April 29, 2024   12:22:05 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ธปท. ชี้... " อันตรายทุนข้ามชาติ..."
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 22/05/2006 @ 09:33:08
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

รีบเปิดเอฟทีเอทำธุรกิจไทยเจ๊ง
ติงรัฐอย่าคิดปั๊ม จีดีพีอย่างเดียว

หม่อมอุ๋ยเตือนอย่าให้ความสำคัญกับทุนในยุคโลกาภิวัตน์มากไป
ห่วงการผูกขาดค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของต่างชาติ
เบียดโชห่วยตายเรียบ ขณะที่ คลังมองสวนทาง คิดปั๊นตัวเลข จีดีพี
ด้วยการตรึงกองทุน เฮดจ์ฟันด์เข้ามาลงทุนนานๆ

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
กล่าวปาฐกถาในงานกาลา ดินเนอร์ The Horizons Night
ฉลองครบรอบ 21 ปี บัณฑิตวิทยาลัยสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC)
ในหัวข้อ ค่านิยมของสังคมที่เปลี่ยนไป ว่า ปัจจุบันทั้งภาคธุรกิจ และภาคเศรษฐกิจ
กำลังให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตทางขนาด และตัวเลขเป็นสิ่งที่
สำคัญ
ขณะที่ประชาชนก็ชื่นชมกับธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ มีผลประกอบการและกำไรสูง บริษัทที่มีการเจริญเติบโตรวดเร็ว

ด้านนักธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ฯก็ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มีการควบรวมกิจการกัน
ซึ่งการควบรวมกันส่งผลให้มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงมาก
ทำให้เกิดการผูกขาดทางการตลาดขึ้นมาส่งผลให้ประชาชน รวมทั้งผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ

ขณะรัฐบาลซึ่งน่าจะเป็นแบบอย่างที่ดี ในการให้ความสำคัญกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภค
แต่รัฐบาลกลับมาเน้นที่ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี
มุ่งต้องการให้จีดีพีของประเทศเติบโตสูง ยิ่งสูงมากยิ่งดี
เน้นโครงการลงทุนขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกท์ ให้ดัชนีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯสูงขึ้น
ความสำเร็จต่างๆ ถูกวัดด้วยเงินตรา มุ่งหวังผลกำไรสูงที่ต้องสูง
ซึ่งนักธุรกิจ และรัฐบาลให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้มาก

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 22/05/2006 @ 09:37:21 : re: ธปท. ชี้... " อันตรายทุนข้ามชาติ..."
ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวอีกว่า การที่ให้บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของต่างชาติ
มาเปิดอยู่ในประเทศเป็นจำนวนมาก เป็นการทำลายร้านค้าปลีกของไทย เป็นการเบียดเบียนคนไทย
ร้านค้าปลีกเล็กๆ และร้านโชห่วย กำลังตายลงไปเรื่อยๆ
แต่หากว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้ของประชาชน และมุ่งเน้นความเท่าเทียมกันแล้ว
ธุรกิจเหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะอยู่รอดได้ ฉะนั้นรัฐบาลไม่ควรให้ความสำคัญกับเรื่องส่วนแบ่งทางการตลาดมากจนเกินไป

เราหวังว่าทางการ คงไม่ปล่อยให้ผลกระทบของโลกาภิวัตน์ การเปิดเสรีทางการค้าหรือเอฟทีเอ ที่รวดเร็ว
ให้มาทำลายธุรกิจเล็กๆ ของคนไทย ทั้งอาชีพช่างตัดผม ร้านอาหาร คนขับรถบรรทุก การทำไร่ ทำนา
ภาครัฐบาลให้ความสำคัญกับโลกาภิวัตน์มากเกินไป
ซึ่งคงไม่มีใครที่จะสามารถหยุดผลกระทบที่จะเกิดกับธุรกิจเล็กๆ ได้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว

