ทีพีไอ หยุดขายน้ำมันให้ ทีพีไอ ออยล์ เหตุเพราะติดหนี้ค่าน้ำมันถึง 2,000 ล้านบาท และหันไปขายน้ำมันให้ดีลเลอร์ปั๊มทีพีไอโดยตรง และน้ำมันเขียวขายผ่าน ปตท.พร้อมจี้บอร์ด ทีพีไอ ออยล์ เรียกประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนคณะกรรมการ ซึ่งหากไม่ทำ ผู้ถือหุ้นจะดำเนินการเอง ขณะที่ด้าน ตลท.พร้อมปรับให้ออกจากหมวดฟื้นฟูกิจการ หลังปลด ประชัย พ้นบอร์ด ส่วนต้นเดือนกรกฎาคมนี้ จะยุบกลุ่มรีแฮปโก้ลง โดยทีพีไอจะกลับไปอยู่ในหมวดปิโตรเคมี แต่จะขึ้นเครื่องหมาย C เอาไว้ก่อน

นายปิติ ยิ้มประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (TPI) หรือ ทีพีไอ กล่าวว่า บริษัทได้ตัดสินใจยุติขายน้ำมันให้กับบริษัท ทีพีไอ ออยล์ จำกัด บริษัทลูกที่ทีพีไอถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99 ของหุ้นทั้งหมด ตั้งแต่วันนี้ (6 มิ.ย.) เป็นต้นไป เนื่องจากบริษัท ทีพีไอ ออยล์ ที่มีคณะผู้บริหารประกอบด้วยบุคคลในครอบครัวของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ทำหน้าที่บริหารงานบริษัทอยู่ ติดค้างไม่ชำระค่าน้ำมันให้กับทีพีไอ เป็นยอดเงินถึงเกือบ 2,000 ล้านบาท จากที่ปกติแล้วจะชำระกันภายใน 3-7 วัน ซึ่งหากทีพีไอ ยังคงขายน้ำมันให้กับทีพีไอออยล์ต่อไป ก็จะทำให้เกิดปัญหาขาดสภาพคล่องไม่มีเงินซื้อน้ำมันมากลั่นได้อีกต่อไป

นายปิติ กล่าวว่า แต่ละเดือน ทีพีไอต้องซื้อน้ำมันดิบที่มีราคาถึง 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ถึง 6 ล้านบาร์เรล หรือ 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แพงกว่าคุณภาพดีกว่า มาป้อนโรงกลั่น เพราะโครงสร้างโรงกลั่นมีความซับซ้อนน้อยกว่า จึงจำเป็นต้องยอมเจ็บเพื่อรักษาส่วนใหญ่เอาไว้ สำหรับน้ำมันของทีพีไอ จะขายให้กับสถานีบริการน้ำมันที่เป็นของดีลเลอร์โดยตรง และน้ำมันเขียวทีพีไอ ขายผ่านบริษัท ปทต จำกัด (มหาชน) ดังนั้น ชาวประมงที่ใช้น้ำมันเขียวจึงไม่เดือดร้อนแต่อย่างใด

สำหรับสาเหตุที่ทีพีไอ ออยล์ ไม่ชำระค่าน้ำมันรวมเกือบ 2,000 ล้านบาท แม้จะเป็นบริษัทลูกที่ทีพีไอถือหุ้นร้อยละ 99.99 ก็ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการใดๆ ได้ เพราะอำนาจบริหารจัดการบริษัท ทีพีไอ ออยล์ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่เป็นคนในครอบครัวของนายประชัย เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว บริษัททีพีไอ ได้ส่งหนังสือไปยังบริษัท ทีพีไอ ออยล์ ให้คณะกรรมการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริษัท ทีพีไอ ออยล์ ใหม่ แต่ถ้าหากคณะกรรมการบริษัท ทีพีไอ ออยล์ ไม่ดำเนินการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น กฎหมายระบุไว้ว่า ผู้ถือหุ้นสามารถดำเนินการแทนได้ ซึ่งปัจจุบันโครงสร้างถือหุ้นทีพีไอเปลี่ยนไปมากแล้ว ทั้งนี้ บริษัท ทีพีไอ จะพยายามรวบรวมอำนาจการบริหารเข้ามาไว้ให้ได้ทั้งหมดต่อไป

นายปิติ กล่าวว่า ทีพีไอ ออกจากแผนฟื้นฟูไม่ได้มีการดูมาถึงบริษัทลูกที่มีนายประชัย และครอบครัว เป็นคณะกรรมการผู้บริหารอยู่ด้วย เพราะมุ่งแต่ให้ทีพีไอ สามารถออกจากแผนฟื้นฟูให้ได้ และปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เกิดช่วงว่างของกฎหมายที่ทำให้ บริษัท ทีพีไอ ไม่สามารถจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นได้เอง ต้องให้คณะกรรมการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น

ด้าน นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อพิจารณาให้บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอ พ้นจากการเป็นบริษัทที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ และย้ายออกจากหมวดฟื้นฟูกิจการ (รีแฮปโก้) กลับไปยังหมวดปกติได้ หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของทีพีไอ มีมติปลดนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ออกจากการเป็นกรรมการแล้ว โดยทีพีไอ มีกำหนดการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาวาระดังกล่าวในวันที่ 20 กรกฎาคม นี้

ตลท.จะไม่พิจารณาให้ทีพีไอย้ายกลับมาซื้อขายในหมวดปกติ หากบริษัทยังไม่ปลดนายประชัย ซึ่งเป็นกรรมการที่ขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับของ ตลท. ออกจากการเป็นกรรมการของบริษัทก่อน ซึ่งที่ผ่านมา คณะกรรมการของทีพีไอได้ส่งหนังสือเพื่อขอกลับมาซื้อขายในกลุ่มปกติ แต่ ตลท.ได้แจ้งกลับไปว่า บริษัทต้องดำเนินการกับกรรมการที่ขาดคุณสมบัติก่อน อย่างไรก็ตาม ในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ตลท. จะยุบกลุ่มรีแฮปโก้ลง ซึ่งระหว่างนั้น ทีพีไอจะกลับไปอยู่ในหมวดปิโตรเคมี แต่จะขึ้นเครื่องหมาย C เอาไว้ เพื่อให้นักลงทุนทราบว่า บริษัทยังไม่หลุดจากการเป็นบริษัทที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ตามข้อบังคับของ ตลท.

นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ตามเกณฑ์ของ ตลท. หากหลักทรัพย์ใดมีจำนวนหุ้นหมุนเวียน (ฟรีโฟลท) ต่ำกว่าร้อยละ 20 จะถูกถอนชื่อจากดัชนีเซ็ท 50 และหากบริษัทนั้น ต้องการกลับมาอยู่ในการคำนวณดัชนีเซ็ท 50 อีกครั้ง ก็ต้องหาวิธีการแก้ไขฟรีโฟลทให้กลับมาสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มทุน หรือการที่ผู้ถือหุ้นเดิมนำหุ้นออกมาขายในตลาด เป็นต้น สำหรับในกรณีของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันมีกลุ่มเทมาเส็กถือหุ้นอยู่เกือบทั้งหมดนั้น ตลท.ยังต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะต้องถอดออกจากการคำนวณดัชนีเซ็ท 50 หรือไม่ โดยคาดว่าจะทราบข้อสรุปในกลางเดือนนี้

ที่มา กระแสหุ้น[/color:9c1615aa18">

อย่างนี้งบออกมาจะเป็นไงครับ tpi

คิดไม่ออกเลย ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3

ถือเป็นหุ้นระยะยาว จิง จิง