ยังมีทางออก!

มองเห็นดัชนีแกว่งตัวไปมาในแดนลบตลอดทั้งวันก็รู้ทันทีว่า แรงเทขายยังไม่สะเด็ดน้ำ
ดัชนีจึงมีโอกาสหลุดแนวรับ 700 จุดได้ทุกเมื่อ
เดี๊ยนถึงต้องออกมาเตือนนักลงทุนให้หัดเจียมเนื้อเจียมตัว
อย่าได้เผลอเร่อลงทุนซื้อหุ้นมั่วๆ ซั่วๆ เป็นอันขาด เพราะอาจทำให้หมดตูดได้เจ้าค่ะ

*ยิ่งหุ้นบลูชิพออกอาการตุปัดตุเป๋เป็นส่วนใหญ่
ยิ่งไม่มีอะไรต้องห่วงหาอาทรอีกต่อไปหลังเห็นกันชัดๆ ว่า
ดีที่สุดดัชนีคงทำได้แค่ รีบาวด์แล้วลงต่อ...
ที่สำคัญของให้ลืมเลือนเรื่อง ฟ้าหลังฝนกำลังจะเกิดขึ้นไปได้เลย
เพราะสถานการณ์ ณ ปัจจุบันไม่มีสัญญาณใดๆ บอกว่าจะเป็นเช่นนั้นพับผ่าซิ

*ทางออกที่ดีในยามนี้ คือ หนีไปเล่นตลาดอนุพันธ์
เพราะเป็นหนทางเดียวที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้ดีที่สุด
พียงแต่นักลงทุนจะต้องศึกษารายละเอียดปลีกย่อย และกฎกติกาให้ถ่องแท้เสียก่อน...
ถึงจะรู้ซึ้งสัจจธรรมที่ว่า กำไรทั้งขาขึ้นและขาลง นั้นเป็นอย่างไร...ชะเอิงเอย

*แม้ว่าหุ้นบางตัววานนี้จะตีกลับขึ้นมาปิดบวกได้ในช่วงท้าย
แต่สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้ทำให้ โมนิก้า รู้สึกอุ่นใจขึ้นเลยจริงๆ
เพราะแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่ออกมากว่า 1 พันล้านบาท
มันทำให้เดี๊ยนรู้สึกห่อเหี่ยวใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากดัชนีลุ้นไม่ขึ้นจริงๆ นะซี

*โดยเฉพาะในรายของ PTT และ PTTEP ลงมาติดแนวรับขนาดนี้
ยังไม่มีแรงกระดุกกระเดี๋ยวไปไหน ก็คงป่วยการที่จะพูดถึงให้เปลื้องเนื้อที่กระดาษ
เพราะราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้นไม่ได้เป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติหวนกลับมาไล่ซื้อหุ้น
ดัชนีจึงมีโอกาสซึมลงต่อค่อนข้างมากทีเดียว

*เช่นเดียวกับหุ้นโรงกลั่น TOP ต่อให้มีข่าวดีเรื่องราคาน้ำมันเข้ามาเป็นระรอก
ก็ไม่สามารถทำให้ราคาหุ้นทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมได้ เพราะแรงเทขายมีมากกว่าแรงซื้อ
ส่งผลให้ราคาหุ้นนับวันจะอ่อนตัวลงไปเรื่อยๆ แถมแนวรับที่แข็งแกร่งยังถูกทำลายเสียราบคาบ
โมนิก้า ถึงไม่กล้าแนะนำช้อนซื้อหุ้น หลังเกรงจะเกิดเหตุการณ์ช้อนหักกันถ้วนหน้า

*สำหรับตัวอย่างที่ทำให้นักลงทุนช้อนหัก และน้ำตาตกในแล้วตกในอีก
เห็นจะเป็นในรายของ MME ของเสี่ยกมล เอี้ยวศิวิกูล
เพราะก่อนนหน้านี้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นระเบิดเถิดเทิงอย่างไม่บอกเล่าก้าวสิบ
แต่มาเดี๋ยวนี้ราคาหุ้นกลับร่วงหล่นแบบไม่มีหูรูด
แถมวานนี้รน่วงติดฟลอร์ของวันที่ระดับ 12.40 บาท ลบไป 5.20 บาท
แบบนี้...คุณๆ ท่านๆ ที่ปล่อยของออกไม่ทัน คงรู้ซึ้งรสชาติของการติดหุ้นมันเป็นเช่นไร

