? ก้องเกียรติ? ระบุบริษัทจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว เพราะหวั่นตลาดหุ้นผันผวน
และจะเพิ่มมากขึ้น ตามกระแสเงินทุนไหลเข้า-ออก

? ก้องเกียรติ? เตือนบริษัทจดทะเบียนใหม่ชะลอตัว เพราะหวั่นตลาดหุ้นผันผวน

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์
กล่าวในงานครบรอบ 16 ปี สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ว่า...
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นที่มีความผันผวน
ทำให้การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป หรือ ไอพีโอ ของบริษัทต่าง ๆ ชะลอตัว

อย่างไรก็ตามความผันผวนของตลาดหุ้นจะมีมากขึ้นและรุนแรงขึ้น ตามกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุน

ซึ่งหากสภาพคล่องมีมากความผันผวนก็จะยิ่งสูง
ซึ่งตลาดหุ้นไทยคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการไหลเข้าออกของเงินทุนต่างชาติได้ เพราะอยู่ในกระแสทุนนิยม

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเมื่อความวิตกกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ และภาวะเศรษฐกิจ คลี่คลาย
และมีปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้น นักลงทุนต่างชาติ ก็ยังสนใจเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียรวมทั้งไทย
ซึ่งตลาดหุ้นไทยจะต้องเร่งสร้างบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพเพื่อสร้างศักยภาพ

?บางทีเรามีของดีแต่กลับยอมให้ไปสร้างความแข็งแแกร่งให้กับตลาดหุ้นอื่น
ซึ่งเราคงยอมไม่ได้ที่จะให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ดังนั้นเราควรที่จะปกป้อง เพราะยังมีนักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกมาก? นายก้องเกียรติ กล่าว

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ[/color:73e2a686ee">

ตลาดเงินรอผลประชุมบอร์ดการเงิน 7 มิ.ย.

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์---บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา (22-26 พ.ค.)
เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบที่อ่อนค่าลงต่อ
โดยในวันจันทร์ เงินบาทอ่อนค่าตามทิศทางของเงินเยน/ดอลลาร์สหรัฐ
และเงินสกุลภูมิภาค ก่อนที่เงินบาทจะฟื้นตัวขึ้นในวันอังคาร
ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการเคลื่อนย้ายเงินทุน
ในช่วงที่บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือเบียร์ช้าง
กำลังขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ในตลาดหุ้นสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม เงินบาทกลับอ่อนลงอีกครั้งในวันพุธ จากปัจจัยทางเทคนิค
ประกอบกับ เงินสกุลภูมิภาคได้รับผลกระทบจากข่าวความเป็นไปได้
เกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกจากคนสู่คนในอินโดนีเซีย
ทำให้เงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 38.60 บาทต่อดอลลาร์ อันเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบประมาณหนึ่งเดือนครึ่ง

สำหรับในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ เงินบาทค่อย ๆ แข็งค่าขึ้น ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในช่วงปรับฐานทางเทคนิค
อีกทั้งสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2549 (ทบทวนครั้งที่สอง) ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด
ทำให้ตลาดขาดแรงหนุนสำหรับการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนมิถุนายน
และกลายเป็นปัจจัยที่ถ่วงเงินดอลลาร์ลง ทั้งนี้ในวันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม เงินบาทมีค่าเฉลี่ยที่ 38.193 บาทต่อดอลลาร์
เทียบกับ 38.090 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงสิ้นสัปดาห์ก่อนหน้า

สำหรับแนวโน้ม (29 พ.ค.-2 มิ.ย.) การประกอบธุรกรรมในตลาดเงินคงจะเน้นไปที่ประเภทช่วงสั้น มากขึ้น
เนื่องจากตลาดรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันที่ 7 มิถุนายน

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคงจะไม่เคลื่อนไหวมากนัก
โดยอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์อาจจะมีระดับหนาแน่นอยู่ในช่วงประมาณร้อยละ 4.68-4.70

ด้านค่าเงินบาท คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 38.0-38.5 บาทต่อดอลลาร์
โดยตลาดคงจะติดตามการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจประจำเดือนเมษายนของ ธปท.
และอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมของกระทรวงพาณิชย์

นอกเหนือจากนั้นเงินบาทอาจได้รับอิทธิพลทางอ้อมจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ
อาทิ ดัชนีภาคการผลิตของสถาบันจัดการด้านอุปทาน และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤษภาคม

...