May 2, 2024   12:22:03 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > GSTEELส้มหล่นราคาเหล็กพุ่ง :มาร์จิ้นQ2ดีดเต็มที่-ยอดขายทะลุ1
 

P_aud
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531
วันที่: 26/05/2006 @ 11:05:19
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

อานิสงส์ราคาเหล็กตลาดโลกพุ่ง ดันกำไร-มาร์จิ้น GSTEEL โตกว่าไตรมาส 1 ได้เปรียบผู้ค้ารายอื่นเพราะเก็บเหล็กในสต็อกไม่เกิน 3 เดือน อัดยอดขายปีนี้ถึง 1.2 ล้านตัน ไตรมาส 3 รับรู้รายได้เหล็กปรับปรุงคุณภาพผิวที่จะเริ่มผลิต แจงไม่ได้ผลดีสหรัฐทบทวนเอดีเหล็ก เพราะไม่ได้ส่งออกไปมะกันยันตลาดในประเทศยังดี ยอดสั่งซื้อเต็มกำลังผลิต

แหล่งข่าวภายในบริษัท จีสตีล จำกัด (มหาชน) หรือ GSTEEL กล่าวว่า บริษัทคาดว่าการเติบโตในไตรมาส 2 จะดีกว่าไตรมาส 1 เนื่องจากได้รับผลดีจากการที่ราคาเหล็กปรับตัวขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาส 1 ทำให้อุตสาหกรรมเหล็กโดยรวมได้รับผลดี ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (กรอส มาร์จิ้น) ของบริษัทดีขึ้นกว่าไตรมาส 1 ด้วย โดยในไตรมาส 1GSTEEL มีกำไรสุทธิ 300 ล้านบาท

ทั้งนี้ GSTEEL จะเก็บเหล็กไว้ในสต็อกเพียง 2-3 เดือน ซึ่งทำให้ยังคงขายราคาเหล็กได้ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นที่เก็บสต็อกเหล็กไว้นานเป็นปี

บริษัทตั้งเป้าหมายยอดจำหน่ายเหล็กในปีนี้ที่ 1.15-1.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งมียอดจำหน่าย 1.12 ล้านตัน แหล่งข่าว กล่าวต่อว่า ในไตรมาส 3 บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากการจำหน่ายเหล็กปรับปรุงคุณภาพผิว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะสามารถผลิตได้ในไตรมาสดังกล่าว จึงคาดว่ารายได้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายมากขึ้น โดยเหล็กปรับปรุงคุณภาพผิวมีกำลังการผลิต 5 แสนตันต่อปี

นอกจากนี้ยังมีสินค้าเหล็กกัดกดชุบน้ำมัน ซึ่งมีกำลังการผลิต 900,000-1,000,000ตันต่อปี คาดว่าจะมีกำลังการผลิตในไตรมาส 4 และเริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 1 ปี 50

ส่วนการที่มีนักวิเคราะห์บางรายระบุว่า GSTEEL เป็นหนึ่งผู้ประกอบการเหล็กที่จะได้ผลดีจากการที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศทบทวนการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด(เอดี) ประจำปี 46-47 นั้น ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจาก GSTEEL ไม่ได้มีการส่งออกเหล็กไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาดังกล่าว และ GSTEEL ไม่ได้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เพื่อขอให้ทบทวนมาตรการเอดี จึงเป็นไปไม่ได้ที่ GSTEELจะได้ประโยชน์ตามที่เข้าใจ

ทั้งนี้บริษัทยังไม่ได้มีแผนที่จะเพิ่มการส่งออกเหล็กแผ่นรีดร้อนไปยังสหรัฐฯ หลังการประกาศทบทวนดังกล่าว เนื่องจากการจำหน่ายเหล็กในประเทศได้ราคาดีกว่า และขณะนี้การสั่งซื้อก็เข้ามาจนเต็มความสามารถในการผลิต GSTEEL จึงไม่มีความจำเป็นต้องหาตลาดส่งออกเพิ่มในขณะนี้

อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีแผนที่จะขยายตลาดส่งออกในอนาคต โดยจะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 10-20% จากปัจจุบันมีสัดส่วนการส่งออก 10-15% โดยตลาดหลักที่ส่งออกไปคือ แคนาดา ยุโรป และตะวันออกกลาง

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด เชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ของ GSTEEL จะดีขึ้น ตามราคาเหล็กในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาเหล็กจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.5-19.0 บาทต่อกิโลกรัม

ทั้งนี้ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนในตลาดโลกได้มีการปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนม.ค.-ก.พ. ในตลาดรัสเซียเก่า ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 510 เหรียญสหรัฐ/ตัน เพิ่มขึ้น 43% จากจุดต่ำสุดช่วงเดือน ธ.ค.

นอกจากนี้ยังมีตลาดตุรกีที่ได้ปรับตัวเช่นเดียวกัน โดยระยะสั้นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีดังนั้นคาดว่าราคาเหล็กในตลาดโลกจะผลักดันให้ราคาขายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายและกำไรดีขึ้นในไตรมาส 3

สำหรับกำไรสุทธิปีนี้ประเมินไว้ที่ 1,821 ล้านบาท แนะนำ ซื้อเก็งกำไร โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 49 ที่ 1.70 บ

ที่มา:
ข่าวหุ้น

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com