เหลียวซ้ายแลขวามองไปด้านไหน ก็มีแต่เรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัว
โดยเฉพาะพรายกระซิบที่ย่องมาบอกข้างใบหูอันเรียวงามว่า....
กองทุนต่างประเทศงดทำบทวิเคราะห์การลงทุนในประเทศไทยมาเดือนกว่า
เท่ากับตอกย้ำว่าตลาดหุ้นไทยหมดเสน่ห์ชั่วคราว...
กองทุนต่างประเทศถึงพยายามเทขายหุ้นเพื่อถือครองเงินสดไงหล่ะจ๊ะ

* ที่สำคัญเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่น่าตกอกตกใจ
เพียงแต่นักลงทุนควรทำใจยอมรับสภาพที่เกิดขึ้น และหาทางปลดล็อคหุ้นที่ติดบนยอดดอยให้ได้เร็วที่สุด
หลังดัชนีมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงไปยืนแถว 700 จุดในเร็วๆ นี้นะซี

* เพียงแต่ในระหว่างนี้ ดัชนีอาจมีการรีบาวนด์ให้เห็นเป็นระยะ เพราะเข้าเขตขายมากเกินไป
เดี๊ยนถึงไม่เชื่อว่า ดัชนีจะไม่ทรุดตัวลงฮวบฮาบเหมือนเช่นก่อนหน้านี้
หลังตัวแปรหลายอย่างฟ้องว่า อาจมีแรงซื้อใหม่ๆ เข้ามารับหุ้นและดันหุ้นอีกรอบ...
ส่วนจะเป็นจริงมากน้อยเพียงใดคงต้องติดตามดูกันเอาเอง
เนื่องจากเดี๊ยนไม่ใช่ผู้หยั่งรู้ฟ้าดินไปเสียทุกเรื่อง

* สำหรับคำแนะนำที่เดี๊ยนอยากชี้แนะผู้กระสันอยากซื้อหุ้นสุดใจขาดดิ้นในยามนี้ คือ
ต้องกันเงินไว้ซื้อหุ้น 3 ส่วน ด้วยสูตรสำเร็จ 30:30:40
เพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุนการซื้อหุ้นให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะการทุ่มเงินหมดหน้าตักในยามที่นักลงทุนต่างชาติเทกระจาดมันมีแต่เจ๊งกับเจ๊ง

* ส่วนความเคลื่อนไหวของด้านตลาดทุนก็เป็นจริงเหมือนดั่งช่วงที่เกริ่นไว้หลายรอบ
เพราะในที่สุด กิตติรัตน์ ณ ระนอง ก็ลาออกแล้วจริงๆ ไม่ได้ฝันไป
ต่อไปนี้ใครอยากทำข่าวพี่โต้งต่อคงต้องย้ายไปทำข่าวกีฬา
เพราะจะไปทำหน้าที่ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลราชประชาสมใจอยากซะที
และหลังจากนี้คงไม่ได้ยินข่าวตลาดหลักทรัพย์ฯกับก.ล.ต.มีปัญหาขัดแย้งกันอีกแล้ว
เพราะคนของท่านประธานวิจิตรขึ้นแท่นครองอำนาจเต็มตลาดทุน

* ลูกหม้อเก่าอย่างภัทรียาจะควงคู่ธีระชัยผลักดันตลาดหุ้นได้ไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่ คงต้องลุ้นกันต่อไป
แต่ผู้คร่ำหวอดในวงการยอมรับว่า ภัทรียามีความสามารถสูงทำงานวงการนี้มานาน
ไม่ได้เป็นคนนอกเหมือนผู้จัดการตลาดฯก่อนหน้านี้ คงทำงานสานต่องานได้ดีค่ะ
แต่เดี๊ยนหนักใจแทนเพราะหลังจากนี้มีแต่งานหินๆ ทั้งน้านค่ะ
เดี๊ยนเลยไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจแทนคนอื่นที่ตกชั้นเพราะแรงดันไม่พอ!

* PTT ลงมาเยอะ เดี๊ยนมองว่าน่าจะถึงเวลาเข้าไปเก็บได้แล้ว
ให้รอรับที่ 230บาท และหากราคารูดลงไปอีกก็ทยอยเก็บที่ 210 บาท
แม้ต่างชาติจะทิ้งต่อเนื่อง แต่อนาคตต้องกลับมาซื้อกลับแน่
ส่วนราคาน้ำมันแม้จะปรับลดลง แต่ยังทรงตัวในระดับสูง อนาคตมีโอกาสเด้งขึ้น
รอเวลาญี่ปุ่นและจีนขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไหร่ เงินก็ไหลกลับมาเอเชียแน่นอนค่ะ

