.ได้ยื่นคำร้องตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ตรา 67
เนื่องจากพรรคพัฒนาชาติไทย โดยนายบุญทวีศักดิ์ อมรสินธุ์ หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย
และเป็นผู้แทนของพรรคพัฒนาชาติไทย กระทำการอันเป็นปฎิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ
และกระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย
หรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามพรบ.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 (2)

นอกจากนี้อัยการสูงสุดยังได้ส่งคำร้องขอให้ยุบพรรคแผ่นดินไทย
เนื่องจากพรรคแผ่นดินไทย โดยนายบุญอิทธิพล หรือบุญบารมีภณ ชิณราช
หัวหน้าพรรคแผ่นดินไทย เป็นผู้แทนของพรรคแผ่นดินไทย
กระทำการอันเป็นปฎิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ
และกระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย
หรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามพรบ.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 (2) และ(3)

สำหรับคำร้องที่อสส.ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไทยรักไทย ตามพ.ร.บ.
ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 66 และ67 โดยข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏว่า
เมื่อวัยที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมานายสุเทพ เทือกสุวรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
ได้ร้องเรียนต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ว่า
มีการสมคบระหว่างผู้บริหารพรรคไทยรักไทย เจ้าหน้าที่พรรคการเมืองอื่น
และเจ้าหน้าที่กกต.เปลี่ยนแปลงข้อมูลสมาชิกพรรค
และว่าจ้างพรรคเล็กให้ลงสมัครส.ส.ในการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา
เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ตามมาตรา 74 ของพ.ร.บ.
ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และ ได้ตั้งส.ว.
ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองได้พิจารณาและเห็นพ้องตามที่คณะอนุกรรมการฯเสนอความเห็นมา
โดยน่าเชื่อว่า การกระทำของกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเป็นการกระทำในฐานะตัวแทนของพรรค
ซึ่งมีลักษณะเป็นการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครอง
ในวิถีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ
หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศรีธรรมอันดี
ตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 66 (1)และ (3)


และในคำร้องที่อสส.ส่งคำร้องมาให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์
ตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 66 และมาตรา 67
โดยข้อเท็จจริงตามคำร้องสรุปว่า นายวิชิต ปลั่งศรีสกลุ และพวก 6 คน ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย
ร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่า พรรคประชาธิปัตย์กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้ง
โดยร่วมกับกลุ่มพันธมิตรล้มล้างรัฐบาล เสนอขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งส.ส.
ชักจูงให้ประชาชนไปลงคะแนนในช่องที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนน จ้างพรรคชีวิตที่ดีกว่า
พรรคพัฒนาชาติไทย พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ให้ใส่ร้ายพรรคการเมืองอื่น
และขัดขวางการลงสมัครรับเลือกตั้ง จ.สงขลา
ซึ่งอสส.ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคตามมาตรา 67 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง
เนื่องจากหัวหน้า รองหน้าหน้า เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค
กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
หรือกระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ
หรือขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อย หรือศรีธรรมอันดีของสังคม
ตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 66 ( 2)และ( 3)


นายไพบูลย์ กล่าวว่า
ทั้งนี้ก่อนนำคำร้องทั้ง 5 เข้าที่ประชุมนั้น ที่ประชุมก็ได้พิจารณาคำร้องคัดค้านของรักษาการ 14 ส.ว.
ที่ขอให้นายจุมพล ณ สงขลา และพล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเวโช ให้ถอนตัวออกจากองค์คณะ
เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดี
โดยที่ประชุมได้มีมติว่า คำร้องดังกล่าวไม่มีเหตุให้ตุลาการทั้ง 2 คนจากการเป็นองค์คณะจึงให้ยกคำร้อง
ส่วนคำร้องของให้ยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 ที่ประชุมมีมติให้รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
และให้ส่งสำเนาคำร้องพร้อมเอกสารประกอบให้พรรคการเมืองทั้ง 5 พรรค
ยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
ซึ่งก็น่าจะเพียงพอต่อการรวบรวมเอกสารลายละเอียดมาให้
เมื่อส่งเอกสารมารายละเอียดมาให้ ก็จะนำมาอภิปรายร่วมกันก่อน


ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการยุบพรรคนั้นจะรวมสำนวนเข้าด้วยกันและพิจารณาไปในคราวเดียวกันหรือไม่
นายอุระ หวังอ้อมกลาง ว่าที่ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า
เรื่องดังกล่าวนั้นมีมติให้รับเรื่องไว้พิจารณาด้วยเสียงเอกฉันท์ ซึ่งก็จะมีการอภิปรายร่วมกันก่อนว่า
จะสามารวมพิจารณา และสืบพยาน ไปในคราวเดียวกัน ได้เลยหรือไม่
และขณะนี้ก็ได้มีการตั้งกลุ่มงานคดีขึ้นมาดูเรื่องดังกล่าวแล้ว อีกทั้งจะใช้เวลาช่วง 15 วัน
ที่รอการชี้แจงของผู้ที่ถูกร้องคณะตุลาการก็จะศึกษาคำร้องดังกล่าวควบคู่กันไปด้วย


เมื่อถามต่อว่า จะมีการพิจารณาอย่างต่อเนื่องและให้เสร็จก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค.หรือไม่
นายอุระ กล่าวว่า ขอดูสำนวนก่อนว่าจะมีรายละเอียดเนื้อหามากน้อยแค่ไหน
หากมีรายละเอียดมากก็จะมีการเสนอเป็นประเด็นไป
ส่วนจะมีการอภิปรายอย่างต่อเนื่องหรือสลับกันไปก็ต้องนำเข้าอภิปรายก่อน
และการกำหนดเวลาก็จะตามมา
อย่างไรก็ตามตนไม่หนักใจอะไรต่อคำร้องนี้ เพราะเรามีหลักในการพิจารณา

โดยปกติเราพิจารณาไปตามเนื้อหาคำร้อง
ซึ่งในการพิจารณาจะพิจารณาด้วยความรอบครอบพอสมควร
ทั้งนี้คดีดังกล่าวนี้มีข้อกฎหมายไม่มาก ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง
พิจารณาอย่างไรก็พิจารณาตามที่เราได้
แต่อย่างไรก็ตามศาลก็จะเปิดโอกาสให้คู่กรณีชี้แจงมายังศาลก่อนถึงจะรู้ว่า
จะต้องมีการพิจารณาอย่างต่อเนื่องหรือไม่
ส่วนที่จะให้มีการเปิดไต่สวนด้วยการออกนั่งบัลลังก์ หรือไม่
จะต้องรอดูคำชี้แจงที่ผู้ถูกร้องส่งกลับเข้ามา
แต่อย่างไรก็ศาลฯจะอำนวยความยุติธรรมให้กับ 5 พรรคการเมืองที่ถูกร้องอย่างเต็มที่


ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสสังคมที่เป็นห่วงในความเป็นกลางของศาลรัฐธรรมนูญ
ว่าที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า
ขอให้เข้าใจว่าตุลาการทุกคนมีความเป็นกลางอยู่แล้ว
ตนขอยืนยันให้เชื่อใจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคน
เพราะไม่มีใครที่จะสามารถมาชี้นำตุลาการได้
ทุกคนจะพิจารณาโดยดูจากข้อกฎหมาย สำนวนโดย ไม่มีอคติ ไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
และจะไม่มีการดึงเรื่องที่จะพิจารณาให้ช้าตามที่หลายฝ่ายเป็นห่วง

ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3

ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3