April 29, 2024   2:32:05 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > BTปั่นเก่งขายหุ้นได้ราคาดี กำไรกว่า50ล.เติมใส่BIS
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 23/05/2006 @ 07:45:16
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

แบงก์ไทยเริงร่าขายหุ้นคืนตลาดรวม 13 วัน 79 ล้านหุ้น กำไรกว่า 16 ล้านบาทและถ้าขายหมด 93 ล้านหุ้น ได้เงินทั้งหมด 700 ล้านบาท สูงกว่าต้นทุน 650 ล้านบาทแบงก์แจงดันทั้งหมดเสริมกองทุนขั้นที่ 1 เชื่อหุ้นที่เหลือกว่า 13 ล้านหุ้นมีสิทธิขายได้ราคาสูงกว่านี้ เล่นข่าวได้พันธมิตรญี่ปุ่นหนุน

ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT ได้จำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนในตลาดหลักทรัพย์ หรือ Teasury stock จำนวน 93,355,900 หุ้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.ล่าสุดจนถึงวันที่ 19 พ.ค.รวมจำนวนทั้งสิ้น 79,641,700 หุ้น ยังคงเหลือหุ้นอีก 13,714,200หุ้นที่ยังขายคืนไม่หมด ซึ่งหุ้นที่เหลือแบงก์จะสามารถขายได้จนถึงวันที่ 26 พ.ค.นี้

โดยในการขายหุ้นคืนครั้งนี้แบงก์ไทยมีต้นทุนอยู่ที่หุ้นละ 7 บาท แต่จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า 13 วันทำการที่แบงก์ขายหุ้นออกมาได้ราคาหุ้นละเกือบ 7.20 บาท หรือเฉลี่ยมีกำไรหุ้นละ 0.20 บาท ดังนั้นแบงก์จึงได้เงินแล้วประมาณ 573 ล้านบาท คิดเป็นกำไรประมาณ 16 ล้านบาท และหากขายได้หมดในราคาที่ใกล้เคียงกันแบงก์จะได้รับเงินทั้งหมดเฉียด700 ล้านบาท สูงกว่าต้นทุนทั้งหมดซึ่งอยู่ที่ประมาณ 650 ล้านบาท คิดเป็นกำไรทั้งหมดราว50 ล้านบาท

ทั้งนี้การขายหุ้นคืนในตลาดหลักทรัพย์ของ BT ส่งผลดีกับแบงก์ เพราะทำให้เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงหรือ BIS ขั้นที่ 1 มีจำนวนมากขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8.75%โดยหากประเมินราคาขายเฉลี่ยที่ 7 บาท แบงก์จะได้เงินทั้งสิ้นประมาณ 650 ล้านบาท จะมีผลทำให้ BIS ขั้นที่ 1 ของแบงก์ไทยเพิ่มขึ้นอีก 0.6-0.7% หรือเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 9.35-9.36% ซึ่งส่งผลดีทำให้แบงก์สามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น จึงมีผลกับรายได้และกำไรในปีนี้ ดังนั้นหากแบงก์ขายหุ้นได้ราคาดีกว่า 7 บาท จึงมีผลต่อเงินกองทุนขั้นที่หนึ่งในระดับที่มากขึ้น

แหล่งข่าวจากแบงก์ไทย กล่าวว่าการขายหุ้นครั้งนี้ไม่มีผลกับกำไร เพราะหุ้นที่ธนาคารซื้อคืนและยังมิได้จำหน่าย หรือ Treasury stock จำนวนดังกล่าวธนาคารได้บันทึกตัวเลขทางบัญชีไปแล้ว แต่ยอมรับว่าการขายไปมีผลกับเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่จะแข็งแกร่งมากขึ้น

แหล่งข่าว กล่าวว่าขณะนี้แบงก์ยังเหลือเวลาขายหุ้นอีก 5 วันทำการคือระหว่าง 22-26 พ.ค.ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถจำหน่ายหุ้นที่เหลืออีกกว่า 13 ล้านหุ้นได้ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการขายหุ้นของแบงก์ไทยคาดว่าจะยังได้ราคาดีต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาแบงก์มีข่าวดีหนุน เกี่ยวกับเรื่องควบรวมพันธมิตรที่ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้ว แต่ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่มาอนุมัติ เนื่องจากแบงก์มีกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินถือหุ้นในสัดส่วนสูงถึง 48.98% โดยล่าสุดคาดว่าจะเป็นแบงก์ญี่ปุ่นเข้ามาซื้อหุ้นแบงก์ไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แบงก์ไทยได้เริ่มขายหุ้นออกมาตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.ล็อตแรกจำนวน205,000 หุ้น ราคาสูงสุด 7.45 บาท ต่ำสุด 7.30 บาท วันที่ 3 พ.ค.ขายอีก 930,700หุ้น ราคาสูงสุด 7.35 บาท ต่ำสุด 7.30 บาท วันที่ 4 พ.ค.ขายจำนวน 227,100 หุ้นราคาสูงสุด 7.25 บาท ต่ำสุด 7.20 บาท วันที่ 8 พ.ค.ขายหุ้นจำนวน 1,132,600 หุ้นสูงสุด 7.30 บาท ต่ำสุด 7.25 บาท

วันที่ 9 พ.ค.ขายจำนวน 439,700 หุ้นสูงสุดราคา 7.30 บาท ต่ำสุด 7.30 บาทเช่นกัน วันที่ 10 พ.ค.ขายจำนวน 290,000 หุ้น สูงสุด 7.30 บาทต่ำสุด 7.25 บาทวันที่ 11 พ.ค.ขาย 427,700 หุ้นสูงสุด 7.25 บาท ต่ำสุด 7.25 บาท วันที่ 15 พ.ค.ขายจำนวน 400,000 หุ้น สูงสุด 7.15 บาท ต่ำสุด 7.10 บาท และวันที่ 16 พ.ค.ขายจำนวน 287,400 บาท สูงสุด 7.10 บาท ต่ำสุด 7.00 บาท

วันที่ 16 พ.ค.แบงก์ไทยขายหุ้นออกมาอีก 287,400 หุ้น สูงสุด 7.10 บาทต่ำสุด 7บาท วันที่ 17 พ.ค.ขายจำนวน 465,700 หุ้นและ 18 พ.ค.ขายจำนวน 3,000 หุ้นราคาเท่ากันคือสูงสุด และต่ำสุดที่ราคา 7 บาท

แบงก์ไทยมีการขายหุ้นจำนวนมากในวันที่ 19 พ.ค.จำนวนถึง 74,833,500 หุ้นได้ราคาสูงสุดที่ 7.20 บาท และต่ำสุดที่ 7.10 บาท ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาขายในวันที่ 19 พ.ค.ราคาหุ้นในกระดานไม่ได้ร่วงลงแรงนักจากการขายหุ้นจำนวนมาก เกิดจากมีนักลงทุนมารับซื้อ หลังมีข่าวว่าแบงก์ไทยได้พันธมิตรเป็นแบงก์ญี่ปุ่น

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:f5ace96767">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com