May 6, 2024   2:40:39 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > "กระทิงเดือน 7" "สิงหา-ตุลา" SET มีสิทธิ
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 02/07/2006 @ 13:06:19
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เปิด 13 เหตุผลจาก บล.ทรีนีตี้ ทำนายทิศทางตลาดหุ้น กรกฎาคม (เดือน 7) มีสิทธิเห็น กระทิงรีบาวนด์ ก่อนดำดิ่งทำ New Low ช่วง สิงหาคม-ตุลาคม หลุด 600 จุด ส่วนทุนนอกของจริงต้องรอ เดือน 11



วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล รองกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ คาดว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกจะมีการปรับตัวขึ้นในเดือน กรกฎาคม 2549 หลังจากโดนแรงขายออกมาอย่างถล่มทลาย ซึ่ง บล.ทรีนีตี้ มองว่าแนวรับแถว 630-650 จุด เป็นแนวรับที่สำคัญ (ไม่น่าหลุด)

...การรีบาวนด์ครั้งนี้ มีแนวโน้มที่จะวิ่งไปถึง 680 จุด อย่างต่ำๆ แต่หากมี วอลุ่ม เข้ามาช่วยสนับสนุน โอกาสที่จะวิ่งไปมากกว่า 700 จุด ก็ใช่ว่าจะไม่มี!!

วิศิษฐ์ บอกว่า ในขณะนี้ฝ่ายวิจัย บล. ทรีนีตี้ เห็น 13 สัญญาณ ที่เป็นจุดบ่งบอกว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่จะดีดตัวกลับ (ระยะสั้น) ในเดือน กรกฎาคม และตลาดหุ้นอาจจะกลับมาคึกคัก(จริงๆ)อีกครั้ง ในเดือน พฤศจิกายน

สัญญาณแรก มองว่า ตลาดหุ้นไทยลดลงอย่างรวดเร็วภายใน 1 เดือน (10 พ.ค.-15 มิ.ย. ลดลงจาก 787 จุด ลงมาต่ำสุด 641 จุด ลดลงไป 146 จุด หรือ 18.55%) เพราะฉะนั้นมีโอกาสสูงที่เกิดการรีบาวนด์ (Oversold Rebound)

สัญญาณที่สอง นักลงทุนได้ซึมซับข่าวร้าย เรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันที่ 28 มิถุนายน 2549 แต่ถ้า เฟด ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% หุ้นจะปรับตัวลดลงทันที หลังจากนั้นจะขึ้นแรง

สัญญาณที่สาม ในทางเทคนิค ค่าเงินบาทต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ กำลังทำ Double Tops หมายความว่า ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นในเดือน กรกฎาคม ซึ่ง SET มีความสัมพันธ์กับการแข็งค่าเงินบาท..ถ้าเงินบาทแข็งขึ้น SET ก็มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น

สัญญาณที่สี่ ความต้องการเงินเยน (ญี่ปุ่น) จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก มีโอกาสที่ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 6 ปี จาก 0% เป็น 0.25% ทำให้เงินกู้ที่ถูก สวอป จากเยนเป็นดอลลาร์ จะถูกสวอปกลับมาเป็นเยน ซึ่งจะทำให้ค่าเงินเยนมีโอกาสแข็งขึ้น ทำให้เงินบาทแข็งขึ้นด้วยในเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม แต่ในระยะยาวการสวอปนี้ จะมีผลเสียต่อสินทรัพย์ทั่วโลก

สัญญาณที่ห้า ดัชนีในหมวดพลังงาน และน้ำมัน ยังคงอยู่ในรูปแบบ กระทิง (Bullish Pattern) โดยราคาน้ำมันดิบ ไม่หลุดแนวรับที่ 60-61 เหรียญต่อบาร์เรล และค่าการกลั่นยังคงอยู่ในระดับสูง 8-10 เหรียญต่อบาร์เรล

สัญญาณที่หก เงินร้อนจาก เฮดจ์ฟันด์ น่าจะขายหุ้นหมดแล้ว ในเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน ที่มียอดขายสุทธิมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สัญญาณที่เจ็ด เงินลงทุนในหุ้นต่างประเทศที่เหลืออยู่จะเป็นเงินลงทุนระยะยาว และยังคงอยู่ใน ตลาดเงิน เตรียมตัวที่จะซื้อหุ้น แต่คาดว่าจะซื้ออย่างหนักในเดือน พฤศจิกายน (เดือน 11)

สัญญาณที่แปด ส่วนต่างของผลตอบแทนหุ้น และพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี (Earnings Yield Gap) สูงสุดในรอบ 3 ปี แสดงว่าหุ้นให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรค่อนข้างมาก

สัญญาณที่เก้า เงินเฟ้อจะ พีค (สูงสุด) ในเดือนมิถุนายน 2549 และจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในครึ่งปีหลัง และดอกเบี้ยอาร์/พี 14 วัน (เงินกู้ยืมระหว่างธนาคาร) น่าจะทรงตัวในครึ่งหลังปี 2549

