April 28, 2024   1:20:51 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > วัดกันที่ผลตอบแทน
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 01/06/2006 @ 15:58:41
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

วัดกันที่ผลตอบแทน

--------------------------------------------------------------------------------

มาถึง ณ ขณะนี้ นักลงทุนทุกคน คงจำเป็นต้องทำใจยอมรับให้ได้แล้วว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงที่ไม่สามารถจะเข้าไปเก็งกำไร โดยการซื้อหุ้นเพื่อหวังส่วนต่างของราคา(capital gain) ในระยะสั้นๆ ได้อย่างเช่นที่เคยทำได้เป็นประจำในช่วงหลายๆเดือนที่ผ่านมา
เหตุเพราะปัจจัยที่กำลังมีอิทธิพลต่อราคาหุ้นในตลาดยามนี้ แทบจะทุกปัจจัย ล้วนบ่งบอกไปในเชิงลบทั้งสิ้น
ที่สำคัญ คือปัจจัยลบเหล่านั้น เกิดขึ้นทั้งจากสถานการณ์ภายในประเทศและต่างประเทศ
ในประเทศ เหตุการณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวทางด้านการเมืองที่งวดเข้ามาทุกที หรือปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจมหภาค ตลอดจนตัวแปรต่างๆ ทั้งในตลาดเงิน และตลาดทุนล้วนแต่ส่งสัญญานที่ไม่ดี
ขณะที่ปัจจัยภายนอกประเทศ ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงอยู่ในสภาพตกต่ำ ผันผวนไปตามค่าเงินดอลล่าร์ และราคาน้ำมัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัวถูกเทขาย เนื่องจากกองทุนเก็งกำไรต่างๆ กำลังหมุนเวียนเงินเพื่อหาตลาด หรือแหล่งลงทุนใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะให้ผลตอบแทนสูงที่สุด
ที่สำคัญยิ่งกว่า คือปัจจัยภายนอกเหล่านี้ ได้กลายเป็นปัจจัยที่กำลังมีอิทธิพลมากที่สุดต่อตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย เพราะเป็นการบอกถึงทิศทางการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่เคยนำเงินเข้ามาซื้อหุ้นในตลาดหุ้นไทย ว่าเขาเหล่านั้นกำลังมีทัศนะ หรือมุมมองต่อทิศทางของราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทยอย่างไร
การขายหุ้นอย่างต่อเนื่องติดกันยาวนานถึง 3 สัปดาห์ รวมมูลค่าที่เป็นยอดขายสุทธิของนักลงทุนกลุ่มนี้ นับหลายหมื่นล้านบาท คือข้อพิสูจน์ชัดถึงทัศนะ หรือมุมมองดังกล่าว
แต่ก็อย่างที่ได้เคยกล่าวไว้หลายครั้งในพื้นที่ตรงนี้ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การขายหุ้นของนักลงทุนเหล่านั้น มิได้หมายความว่าผู้จัดการกองทุนเหล่านั้นมองตลาดหุ้นไทยในเชิงเลวร้าย เพียงแต่เขากำลังเห็นว่ากำลังมีตลาด หรือแหล่งลงทุนใหม่ที่กำลังให้ผลตอบแทนดีกว่า จึงย้ายเงินออกไปชั่วคราว ซึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่งแล้ว เมื่อผลตอบแทนในตลาดใหม่ที่เขานำเงินเข้าไปลงทุนเริ่มลดลง หรือเมื่อราคาหุ้น ในตลาดหุ้นไทยไทยเริ่มตกต่ำลงมาจนถึงระดับน่าลงทุน เงินก้อนนั้นก็มีโอกาสที่จะย้ายกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยอีกครั้ง
เพียงแต่ว่า ณ เวลานี้ ยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ว่า เวลาที่ว่านั้นจะมาถึงเมื่อใด
ดังนั้น หากนักลงทุนชาวไทยที่กำลังคิดว่าจะนำเงินเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้นในสภาพตลาดที่เป็นเช่นนี้ จึงมีความเสี่ยง
สำหรับคนที่ประสบปัญหาการขาดทุนอยู่ในตอนนี้ คงจะต้องกลับมานั่งพิจารณาทบทวนกลยุทธการลงทุนกันอย่างเข้มงวดอีกครั้งว่าหุ้นที่มีอยู่ในมือเป็นหุ้นประเภทใด
หากเป็นหุ้นเก็งกำไรตามข่าว แต่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ อาจจำเป็นต้องขายออกเพื่อย้ายเงินลงทุนส่วนที่เหลือไปยังหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีกว่า
ต้องยอมรับผลการขาดทุนในวันนี้ เพื่อหวังผลตอบแทนในภายภาคหน้า ที่น่าจะกลับคืนมาเร็วขึ้น จากสภาพของหุ้นที่เข้าไปลงทุน ที่น่าจะดีกว่าถือหุ้นตัวเดิมเอาไว้
ส่วนคนที่ยังไม่ได้เข้ามาลงทุน โดยอาจมีเงินออมในรูปของเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าตลาด หรือมีเงินเย็นที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในระยะเวลาอีก 1-2 ปีข้างหน้า
สภาพตลาดตอนนี้ ถือว่าเป็นโอกาสอันดี ที่จะย้ายเงินออมก้อนนั้น มาสู่แหล่งลงทุนที่คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนดีกว่า แต่ต้องมองถึงผลตอบแทนที่จะมาถึงในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า ไม่ใช่ว่าซื้อวันนี้ แล้วจะได้กำไรทันที 10-15%
ณ เวลานี้ การวัดผลตอบแทนจากการลงทุนโดยยึดตามหลักการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ถือเป็นสูตรสำเร็จที่ดีที่สุด สำหรับการมองถึงผลสัมฤทธิ์จากการนำเงินเข้าไปลงทุน
หุ้นของอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มที่ดี หุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลเป็นประจำ หุ้นที่มีราคาตกต่ำลงมาจะเกินกว่าระดับปัจจัยพื้นฐาน น่าจะเป็นตัวเลือกตัวแรกสำหรับการนำเงินเข้าไปใส่
เพราะหุ้นเหล่านี้ เวลาที่ปัจจัยแวดล้อมเปลี่ยนทิศทาง ราคาหุ้นมักจะกลับตัวเร็วกว่า ดีไม่ดี ผลตอบแทนที่จะได้รับอาจดีกว่าผลตอบแทนโดยรวมทั้งตลาด หรือผลตอบแทนจากการฝากเงินไว้กับธนาคารพาณิชย์ หรือซื้อกองทุนรวม

ขอบพระคุณข้อมูล /นสพ.ทันหุ้น

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com