May 5, 2024   5:37:46 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 09/06/2006 @ 21:11:23
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นตัวเล็กตัวน้อยได้เวลาผงาด
ท่ามกลางการเมืองฉะกันต่อ

ถึงเวลาหุ้นตัวเล็กตัวน้อยผงาด!
บนสมรภูมิการเมืองไทยระอุอีกครั้ง-ต่างชาติกุมชะตากรรมตลาดหุ้นไทย
ค่ายASP คาดบจ.ในตลาดฯกำไร 4.83 แสนลบ.หรือเติบโต 4.3%
กำไรต่อหุ้นปีนี้โตแค่ 2.9% เชื่อ หุ้นขนาดกลาง - เล็ก จะOutperform
งานนี้เชียร์ซื้อ BEC, ERAWAN, INOX, MAJOR, PTT, STA และ TPI
ฟาก รณกฤต แห่ง ASL ฟันธง เลี่ยงหุ้นใหญ่ เพราะฝรั่งจ้องทุบ
เบนเข็มเก็งกำไรหุ้นเล็ก ประเมินผลงานไตรมาส2สวย CSL, MLINK และ IEC
ส่วนแสงธรรม สังกัดธนชาตแจกทีเด็ด JAS, TT&T, MLINKและ SAMART[/color:fafe9a2d92">[/size:fafe9a2d92">

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 09/06/2006 @ 21:17:44 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
ฝ่ายกลยุทธ์ บล.เอเซียพลัส จำกัด(มหาชน)(ASP)
ประจำเดือนมิถุนายน 2549 ระบุว่า
คาดกำไรสุทธิต่อหุ้นในปี 2549-2550 เติบโต 2.9% และ 6.7% ตามลำดับ
ฝ่ายวิจัย ASP คาดว่าในปี 2549 บจ.ในตลาดหลักทรัพย์
จะมีกำไรสุทธิรวมกันประมาณ 4.83 แสนล้านบาท เติบโต 4.3% จากปี2548
แต่เมื่อพิจารณาเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) พบว่าเท่ากับ 71.41 บาทต่อหุ้น
หรือเติบโตเพียง 2.9% ปรับลดลงจากเดิม 4.3% [/color:c53b26dc93">[/size:c53b26dc93">

ทั้งนี้เราได้ปรับสมมติฐานค่าเงินบาท
จากเดิม 40 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ
เป็น 38.50 บาทรวมถึงมีการเพิ่มทุนของบจ. สำคัญ
เช่น TPI, BAY, TMB ทำให้มี Dilution Effect เกิดขึ้น
ส่วนกำไรสุทธิของ บจ.ในปี 2550คาดการณ์มีอัตราการเติบโต 6.7%
เป็น 5.16 แสนล้านบาท หรือ EPS เท่ากับ 76.23 บาทต่อหุ้น[/color:c53b26dc93">[/size:c53b26dc93">

ฝ่ายกลยุทธ์ระบุว่า พบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ที่มีการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้นโดดเด่น (Outperform) ในปี 2549 ได้แก่
กลุ่มเหมืองแร่ ซึ่งมีเพียง PDIเพียงหุ้นเดียวในกลุ่มนี้เติบโตมากถึง 132% YoY
ในขณะที่กลุ่มท่องเที่ยว-สันทนาการ กลุ่มค้าส่ง-ปลีก กลุ่มบรรจุภัณฑ์
และสื่อ-สิ่งพิมพ์มีการเติบโตที่สูงกว่า 20% YoY
ส่วนกลุ่มที่มีกำไรสุทธิถดถอย (Underperform)
ได้แก่ กลุ่มขนส่ง ปิโตรเคมีการเกษตร ธนาคาร และของใช้ในครัวเรือน
สำหรับปี 2550 เราคาดว่ากลุ่มที่มีแนวโน้มกำไรสุทธิต่อหุ้นเติบโตโดดเด่น(Outperform)
ยังคงเป็นกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ติดตามมาด้วยกลุ่มการแพทย์
ส่วนกลุ่มที่กำไรสุทธิต่อหุ้นลดลง(Underperform)ได้แก่กลุ่มเหมืองแร่ และขนส่ง[/color:c53b26dc93">[/size:c53b26dc93">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 09/06/2006 @ 21:40:00 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
กลยุทธ์ระบุว่า หุ้นขนาดกลาง - เล็ก จะ Outperform
แต่จำไม่ทำให้ SET Index ปรับขึ้น
การขยายตัวของ EPS ตลาด ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.95% ในงวดปี 2549
จากการตรวจสอบในรายละเอียดพบว่า อัตราการเติบโตดังกล่าว
จะมาจากหุ้นกลุ่มที่มี MarKat Cap ขนาดใหญ่ 2 กลุ่ม
(MarKat Capรวมประมาณ 43%)
ได้แก่กลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ [/color:592ecdb114">[/size:592ecdb114">

