April 29, 2024   6:10:53 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นสยาม?ยิ้มไม่ออก
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 22/05/2006 @ 11:08:52
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นสยาม?ยิ้มไม่ออก



--------------------------------------------------------------------------------

ทิศทางการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระยะสั้นยังคงอยู่ในวังวนของการอ่อนตัว โดยความหวังของการตีกลับทางเทคนิคยังคงเป็น ฝันหวานชนิดน้ำตาลเรียกพี่ เพราะราคาหุ้นส่วนใหญ่แกว่งตัวในกรอบที่แคบมาก เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังคงถูกกดดันจากการอ่อนตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศและภาวะการเมืองไทยที่ยังคงเป็นภาพลบต่อบรรยากาศการลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้เพราะยังหาทางออกในเรื่องรัฐบาลใหม่ไม่เจอ

ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดที่ระดับ 746.33 ลดลง 1.97 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 13,203 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่ราคาปิดเพิ่มขึ้นมี 126 หลักทรัพย์ ลดลงมี 195 หลักทรัพย์ และอีก 124
หลักทรัพย์ราคาปิดไม่เปลี่ยนแปลง ดัชนีสูงสุดระหว่างการซื้อขาย 749.81 เพิ่มขึ้น 1.51 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 742.43 ลดลง 5.87 จุด ภาพที่เกิดขึ้นสะท้อนว่าตลาดระยะสั้นยังคงขาดความมั่นใจ แต่เริ่มมีแรงเก็งกำไรระยะสั้น ๆ เข้ามาเพื่อทดสอบความแข็งแรงของตลาด

ข้อสังเกตทางเทคนิคสำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนีในรายวันพบว่า แนวโน้มหลักของตลาดยังเป็นแนวโน้มของการอ่อนตัวที่ดำเนินต่อไป โดยหากดัชนียังมีการทำจุดต่ำ ๆ กว่าระดับ 742 จุด ยังแสดงว่าการปรับตัวยังไม่สิ้นสุด
ซึ่งปกติตลาดหุ้นจะมีการปรับตัวของราคาในเกณฑ์ 5 -8% ของดัชนีสูงสุดในรอบการหน้า(785 จุด) ดังนั้นหากดัชนีอ่อนตัวมาประมาณ 5 - 8% ดัชนีจะอ่อนตัวในช่วง 40 -62 จุด นั่นหมายความว่าแนวรับที่มีศักยภาพสำหรับตลาดระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 740 -720 จุด

ตัวเลขดังกล่าวเมื่อเทียบกับข้อมูลทางสถิติหรือทางเทคนิคจะพบว่าดัชนีรายวันมีแนวรับสำคัญบริเวณ
719 จุดซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของดัชนีในระยะเวลา 200 วันทำการ ขณะที่แนวรับในระดับรายสัปดาห์จะให้ตัวเลขออกมาบริเวณ 718 -720 จุดใกล้เคียงกัน

ดังนั้นหากนักลงทุนที่ถือเงินสดอยู่บริเวณที่นักลงทุนอาจจะเริ่มสนใจสำหรับการเข้าสะสมหุ้นเพื่อการเก็งกำไรวงจรการฟื้นตัวข้างหน้าคือบริเวณดัชนีดังกล่าวแต่อย่างไรก็ตาม จากมุมมองในเชิงเทคนิคพบว่า
การใช้ตัวเลขอ้างอิงจากดัชนีอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจในการลงทุน เพราะตลาดหุ้นมีสินค้าค่อนข้างมากกว่า 400 หลักทรัพย์ ทำให้การตัดสินใจในการลงทุนค่อนข้างยาก ดังนั้นนักลงทุนมักจะมีการ
เปรียบเทียบ ข้อดีข้อเสียของหลักทรัพย์แต่ละตัวที่ปรับลดลงมา ทำให้เกิดกิจกรรมการขายหุ้นตัวหนึ่งเพื่อไปซื้อหุ้นอีกตัวหนึ่งที่เชื่อว่า จะสร้างผลตอบแทนได้เร็วและมากกว่าทำให้ตลาดหลักยังมี หุ้นที่สามารถเข้าเก็งกำไรได้ ซึ่งไก่ทองเคยเขียนถึงว่า ปกติ หุ้นตัวเล็กจะมีบทบาทเวลาหุ้นตัวใหญ่อยู่ในแนวโน้มของการปรับตัว
แต่หากหุ้นกลุ่มนำตลาดกลับเข้ามาเป็นหุ้นนำตลาด บทบาทของหุ้นเล็กก็จะลดลงไปโดยอัตโนมัติ
ดังนั้นในภาวะที่นักลงทุนต่างประเทศกำลังถูกนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันลดน้ำหนักการลงทุน
หลุมหลบภัยที่สำคัญคือ การถือเงินสด หรือการพักเงินระยะสั้น ๆ ในหุ้นกลุ่มSmall
Cap ที่สภาพคล่องดีและเป็นที่ต้องการของตลาด

สำหรับกรอบสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้นคาดว่าแนวรับสำคัญคือบริเวณ 720 ส่วนบริเวณแนวรับ 740 จุด
คาดว่ายังคงเป็นแรงกดดันจากการเรียกหลักประกันเพิ่มของบัญชีเครดิตบาลานซ์ ดังนั้นคาดว่าระยะสั้นตลาดอาจจะหาจุดจบด้วยการเกิด Panic Sell อีกละลอกหนึ่ง เพราะจะเป็นจุดที่ บังคับให้มีการเปลี่ยนมือ ของหุ้นที่เป็นที่นิยมของตลาด เพราะวิธีการดังกล่าวจัดเป็นกลยุทธ์สำคัญของนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนประเภท
Market Maker ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่หุ้นบางตัวจะอยู่ในสัญญาณทางเทคนิคในลักษณะ Oversold
แต่ราคาหุ้นยังคง ดำน้ำ ไม่ได้โผล่อะไรทำนองนั้น

กลยุทธหลักในการลงทุนยังเน้นการถือครองเงินสด และรอจังหวะการซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไรในลักษณะตีกลับทางเทคนิคบริเวณแนวรับ 720 จุด โดยหุ้นที่ปรับลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 75 -200 วันแบบแรง ๆ เร็ว ๆ
โดยเป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีโดยหลักทรัพย์ที่น่าติดตามสำหรับการตีกลับทางเทคนิคจัดอยู่ในหุ้นประเภท
หัวขบวนเช่น PTTEP PTT TOP KEST ASP BBL KTB ส่วนหุ้นประเภท Money Game
ยังคงจับตา JAS TPI SC GSTEEL SSI เป็นต้น

ที่มา / นสพ.ทันหุ้น ( ขอบพระคุณในข้อมูลครับผม)

 กลับขึ้นบน
mr.w
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 490
#1 วันที่: 22/05/2006 @ 13:57:05 : re: หุ้นสยาม?ยิ้มไม่ออก
หุ้นลงแรง มีแต่แรงซื้อนักลงทุนทั่วไป

ไม่เข้าจาย คิก คิก
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com