*ผิดกับในรายของ CPN มีข่าวดีรอรับอยู่เต็มประตูหน้าต่าง
เลยทำให้พวกคุณๆท่านๆ กระโจนไล่ซื้อหุ้นกันอุตลุด
แต่เผอิญภาวะการลงทุนไม่เป็นใจเท่าที่ควร หุ้นเลยบวกได้เพียง 0.20 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 20 บาทถ้วน
ส่วนวันนี้หุ้นจะไปต่อได้หรือไม่ ต้องติดตามดูอย่างกระชันชิด
เพราะมีตัวแปรหลายอย่างที่กำหนดการขึ้นลงของหุ้นนะซี

*โมนิก้ามองว่าคนที่ทิ้งภัทรไปจะขายหุ้นในมือออกมาตามคำโบราณที่ว่า
ตัดบัวไม่ให้เหลือใย แต่ยังไม่ทันไรคนในก็ช่วยกันทิ้งอีกแล้ว
ล่าสุดวีรวัฒน์ ชุติเชษฐพงศ์ก็ขายหุ้นกว่า 3.5แสนหุ้น ราคา 47 บาทกว่า กำไรอื้อซ่า !

*เป็นธรรมดาที่คนในรีบขายเพราะรู้ดีว่าถ้าไม่ขายตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปขายตอนไหนแล้ว
เพราะหุ้นมีแต่ลงและลงค่ะ ล่าสุดปิดที่ 43.75 บาท ลดลง 1.25 บาท

*KESTก็อย่าหัวเราะคนอื่นคนลืมมองตัวเองนะคะ เพราะระยะหลังมาร์เก็ตแชร์หดเหมือนกัน
ขนาดคนในอย่าง จัด คินนี่ ยังขายทิ้งออกมากว่า 3 แสนหุ้นที่ราคา 24.53บาท
นักวิเคราะห์ชอบแนะให้เก็บหุ้นตัวนี้ แต่เดี๊ยนคิดว่าระวังหลังบ้างก็ดีนะคะ
ล่าสุดปิดที่ 22.60 บาท ลดลง 1 บาท

*SCC เดี๊ยนยกตำแหน่งพระเอกขวัญใจให้ไปเลยค่ะ
เพราะเป็นตัวช่วยไม่ให้ตลาดหุ้นป่นปี้ไปมากกว่านี้
ระหว่างเดี๊ยนหัวใจแทบวายช่วงที่ดัชนีหลุด 700 จุดเ
พราะมีคนขายปูนออกมา จนราคาอยู่ที่ 220 บาท
แต่แล้วก็มีพลังลับกลับมาดันหุ้นปูนอีกครั้งจนปิดบวกที่ 222บาทเพิ่มขึ้น 2 บาท

*แหมพูดแล้วจะหาว่าเดี๊ยนงมงาย แต่ราคาปูนใหญ่ปิดสวยเชียวค่ะ
โมนิก้าเห็นแล้วอยากซื้อหวยขึ้นมาตะหงิด ๆๆ เอาไว้ลุ้นแก้เซ็งระหว่างฝึกปรือวิทยายุทธ์ลงทุน อนุพันธ์
ถึงขั้นเซียนเมื่อไหร่ เดี๊ยนจะมาเอาเงินคืนจากตลาดหุ้นค่ะ

*พูดถึง THBEV แล้วก็ดีใจแทนรายย่อยเมืองไทย
ที่งานนี้เบียร์ช้างต้องระเห็จไปเข้าตลาดสิงคโปร์แทน
เพราะนอกจากราคาจะหลุดจองแล้ว ล่าสุดยังปิดลบอีก 0.01 ดอลลาสิงคโปร์
มาปิดที่ 0.26 ดอลลาร์สิงคโปร์
ด้วยมูลค่าซื้อขายประมาณ 40 กว่าล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ป่านนี้อาม่า อากงที่สิงคโปร์คงชีช้ำน่าดูค่ะ

*เดี๊ยนขอทิ้งท้ายด้วยวลีเด็ดของคุณปั้น บัณฑูร ล่ำซำ ที่ออกมาพูดทีไรก็เด็ดสะหระตี่ทุกที
คุณปั้นแนะการอยู่รอดในยุคที่ต่างชาติกำลังไล่ล่าเราไว้หลายข้อ
แต่ข้อสุดท้ายนี่ได้ใจเดี๊ยนสุด ๆ ค่ะ คือคนไทยต้องมี อารยะขัดขืนถึงจะสู้ได้
เอ๊! ไม่ทราบว่าคุณปั้นจะส่งซิกอะไรหรือปล่าวคะเนี๊ยะ เพราะคำนี้คุ้นๆเหลือเกินช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา...