May 2, 2024   11:56:42 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > รวบรวมข่าว ....
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 29/05/2006 @ 10:19:53
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

จีอีมันนี่พบผู้ว่าการธปท.30 พ.ค. แจงถือหุ้นแบงก์กรุงศรีอยุธยา

นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์และติดตามฐานะ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีบริษัท จีอี แคปปิตอล เอเชีย แปซิฟิก
จะเข้ามาซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ว่า
ผู้บริหารของบริษัท จีอี มันนี่ ประเทศไทยจะเข้าพบผู้ว่าการ ธปท.
ประมาณวันที่ 30 พ.ค.นี้ เพื่อชี้แจงแผนการเข้าถือหุ้นให้ชัดเจน

ซึ่งบริษัท จีอีฯ สามารถเข้ามาถือหุ้นในธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้เกิน 5%
เพราะปัจจุบันกฎหมายอนุมัติให้ถือหุ้นเกิน 5% ได้ เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาฐานะทางการเงินหรือการดำเนินงาน

?กฎหมายอนุมัติให้ถือหุ้นเกิน 5% ได้ เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาฐานะหรือการดำเนินงาน
ซึ่งไม่ได้หมายความว่าธนาคารพาณิชย์ต้องมีฐานะทางการเงินแย่ ถึงจะเข้ามาถือหุ้นได้
ธปท. มองปัญหาของประชาชนเป็นหลัก ถ้าธนาคารกรุงศรีอยุธยาพัฒนาเองได้ช้า แข่งขันกับธนาคารอื่นไม่ได้
จีอี เข้ามาพัฒนาธนาคารให้ดีขึ้นก็ทำได้ จีอี เก่งเรื่องรายย่อย มีดีเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที)

ขณะที่ธนาคารมีสาขามาก สามารถจะผสมผสานกันได้ด้วยดี
ในส่วนของเกณฑ์ที่ให้ต่างชาติถือหุ้นในธนาคารได้ไม่เกิน 25% นั้น
ตั้งแต่ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจได้ขยายขอบเขตให้นักลงทุนต่างชาติถือหุ้นได้เกิน 25% แล้ว
ซึ่งธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็ถือรวมอยู่ในธนาคารที่ได้รับอนุญาตด้วย
ส่วนที่ให้ถือได้ไม่เกิน 49% นั้นเฉพาะ ธนาคารพาณิชย์บางแห่งเท่านั้น?

ทั้งนี้บริษัท จีอีฯ จะเข้ามาถือหุ้นในธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับกระทรวง การคลังว่าจะอนุมัติหรือไม่

อย่างไรก็ตามจีอี มีแผนในอนาคตที่ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งถ้าชี้แจงได้ก็คงไม่มีปัญหาอะไร
โดยคาดว่าบริษัท จีอีฯ จะให้ธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย
คืนใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อยแน่นอน
เพราะต้องทำตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (มาสเตอร์แพลน)
เกี่ยวกับเกณฑ์สถาบัน การเงินหนึ่งรูปแบบ หรือ วันเพรนเซ่น ที่กำหนดให้
สถาบันการเงินต้องไม่ไปถือหุ้นอีกสถาบันการเงินหนึ่ง

อย่างไรก็ตามมี 2 ทางเลือก คือให้ธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย ควบรวมกิจการกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา
หรือ ให้ธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย ปรับสถานะไปเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่
ไม่ใช่ธนาคาร (นอนแบงก์)
ซึ่งหากเป็นทางเลือกหลัง ธนาคาร จีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย จะต้องคืนเงินฝากให้ประชาชน
และขายสินทรัพย์บางส่วนที่นอนแบงก์ทำไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ธนาคาร จีอี มันนี่
เพื่อรายย่อย ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกทางไหน
เพราะต้องดูภาพธุรกิจของกลุ่มบริษัท จีอีฯ ในเอเชียก่อน

ที่มา : น.ส.พ.เดลินิวส์

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 29/05/2006 @ 10:35:13 : re: รวบรวมข่าว ....
.... KTB ....
....................................................................................................
KTB เตรียมออกไฮบริดจ์ บอนด์ วงเงิน 200-300 ล้านเหรียญ เดือนหน้าหลังยื่นขออนุมัติ
แบงก์ชาติเมื่อสัปดาห์ก่อน

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB
กล่าวถึง การออกไฮบริดจ์ บอนด์ ของธนาคารว่า คาดว่าจะออกได้ในเดือนมิถุนายน
ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคารได้ยื่นเรื่องเพื่อให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณา
สำหรับวงเงินในการออกยังอยู่ที่ 200-300 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขึ้นอยู่กับการตอบรับของตลาดและอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารจะได้รับ
โดยหากอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารได้อยู่ในอัตราที่สูง
วงเงินในการออกก็จะลดลง หรืออาจจะไม่ออกเลยหากไม่สามารถสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้ดี

นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า จากการสำรวจของที่ปรึกษาทางการเงิน
พบว่าตลาดยังให้การตอบรับดีเอเชียและยุโรป แต่ทั้งนี้ขึ้นกับอัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก

อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารจะออกจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบอร์ดที่ออกเครดิตของธนาคารเอง
อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี นายอภิศักดิ์ กล่าว

......................................................................................................

