?PTT ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว?



--------------------------------------------------------------------------------

ตลาดหุ้นไทยช่างไม่เป็นใจกับข่าวที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้กรรมการผู้จัดการคนใหม่ พี่หนุ่ย ภัทรียา เบญจพลชัย เอาเสียเลย โดนบรรดาเฮดจ์ฟันด์ขายกระหน่ำหุ้นพื้นฐานทั้งแถบไม่ลืมหูลืมตา ปิดภาคเช้าลบไปอีก 11 จุดเศษ ๆ หรือ ราว ๆ 1.66% ด้วยมูลค่าซื้อขายเพียบ 7 พันล้านบาทเศษ หากจะมองกันด้วยเหตุด้วยผลแล้ว บรรดาหุ้นบูลชิฟหลายตัวอย่าง LH , ADVANC , SCC , THAI แรงขายเริ่มเหือดแห้งแล้ว ภาษาที่เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ แรงขายของต่างชาติเริ่มสะเด็ดน้ำ ยิ่งเข้าใกล้โซน 700 จุดด้วยแล้ว โอกาสที่จะเริ่มรีบาวน์มีค่อนข้างมากทีเดียว ก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไปไม่ว่าจะหลุด 700 จุดแล้วลงไปตั้งหลักกันแถว 680 - 685 จุดหรือไม่
แต่ที่โดดเด่นอย่างที่บอกไปเมื่อวาน (24) ก็คือ กลุ่มหลักทรัพย์เริ่มเห็นแสงสีเขียวเรียงกับมาเป็นหน้ากระดาษเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น ASP , BLS , KEST , PHATRA เชื่อว่าอีกไม่นานนี้คงถึงรอบของโบรกเกอร์เล็กวิ่งขึ้นกันบ้างวันสองวันนี้ ให้เป็นวันของโบรกเกอร์ใหญ่ไปก่อน หวังว่านักลงทุนคงไม่ลืมหุ้นโบรกเกอร์เล็ก ๆ กันนะครับ
ส่วนหุ้นที่ได้รับอานิสงค์ก่อนใครเพื่อนดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแรง บางตัวก็ยืนราคาได้อย่างมั่นคงก็คงจะเป็นหุ้นกลุ่มสื่อสารนำโดยพี่ใหญ่อย่าง ADVANC , SAMART ที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาดก็คงจะเป็น TWZ น้องคนสุดท้องของกลุ่มสื่อสาร ได้ยินมาแว่ว ๆ ว่าอาจมีทีเด็ดไปอีกไม่นานนี้ รอให้วิกฤติการถ้าการเทขายแบบถล่มทลายผ่านไปก่อนเถอะ ใครพอจะมีพอร์ตว่าง ๆ ก็ลองซื้อเก็บลงทุนติดไม้ติดมือกันไว้บ้างไม่น่าจะผิดหวังนะครับ
มีข่าวล่าสุดของ PTT ที่กำลังโดนแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติกระหน่ำอยู่งานนี้ บิ๊กบอส PTT เป็นคนให้ข่าวเองว่างบการเงินในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ PTT จะโต แบบก้าวกระโดดทีเดียว เนื่องจากรับรู้รายได้จาก RRC และ TPI เพิ่มมาอีกค่อนข้างมากทีเดียว มีข่าวแบบนี้ไม่ซื้อไม่ได้แล้วสำหรับ PTT หากดูแนวรับทางเทคนิคนี้ควรซื้อลงทุน น่าจะอยู่ที่ 230 - 232 บาทนี้แหล่ะแต่ถ้าหนักหนาสาหัสแรงขายยังมีอยู่มากจริง ๆ แนวรับถัดไปน่าจะอยู่ที่ราว ๆ 218 - 224 บาทครับเจ้านาย หากหลุดแนวรับสุดท้ายอีกก็คงต้องบอกกันตามตรงว่า ตัวใครตัวมันละครับ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เมื่อมีหุ้นน่าซื้อก็ต้องมีหุ้นน่าหลีกเลี่ยงไปก่อน ไม่ได้หมายความว่าไม่น่าซื้อนะครับ แต่ยังไม่ถึงเวลาซื้อในเวลานี้ ก็คือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพราะดอกเบี้ยเริ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว กำลังซื้อถึงแม้จะไม่ได้หดหายก็จริง แต่ความต้องการของคนอยากมีบ้านหลังที่ 2 และ 3 นั้นเริ่มหดหายไปค่อนข้างมาก ทำให้คนที่คิดจะเปลี่ยนบ้านใหม่ก็เปลี่ยนใจอยู่บ้านเก่าไปก่อน รอไปสักระยะพอสถานการณ์ดอกเบี้ยเริ่มนิ่งจึงจะเริ่มตัดสินใจกันใหม่อีกครั้ง

ที่มา */ นสพ.ทันหุ้น ( ขอบพระคุณในข้อมูลครับผม )

หง่ะ น่าสน จาย ครับ แต่ มัน ไม่ ลง มา ให้รา คา ผม รับอะ ครับ

อยากปรับ ราคา แต่ ปรับไม่ได้ โอ้ เศร้า แต่ น่ากัว จัง น้ำมัน 55555555