ในอัตราส่วนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเพียง 0.38%
หมายถึงว่าอัตราการเติบโตของ EPS ตลาดส่วนที่เหลืออีก 2.57%
จะกระจายอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มี MarKat Cap ขนาดกลาง-เล็ก
ซึ่งผลดังกล่าวทำให้เชื่อว่าความน่าสนใจสำหรับการลงทุนในหุ้น
น่าจะถูกกระจุกตัวอยู่ในหุ้นกลุ่มที่มี MarKat Cap ขนาดกลาง-เล็ก
และน่าจะทำให้หุ้นดังกล่าวสามารถที่จะOutperform ตลาดฯได้ไม่ยาก
แต่การที่ความสนใจของหุ้นมาอยู่ที่หุ้นขนาดกลาง-เล็ก
ซึ่งมีน้ำหนักในการขับเคลื่อนตลาดน้อย
จะทำให้SET Index มีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่ไม่กว้างนัก[/color:592ecdb114">[/size:592ecdb114">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#3 วันที่: 09/06/2006 @ 21:47:54 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
กลยุทธ์การลงทุนเดือน มิถุนายน 2549
คาดว่าตลาดยังมีความเปราะบาง
แรงซื้อกลับยังไม่หนาแน่นเพียงพอที่จะทำให้ปรับตัวขึ้นไปได้อย่างต่อเนื่อง
ตลาดจึงมีภาวะการเก็งกำไรสูง
ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำเลือกลงทุนรายกลุ่มเน้นที่กลุ่มพลังงาน บันเทิง
และเก็งกำไรสินค้าโภคภัณฑ์และเหล็กบางตัว
หุ้นแนะนำซื้อได้แก่ BEC, ERAWAN, INOX, MAJOR, PTT, STA และ TPI
หุ้นแนะนำขาย ได้แก่ BSBM และ TRUE [/color:0b18a64ee4">[/size:0b18a64ee4">

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์
บริษัทหลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน จำกัด(มหาชน)(ASL)กล่าวว่า
แนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์หน้า(14-16 มิ.ย.)
ดัชนีตลาดหุ้นน่าจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
เนื่องจากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ย
ขณะที่สถานการณ์การเมืองภายในประเทศส่อเค้าว่าจะรุนแรงขึ้น
ทั้งกระแสการลาออกของลูกพรรคไทยรักไทย และการฟ้องร้อง[/color:0b18a64ee4">[/size:0b18a64ee4">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#4 วันที่: 09/06/2006 @ 21:50:07 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
ในสัปดาห์หน้าภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นมีโอกาสที่จะปรับฐานต่อ
เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้นการลงทุน
ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา
ประกอบกับสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยังไม่มีความชัดเจน
ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ
ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าดัชนีตลาดน่าจะหลุดแนวรับ 670 จุดนายรณกฤตกล่าว[/color:5e62e3d73a">[/size:5e62e3d73a">

สำหรับกลยุทธ์ในการลงทุนสัปดาห์หน้า
ควรหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่
เพราะอาจเจอแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ
โดยหันมาเล่นหุ้นขนาดเล็กที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2
จะออกมาโดดเด่นซึ่งในกลุ่มสื่อสารได้แก่ CSL, MLINK และ IEC
ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นน่าจะเริ่มฟื้นตัวในสัปดาห์นี้
กลุ่มเหล็กได้แก่ BSBM,TMT
กลุ่มบันเทิงซึ่งจะได้รับผลดีจากฟุตบอลโลกได้แก่ BEC และ PDI
ที่จะได้รับผลดีจากราคาสังกะสีที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ประเมินแนวรับในสัปดาห์หน้าไว้ที่ 660 จุด แนวต้าน 690 จุด[/color:5e62e3d73a">[/size:5e62e3d73a">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#5 วันที่: 09/06/2006 @ 21:55:57 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการอาวุโส
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัดกล่าวว่า
แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้า
น่าจะปรับตัวขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
โดยมองว่าสัปดาห์หน้าตลาดหุ้นสหรัฐฯน่าจะเริ่มฟื้นตัว
ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองไม่กดดันบรรยากาศการลงทุนมากนัก
เพราะเชื่อว่าสถานการณ์การเมืองจะไม่รุนแรง[/color:c5bf8fa43c">[/size:c5bf8fa43c">

ในช่วงนี้ปัจจัยที่มีผลกับการเคลื่อนไหวของดัชนี
ส่วนใหญ่เป็นปัจจัยภายนอกประเทศ
หากสัปดาห์หน้า ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวตลาดหุ้นไทยก็น่าจะฟื้นตัวตาม
ขณะที่ปัจจัยในประเทศไม่มีผลกับภาวะการลงทุนมากนักนายแสงธรรมกล่าว[/color:c5bf8fa43c">[/size:c5bf8fa43c">

อย่างไรก็ดี หากมองว่าสัปดาห์หน้าจะฟื้นตัว
หุ้นขนาดเล็กก็น่าจะรีบาวน์ตามด้วย
ซึ่งหุ้นขนาดเล็กที่มีทิศทางที่ดีได้แก่กลุ่มสื่อสาร เช่น JAS, TT&T, MLINK และ SAMART
ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ยังสามารถทยอยซื้อสะสมได้
แม้ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงแรง
แต่พื้นฐานของบริษัทไม่ได้เปลี่ยนแปลง โดยแนะนำ PTT, PTTEP, TOP,BBL, KBANK[/color:c5bf8fa43c">[/size:c5bf8fa43c">

ทั้งนี้ประเมินดัชนีตลาดแนวรับไว้ที่ 660 จุด แนวต้าน 690-700 จุด[/color:c5bf8fa43c">[/size:c5bf8fa43c">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com