KTB คุย Q2/49 กำไรดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุบริหารต้นทุนเยี่ยม-รายได้ค่าฟีเพิ่ม

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB
กล่าวถึง กำไรสุทธิของธนาคารในไตรมาส 2 ปีนี้ว่า จะดีกว่าไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว
เป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนของธนาคารที่ดีขึ้น การหารายได้ค่าธรรมเนียมได้เพิ่มขึ้น
ทำให้ผลประกอบการของธนาคารในปีนี้ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ผลประกอบการใน Q2 ของธนาคารยังน่าจะดีกว่าปีที่แล้ว แม้ว่าเศรษฐกิจที่ผ่านมาจะชะลอตัวลง
แต่ผลประกอบการของธนาคารจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ซึ่งผลประกอบการในไตรมาสนี้จึงเป็นผลดีมาจากเศรษฐกิจในปลายปีที่แล้ว นายอภิศักดิ์กล่าว

......................................................................................................

บิ๊ก KTB มอง กนง.ตัดสินใจลำบากในการขึ้นดบ.วันที่ 7 มิ.ย.นี้ เหตุศก.เริ่มชะลอตัว

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB
กล่าวถึง การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ว่า
คงต้องติดตามผลการประชุมในวันดังกล่าว
ซึ่งธนาคารมองว่าน้ำหนักในการปรับขึ้นและไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตอนนี้อยู่ที่อย่างละ 50%
เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ
ยังเพิ่มสูงขึ้นก็ทำให้ กนง.มีความลำบากใจในการพิจารณา
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 29/05/2006 @ 10:41:41 : re: รวบรวมข่าว ....
อาภา ย้ำกลุ่มเตชะอุบลพร้อมขายทิ้งห้องค้า ASL


บิ๊ก ASL ปฏิเสธเสียงสั่น ยันปิดห้องค้าเป็นเพียงข่าวลือ ระบุแค่อยู่ระหว่างการประเมินศักยภาพของบางสาขาเท่านั้น
ด้าน อาภา โดดสวน เผยเป็นไปได้ที่กลุ่มเตชะอุบลพร้อมขายทิ้งกว่า 20 สาขาที่มีสภาพขาดทุน
ยอมรับไร้อำนาจบริหาร แต่ยืนกรานกอดหุ้นแน่น

นางอาภา คิ้วคชา รองประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน (ASL) เปิดเผยว่า
มีความเป็นไปได้ที่คณะผู้บริหารใหม่จากตระกูลเตชะอุบล จะดำเนินการปิดและควบรวมห้องค้า 27 แห่ง เพื่อลดต้นทุน
ตามกระแสข่าวที่มีออกมา โดยปัจจุบัน ASL มีสาขาทั้งหมดประมาณ
65 สาขา ซึ่งมีมากกว่า 20 สาขา ที่ยังขาดทุนอยู่
อย่างไรก็ตาม หากจะมีการปิดสาขา จะต้องผ่านมติคณะกรรมการ ซึ่งจะมีการประชุมกันในสิ้นเดือนนี้

ก็มีความเป็นไปได้ เพราะตอนนี้มากมากกว่า 20 สาขาที่ขาดทุนอยู่ ซึ่งถ้าจะปิดจริงต้องนำเข้าบอร์ด จะประชุมกันสิ้นเดือนนี้
แต่ตนคงไม่ได้เข้าประชุม เพราะจะเดินทางไปต่างประเทศ นางอาภากล่าว

นางอาภา กล่าวว่า แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีอำนาจการบริหารงานใน ASL แต่ก็ยังคงยืนยันที่จะถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 10% ต่อไป
โดยยังไม่มีนโยบายที่จะขายออกมา ยอมรับว่าตอนนี้ไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหาร ASL แล้ว
ส่วนหุ้นที่ถืออยู่ก็จะยังถือต่อไป ไม่คิดขายออกมา
ส่วนอนาคตตัวเองจะไปทำอะไรนั้น ยังไม่ได้คิด ก็ยังนั่งในตำแหน่งรองประธานใน ASL ต่อไป

ด้าน น ศ.ประยูร จินดาประดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน (ASL)
ระบุว่า เรื่องการปิดห้องค้าเป็นเพียงกระแสข่าวลือ โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนผลการดำเนินงาน
และประเมินศักยภาพของสำนักงานสาขาบางแห่งเท่านั้น

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง ให้ความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า หาก ASL มีการลดจำนวนสาขาลงจริง
จะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในระยะยาว เพราะจะทำให้ต้นทุนที่ซ้ำซ้อนปรับตัวลดลง
เช่น ค่าเช่าที่ของสาขาหรือค่าจ้างพนักงาน เป็นต้น แต่ในระยะสั้น ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง
เนื่องจากต้องพิจารณาถึงยอดบัญชีการซื้อขาย เทียบกับรายได้

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ASL คงไม่ปล่อยให้ส่งผลกระทบต่อลูกค้าให้ปรับลดลง ต้องมีการจัดการที่ดี
ซึ่งในส่วนของลูกค้าก็ต้องมีการปรับตัว แต่สิ่งที่น่าติดตามคือในส่วนของมาร์เก็ตติ้ง ว่า
หลังจากที่มีการปิดสาขาแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็คงต้องดูต่อไป

ส่วนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ASL ในทางเทคนิคประเมินว่า หุ้นมีสัญญาณทางเทคนิคที่ไม่ค่อยน่าสนใจมากนัก
อีกทั้งราคาบนกระดานในขณะนี้ ยังคงปรับตัวลดลง ซึ่งหากลุ้นว่าราคาหุ้นจะมีรีบาวน์ทางเทคนิค
คงต้องพิจารณาที่บริเวณ 8.80-8.60 บาท แต่หากไม่มีการรีบาวน์
ราคาหุ้นก็มีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงอยู่บริเวณ 8.00 บาท

ที่มา : น.ส.พ.คอหุ้น
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com