ตลาดหุ้นดิ่งเหวหาแนวรับไม่เจอ ต้องรอลุ้นกันอีกทีหลังฟุตบอลโลก
เพราะเห็นนัยของเม็ดเงินที่ไหลออกจากตลาดทุน
นอกเหนือจะไหลไปหาตลาดเงินแล้ว
บ่อนการพนันเป็นอีกแหล่งที่มีเงินหมุนเวียนมูลค่ามหาศาล

*เห็นมีนักลงทุนโทรมาฝากข้อความทิ้งคำถามไว้ว่า
หากทรท.ถูกยุบตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร ถือว่าเป็นคำถามที่น่าสนใจทีเดียว
เพราะต้องยอมรับว่ารัฐบาล ภายใต้พรรคไทยรักไทย
ดูเหมือนเป็นห่วงเป็นใยตลาดหุ้นมากกว่ารัฐบาลชุดอื่นๆ
เมื่อถามว่าเมื่อยุบทรท.จะลงทุนอย่างไร
คงต้องบอกกลับไปดูลงทุนในหุ้นพื้นฐาน
ที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 7% เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันไว้ก่อน

*ช่วงหุ้นขาลงเช่นนี้ น่าจะเป็นโอกาสทองที่จะได้เลือกสรรหุ้นดีราคาถูกเข้าพอร์ต
เพราะเชื่อได้เลยว่าไม่เกิน 1 เดือนน่าจะได้เห็นสัญญาการรีบาวด์ชัดเจนขึ้น

*หุ้น BH น่าจับตาดูให้ดีจะเป็นดาวรุ่ง หลังปรับแผนธุรกิจใหม่
หันมาเน้นคนไข้ต่างชาติ ทำให้แนวโน้มรายได้มีทิศทางดีขึ้นอย่างชัดเจน

*เช่นเดียวกับ PYT ล่าสุดวิชัย ทองแตงกำลังเจรจากลุ่มทุน
จากตะวันออกกลางเพื่อดึงเข้ามาร่วมทุนในหุ้น PYT
แม้ล่าสุดปัญหาที่ค้างอยู่ในศาลล้มละลาย ยังไม่จบก็ตาม
แต่เชื่อว่าก่อนสิ้นปีนี้แผนเพิ่มทุนน่าจะได้ข้อสรุป

*น่าคิดหนักอยู่เหมือนกันว่า หากมติเรกูเลเตอร์ชี้ชัดออกมาว่า
RATCH-EGCOMP จะเข้าประมูลไอพีพีได้ก็ต่อเมื่อกฟผ.ลดสัดส่วนถือหุ้นไม่ให้เกิน 10%
นั่นจะทำให้อำนาจการแข่งขันเชิงธุรกิจลดลงไปทันที
ปัญหาที่ตามมาคือกำไรของทั้ง 2 บริษัทก็จะคงที่ต่อไป
และที่สำคัญคงต้องหันไปพึ่งรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศแทน

*ในทางกลับกัน GLOW-BANPU-TOP จะดูน่าสนใจมากขึ้น
เพราะด้วยไอพีพีที่จะเปิดประมูลต้นปีหน้ากว่า 6,000 เมกะวัตต์ ก็น่าจะได้แบ่งเค้กกันไปทั่วหน้า
เพราะดูจากฐานะการเงินของทั้ง 3 บริษัทแล้ว ทำได้รายละไม่เกิน 1,000 เมกะวัตต์

*แผนลงทุนโรงงานเอทานอลของ TOP ชัดเริ่มมีปัญหา
ล่าสุดพันธมิตรโรงงานมันเส้น ชักเริ่มคุยกันไม่รู้เรื่อง
จนเฮียวิโรจน์ วิโรจน์ มาวิจักณ์ เอ็มดีใหม่ไทยออยล์
เตรียมหันจับพันธมิตรหน่วยงานรัฐแทน
แต่จะเป็น กระทรวงพลังงานหรือกระทรวงเกษตรฯเดี๋ยวคงได้รู้กัน

*แต่ที่แน่ๆตอนนี้ LANNAกำลังไปได้ดีกับธุรกิจเอทานอล
ว่ากันว่ากำไรปีนี้จะมาจากธุรกิจเอทานอล ไม่ต่ำกว่า 70%
และไม่เกินปีหน้า สัดส่วนรายได้ ที่เคยพึ่งพาถ่านหินจะกลับกลายมาเป็นเอทานอลแทน

*หุ้นกลุ่มอิเลกทรอนิกส์ น่าจะเป็นอีกทางเลือกช่วงตลาดขาลง
เพราะจากตัวเลขดัชนีอุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ล่าสุดพบว่า
มีการขยายตัวขึ้นกว่า 25% ทำให้ทั้ง DELTA-HANA น่าลงทุน
โดยเฉพาะหุ้น DELTA งบไตรมาส 2 มีเซอร์ไพรส์แน่