กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :
วันชัย มโนสุทธิทิ้งเพาเวอร์ ผลราคารูดติดฟลอร์

๐ยังไม่ฟื้นจริงๆสำหรับหุ้นไทย วานนี้(8มิ.ย.) ยังร่วงต่ออีก 12.59 จุด
มาที่ 675.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 12,150 ล้านบาท
แต่ไม่ใช่หุ้นไทยเท่านั้นที่รูด ตลาดหุ้นทั้งภูมิภาคเอเชีย ก็เป๋ไปด้วยทั้งหมด
กระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ยังไม่หยุด
เลือดยังคงไหลไปลงทุนในตลาดสหรัฐ
ส่วนนักลงทุนต่างชาติ ก็ยังเทขายอีก 1,743 ล้านบาท

๐หุ้นเพาเวอร์-พี (POWER) ร่วงติดฟลอร์ วานนี้ปิดที่ราคา 2.34 บาท
ลดลง 0.98 บาท เปลี่ยนแปลง 29.52% มูลค่าการซื้อขายรวม 50.24 ล้านบาท
สาเหตุที่หุ้นรูดไม่เป็นท่า แถมทำสถิติต่ำสุดในรอบปีด้วย
คงเป็นเรื่องผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 อย่าง วันชัย มโนสุทธิ
เทขายหุ้นออกมา 8.13% คิดเป็น 17 ล้านหุ้น ทำให้การถือหุ้นเหลือ 16.33%
พอแง้มไปดูรายงานคนที่รับซื้อไม่ใช่ใครอื่นไกลเป็น ราชศักดิ์ สุเสวี
ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ไง ไม่รู้ว่าโอนหรือขายให้กันแน่
เพราะไม่ได้แจ้งราคาทำรายการครั้งนี้


๐วานนี้เช่นกัน บีอีซีเวิลด์ (BEC) หรือทีวีสีช่อง 3 ในงานพบนักวิเคราะห์และนักลงทุน
ฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายเงิน บ่นอุบให้ฟังว่า
ถูกฝรั่งเอาหุ้นไปชอร์ตเซลเป็นประจำ รอบนี้ทุบร่วงจาก 16 บาทเหลือ 14บาท
แหม!เจ็บใจจริง ทำไมเวลาหุ้นร่วงๆนักลงทุนไทยไม่เข้าไปรับซื้อบ้างน๊า
อยากให้นักลงทุนไทยรับผลตอบแทนที่ดีบ้าง
ถ้าใจแข็งถือหุ้นช่อง 3 ไว้รับปันผลที่จ่ายไม่ต่ำกว่า 100% ของกำไรสุทธิต่อหุ้น
ปีนี้ก็เหมือนกัน เห็นเศรษฐกิจซึมๆอย่างนี้ ยังรับปากว่าจะจ่ายให้ได้อีก
บอกเงินสดเหลือเยอะ 2 พันล้านบาท
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้น่าจะเป็นเติบโตมากสุด
เพราะมีฟุตบอลโลกสนับสนุน ทั้งปี
ก็น่า โอ้โฮ ถือว่าเป็นบริษัทใหญ่รึงัย อย่างงี้เรียกว่าเชียร์หุ้นตัวเองมั๊ย?

๐พอให้ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง กลับไม่กล้าฟันธง
ฉัตรชัย เทียมทอง ได้แต่เปรยว่า ปีนี้หากจะปรับขึ้นค่าโฆษณาคงทำได้ยาก
เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่บริษัทมีวิธีหารายได้จากช่องทางอื่นแทน
เช่น ยืดเวลาละครให้มีโฆษณาเยอะขึ้น แค่นี้ก็คุ้มกว่าขึ้นค่าโฆษณาอีกน๊ะจะบอกให้
เออ งานนี้แฟนละครช่อง 3 ต้องทำใจได้ดูโฆษณาเพิ่มอีกชัวร์...

๐ตื้ออยู่ตั้งนานสองนาน ชเนศร์ เพ็ญชาติ เอ็มดี จุฑานาวี (JUTHA)
ก็ไม่หลุดปากสักทีว่าจะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการงวดปีนี้หรือไม่
เอาแต่ยึกยัก!! สงสัยว่าจะเกรงบารมีฝ่ายตรวจสอบการให้ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์
หรือไม่ก็หวั่นเกรงก.ล.ต. กระจิบข่าวเห็นท่าทางแบบนี้ก็ถอดใจไม่อยากซักไซร้ต่อแล้ว
แต่ในท้ายที่สุดเอ็มดีปากหนัก ก็ต้องยอมพยักหน้า
เมื่อนักลงทุนที่มาร่วมฟังการนำเสนอข้อมูลในงานพบนักลงทุน
คำนวณให้เสร็จสรรพว่า ถ้าสิ้นปีมีกำไรสะสม 120 ล้านบาทอย่างที่บอกจริง
ก็เท่ากับจ่ายปันผลได้ คิดตามนโยบายจ่ายไม่เกิน 50%
ก็น่าจะจ่ายได้หุ้นละ 0.75 บาท ใช่มั้ย? ... เห็นมั้ยละ นักลงทุนสมัยนี้ไม่ธรรมดา

๐หลังจาก บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) (KEST) ประกาศชัดแจ้งว่า
งานไอพีโอปีนี้ไม่เข้าเป้าเพราะภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย
บรรดาบริษัทจดทะเบียนทั้งหลายที่ตั้งเป้าเข้าระดมทุนในตลาด
ก็หนีหายไปด้วยเหตุผลเดียวกัน....
โดยล่าสุด บริษัท ควอลิตี้ มิเนอรัล และ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์
ซึ่งมีบล.ไอเอฟซีที แอดไวเซอรี เป็นที่ปรึกษาได้ยกเลิกแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว
เนื่องจากเห็นว่าภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย และไฟลิ่งที่ยื่นไว้หมดอายุแล้ว ..
แว่วข่าวแบบนี้เห็นทีโบรกฯที่ตั้งความหวังกับดีลไอพีโอไว้เยอะจะถึงคราวอับจนหนทางเสียแล้ว!!