สัญญาณที่สิบ อัตราส่วนการซื้อ-ขายหุ้นของต่างชาติต่อมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งตลาด อยู่ในจุดต่ำสุด แสดงว่า ต่างชาติมีแนวโน้มขายหุ้นน้อยลง

สัญญาณที่สิบเอ็ด ผลประกอบการของหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี คาดว่าจะออกมาดี

สัญญาณที่สิบสอง มีหุ้นหลายตัวในตลาดให้ผลตอบแทนเงินปันผลมากกว่า 10%

สัญญาณที่สิบสาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจยืดเยื้อออกไป ซึ่งเป็นสุญญากาศทางการเมือง ขณะที่การถอดถอน กกต.(คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ถือเป็นข่าวดี

รองกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ค.) มีเงินทุนไหลเข้าประเทศกว่า 4.2 แสนล้านบาท เงินส่วนนี้ไม่ใช่เงินร้อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินฝากระยะเวลามากกว่า 6 เดือน คาดว่าเงินก้อนนี้จะทยอยครบกำหนดในเดือน ตุลาคม จนถึงสิ้นปี 2549 ซึ่งเงินก้อนนี้(บางส่วน)อาจจะไหลเข้าตลาดหุ้นในช่วงเดือน พฤศจิกายน ก็เป็นได้ แต่ Funds Flow ระยะยาวยังไม่เข้ามา

สำหรับการฟื้นตัว(ระยะสั้น)ที่จะเกิดขึ้นในเดือน กรกฎาคม ก็ต้องระมัดระวังเพราะคาดว่าจะปรับขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ จากนั้น SET มีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดครั้งใหม่ (New Low) ในเดือน สิงหาคม-ตุลาคม ต่ำกว่า 600 จุด (โดยมีเป้าหมายจุดต่ำสุด แถวๆ 590 จุด บวกลบ 20 จุด)

ส่วนเหตุผลที่มองว่า SET มีโอกาสทำ New Low นั้น วิศิษฐ์ บอกว่า เฟด อาจจะไม่หยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปลายไตรมาส 3 จุดสำคัญจริงๆ ต้องวัดใจว่า วันที่ 20 กันยายน และ 24 ตุลาคม เฟด จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกหรือไม่ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ส่วนหนึ่ง

ขณะที่การเมืองภายในประเทศอาจนำไปสู่การยุบพรรค รวมทั้งมีความเสี่ยงเรื่อง ภาวะเงินฝืด (มักเกิดตามหลังภาวะเงินเฟ้อ) และอาจเกิดผลกระทบจาก ค่าเงินเยน จะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลกปั่นป่วน มีแนวโน้มที่ต่างชาติจะขายสินทรัพย์รวมถึงหุ้น เพื่อนำเงินไปชำระหนี้เงินเยน

วิศิษฐ์ ยังบอกอีกว่า มีสถิติที่น่าสนใจอีกรายการหนึ่ง ก็คือ โดยปกติผลตอบแทนตลาดทุน จะให้ผลตอบแทนต่ำสุด ในปีที่ 2 ของการเลือกตั้งประธานาธิบดี อเมริกา ก่อนที่จะให้ผลตอบแทนสูงสุดในปลายปีที่ 3 ของการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งในปี 2549 ถือว่าเป็นปีที่ 2 ของวงจร

สำหารับกลยุทธ์ การลงทุน ในเดือน กรกฎาคม นั้น ถือว่า ยังคงมีความผันผวนสูงมาก จึงแนะนำให้เข้าสะสมหุ้นในช่วงที่ดัชนีอยู่แถวๆ 630-640 จุด โดยให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนไปยังหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นหลัก ได้แก่ หุ้น PTT, TOP, RRC และ LANNA (คาดการณ์รายได้ปีนี้โตขึ้น 50% จากธุรกิจเอทานอล) ขณะเดียวกันก็ให้เข้าเล่นเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ AP และ SPALI

ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ให้ ลดพอร์ตการลงทุน ในช่วงที่ตลาดมีการปรับตัวสูงขึ้น เพราะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยทยอยแคบลงตั้งแต่ไตรมาส 2 จากต้นทุนการเงินที่ค่อยๆ ปรับขึ้น และควรเข้าเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มเหล็ก ได้แก่ NSM, SSI และ GSTEEL เนื่องจากราคาเหล็กทรงยาว และเหล็กทรงแบนเพิ่มขึ้นมาแล้ว 15-22%

ในส่วนของหุ้น CPF และ AH ซื้อเก็บได้ เนื่องจากราคาหุ้นลงมาค่อนข้างลึก เช่นเดียวกับหุ้น SIM ที่จะมีผลประกอบการดีจากการส่ง SMS ทายผลฟุตบอลโลก

***************************************

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ[/color:a43e8363f9">

 กลับขึ้นบน
mr.w
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 490
#1 วันที่: 25/07/2006 @ 21:08:09 : re: "กระทิงเดือน 7" "สิงหา-ตุลา" SET มีส
.0009 .0009 .0009
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com