April 29, 2024   1:26:50 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > น้ำมันแพง วิกฤตการณ์การเมืองและเศรษฐกิจไทย
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 22/05/2006 @ 11:05:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

น้ำมันแพง วิกฤตการณ์การเมืองและเศรษฐกิจไทย



--------------------------------------------------------------------------------

ทาง บลจ.บีที จะมี วารสารชื่อ Money@Corner ผมเข้าใจว่า วารสารฉบับนี้จะออกทุกเดือน ซึ่งจะมีบทความเชิงเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ซึ่งผมจะคัดลอกมาฝากกัน บทความที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นของ ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ท่านว่าไว้ดังนี้
ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและเศรษฐกิจไทย นอกจากถูกท้าทายจากอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังกำลังถูกทดสอบจากภาวะราคาน้ำมันแพงด้วย แม้นว่าวิกฤตการณ์ทางการเมืองคลี่คลายลงบ้าง แต่การที่จะมีเสถียรภาพทางการเมืองเหมือนเดิมคงไม่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีโอกาสทะลุระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และเราคงได้ใช้น้ำมันในราคา 30 บาทต่อลิตรอย่างแน่นอน
สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นจากสิ้นปี 2548 ประมาณร้อยละ 25-30 จะกระทบต่อความต้องการบริโภคน้ำมันของประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายสำคัญของโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่นและอินเดีย อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกในปี 2549 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง เนื่องจากมีการเปิดเสรีทางการค้ามากขึ้น ช่วยเพิ่มปริมาณการค้าของโลก โดยเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุด โดยเฉพาะเศรษฐกิจของจีนจะขยายตัวที่ระดับร้อยละ 8.1-8.5 และเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวร้อยละ 6.9-7.4 โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวประมาณร้อยละ 4.5 ชะลอตัวลงจากระดับร้อยละ 4.8 ในปี 2548
การปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมัน จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ในสินค้าบางประเทศ เช่น ยานยนต์ ในขณะที่ต้นทุนของภาคธุรกิจหรืออุตสาหกรรมจะปรับตัวสูงขึ้นตามระดับราคาน้ำมัน ส่งผลให้การขยายกำลังการผลิตและการลงทุนต่ำกว่าที่ได้ มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ยังคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะยังขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2548 จากแรงผลักดันของการส่งออก และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนหลังจากที่วิกฤตการณ์ทางการเมืองได้คลี่คลายลง ในขณะที่การนำเข้าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท การบริหารการนำเข้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งผู้บริโภคน้ำมันสามารถปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามภาครัฐเองจะต้องดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจด้วยความรอบคอบ และมีมาตรการรองรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะความเสี่ยงจากการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมัน และการเพิ่มสูงขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
ส่วนทางด้านอัตราเงินเฟ้อ สำนักวิจัย ธนาคารไทยธนาคาร และ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน บีที จำกัด มองว่าอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสที่สองของปี 2549 จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.6 เทียบกับร้อยละ 5.7 ในช่วงไตรมาสแรก ตามที่ได้มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับประมาณร้อยละ 3.3-4.0 ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อ ในปี 2549 อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 2548 นอกจากนี้ สำนักวิจัย ธนาคารไทยธนาคาร และ บลจ. บีที ยังได้ประเมินว่า ภาคธุรกิจหรืออุตสาหกรรมของไทยที่ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันมากที่สุด คือ ธุรกิจทางด้านการขนส่งและการทำประมง โดยประเมินว่าหากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทวีความรุนแรงขึ้น แล้วส่งผลให้ราคาน้ำมันดูไบแตะระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 5-6 ดอลลาร์/บาร์เรล จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศปรับเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1.50-2.00 บาท/ลิตร สู่ระดับราคาประมาณ 28.19-28.69 บาท/ลิตร (ราคาดีเซล 26.69 บาท/ลิตร ณ วันที่ 20 เม.ย. 2549) หรือราคาเพิ่มขึ้นจากก่อนลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลประมาณร้อยละ 55-60 เนื่องจากวิเคราะห์ว่าราคาน้ำมันดูไบที่เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่ำประมาณ 30-40 สตางค์/ลิตร และจะส่งผลให้ต้นทุนรวมของธุรกิจขนส่งทางบก ทั้งการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.93-22.57 โดยเฉพาะรถบรรทุกจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.69-22.57 ในขณะที่ต้นทุนรวมของการทำประมงเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.42-10.27 จากช่วงก่อนลอยตัวน้ำมันดีเซล ในระยะสั้นหรือภายในปี 2549 ราคาน้ำมันจะยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงถึงปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากกำลังการผลิตน้ำมันที่ค่อนข้างจำกัด ในขณะที่การบริโภคยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อมีสถานการณ์ความรุนแรงที่กระทบต่อการผลิตน้ำมัน จะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยสำนักวิจัยประเมินว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 60-75 ดอลลาร์ต่อบาเรล หรือสูงกว่านี้ หากปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาติตะวันตกกับอิหร่านเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ ยังยืดเยื้อ และทวีความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับ จนชาติตะวันตกต้องคว่ำบาตรอิหร่าน หรืออาจจะรุนแรงกว่านั้น หากสหรัฐฯใช้วิธีการทางทหารโจมตีอิหร่าน นอกจากนี้ยังมีปัญหาความไม่สงบในไนจีเรียที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี เนื่องจากคาดว่ากลุ่มหัวรุนแรงอาจจะโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันในไนจีเรียไปจนถึงช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไป ประกอบกับกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุมของสหรัฐฯ หรือประมาณเดือนมิถุนายน ? กันยายนของทุกปี ซึ่งแหล่งน้ำมันที่สำคัญของสหรัฐฯ จะมีความเสี่ยงจากพายุเฮอริเคนเหมือนเช่นทุกปี

ที่มา/ นสพ.ทันหุ้น ( ขอบพระคุณในข้อมูลนะคับผม)

 กลับขึ้นบน
mr.w
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 490
#1 วันที่: 22/05/2006 @ 13:55:41 : re: น้ำมันแพง วิกฤตการณ์การเมืองและเศรษฐกิจไทย
เศร้าน้ำมันแพง ไมบ้านเราขึ้น เอา ขึ้นเอา

ราคาตลาดโลก ลงเอา ลง เอา

ทามไมความเป็นจิงมันสวนทาง เศร้า .000b
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com