* หุ้นสินเชื่อเช่าซื้อรถมาแรง แม้สินเชื่ออย่างอื่นจะถดถอย
แต่ไม่รู้ทำมั๊ย คนไทยยังซื้อรถกันแบบไม่ยั้ง
วานนี้ KCAR เลยวิ่งแรง เพราะทำธุรกิจรถให้เช่าด้วย
ยามธุรกิจตกต่ำคนหันมาเช่ารถเพิ่มขึ้นแน่นอน แถมได้ข่าวมาว่ากำลังเจรจาหาคู่
ไม่แน่งานนี้อาจเจอคู่แท้ซะแล้ว ราคาเลยวิ่งรับข่าวค่ะ
ล่าสุดปิดที่ 5.30 บาทเพิ่มขึ้น 0.10 บาท

* PDI ราคาลงแรงมาช่วงหนึ่งหลังจากราคาสังกะสีร่วง
แต่วานนี้ได้ทีปรับตัวขึ้น 1บาทปิดที่ 32.25 บาท แต่เป็นการรีบาวนด์สั้นเท่านั้น
เพราะราคาสังกะสีโลกยังปรับตัวลงต่อเนื่อง นักลงทุนที่เข้ามาเล่นหุ้นตัวนี้ อย่าชะล่าใจ
ที่ผ่านมาไม่เคยมีหุ้นตัวไหนฝืนภาวะตลาดได้ซักราย
โดยเฉพาะหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลงตามตลาดหุ้น

* ITD ไปไม่รอด แม้ว่าช่วงเช้าจะปรับขึ้นไปสูง 6.90 บาท รับข่าวนายกทักษิณอนุมัติรถไฟฟ้า 3 สาย
แต่แรงขายต่างชาติยังมีต่อเนื่อง ราคาหุ้นเลยขึ้นไปไม่ไหว
ล่าสุดปิดที่ 6.50 บาท ลดลง 0.25 บาท ใครอยากได้หุ้นตัวนี้ถ้าไม่อึดจริง
ขอร้องอย่าเข้ามาลงทุนหุ้นก่อสร้างเพราะทุกอย่างยังไม่แน่นอน

* SCB เป็นอีกตัวที่พยายามว่ายทวนน้ำ ราคาปรับขึ้นไปสูงสุด 60.50 บาท
แต่สุดท้ายก็ทนแรงโน้มถ่วงตลาดไม่ไหว ปรับลดลง 0.50 บาท ปิดที่ 59 บาท
หุ้นตัวนี้พื้นฐานดี ผู้บริหารเก่ง และจ่ายปันผลสูง
แต่เดี๊ยนว่าราคาก็ปรับตัวขึ้นมาพอสมควร จนเกือบเต็มมูลค่าแล้ว
หากใครหวังส่วนต่างไม่มาก ก็ซื้อเก็งกำไรได้ค่ะ

* โมนิก้า ไม่อยากพูดถึงวิบากกรรมของอากู๋ ณ GRAMMY อยู่แล้วเชียว
แต่เผอิญกระแสเรียกร้องจากนักลงทุนหลายรายสอบถามเข้ามาไม่ขาดสาย
เลยขอใช้พื้นที่ตรงนี้อธิบายถึงการถดถอยของยักษ์ใหญ่ธุรกิจบันเทิงให้แจ่มแจ้งแดงแจ๋กันอีกครั้ง...
โดยเฉพาะประเด็นเรื่องผลกำไรที่ลดลงอย่างน่าใจหาย
ล้วนเป็นผลมาจากการลงทุนที่ทั่วซั่วของตัวผู้บริหารนั่นแหล่ะค่ะ

* มีอย่างที่ไหนบริษัทภายใต้ร่มเงาแบ่งผลกำไรกลับคืนบริษัทนิดเดียว
ทั้งที่ลงทุนไปมากมายมหาศาลแล้วบริษัทจะทำกำไรเพิ่มได้อย่างไรกัน
ในเมื่อบริษัทลูกที่แตกยิบย่อยเป็นจำนวนมากไม่ทำรายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้...
ประกอบกับการเอาตัวไปผูกติดการเมืองมากเกินไป
ส่งผลให้การลงทุนต่างๆ มีต้นทุนที่สูงเกินความจำเป็นนะจะบอกให้
เดี๊ยนจึงขอสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้เป็นอันขาด

* ป.ล. ช่วงนี้ไม่ค่อยมีข่าวจรรโลงจิตใจสักเท่าไหร่
โมนิก้า เลยถือโอกาสนี้แนะนำให้นักลงทุนพยายามถือครองเงินสดให้มากที่สุด
เพื่อรอโอกาสกลับเข้ามาช้อนซื้อหุ้นราคาถูกอีกรอบ