สำหรับตัวชี้วัดความสำเร็จทางธุรกิจนั้นจะถูกวัดว่าอยู่ที่จีดีพี จนละเลยการกระจายรายได้ของประชาชน
รัฐบาลควรความสำคัญกับคุณภาพชีวิตประชาชนมากขึ้น
ปัจจุบันเน้นแต่ให้ความสำคัญกับโครงการขนาดใหญ่
ไม่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม การดูแลสังคมให้มีคุณภาพเรามองข้ามไป
เน้นแต่การเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมมาก ทำให้ทรัพยากรของธรรมชาติร่อยหรอลง
การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ตัดไม้ทำลายป่าเพื่อที่จะมุ่งแต่เพียงที่จะเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้น
แต่โชคดีที่รัฐบาลที่ผ่านมาตระหนักการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้มีการตัดป่าไม้น้อยลง

การมุ่งแต่จีดีพีที่สูงๆ ยังทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ
ทำให้ภาคการผลิตได้รับผลกระทบ และมีผลกระทบต่อภาคชุมชนด้วย และมีปัญหาตาม
คือปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง รวมทั้งการท่องเที่ยวทำให้จีดีพีของประเทศปรับตัวดีขึ้น
แต่กลับส่งผลให้ทรัพยากรของประเทศร่อยหรอลง ทำให้สิ่งแวดล้อมทางชีววิทยาเสียสมดุล
ในการที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ควรให้การพัฒนาทางเศรษฐกิจต้องถูกวัดจากจีดีพีเพียงอย่างเดียวผู้ว่าการ ธปท.กล่าว

ทั้งนี้ ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรและการอนุรักษ์
ให้มีระบบการดูแลทรัพยากรที่ดี เช่น มีระบบจัดการน้ำ ซึ่งมีแนวคิดที่จะทำจีดีพีสีเขียว
แต่แนวคิดนี้ก็ยังไม่สำเร็จ ตัวอย่างจากประเทศภูฎาน
ใช้การวัดผลิตภัณฑ์ความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH) แทนจีดีพี
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 22/05/2006 @ 09:39:24 : re: ธปท. ชี้... " อันตรายทุนข้ามชาติ..."
ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์
ควรเปลี่ยนมาใช้ ดัชนีชี้วัดทางทรัพยากรรวมอยู่ด้วย เช่นการวัดการสะสมน้ำ
การขาดแคลนน้ำ พื้นที่ป่า จำนวนโรงงานที่มีการบำบัดน้ำเสีย อัตราการพึ่งพาน้ำมันต่อภาคอุตสาหกรรม

แนวคิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สะท้อนมาจากจีดีพีควรที่จะต้องมีการแก้ไขมรว.ปรีดิยาธร กล่าว

ด้านนายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า
ในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ สศค. จะทำการเปิดตัว โมเดลการคำนวณเศรษฐกิจรูปแบบใหม่(New macro economic model)
ซึ่ง นำปัจจัยเรื่องของเงินทุนไหลเข้า-ออก มาเป็นตัวแปรในการคำนวณภาวะเศรษฐกิจ
จากเดิมที่กำหนดเรื่องเงินทุนไหลเข้าและออก เป็นเพียงตัวแปร ที่ใช้เป็นปัจจัยภายนอกเท่านั้น
ทั้งนี้จะมุ่งให้ความสำคัญกับการเข้ามาลงทุนของ กองทุนบริหารความเสี่ยงเป็นหลัก

ตอนนี้ตัวแปร เรื่องการเข้ามาลงทุนของกองทุนเก็งกำไร หรือเฮดจ์ฟันด์
มีความสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ค่อนข้างมาก
ซึ่งด้วยนโยบายของรัฐบาลเอง ก็มีแนวคิดที่จะพยายามหาวิธีทาง
ในการดึงเงินลงทุนของเฮดจ์ฟันด์มาอยู่ในประเทศในมากและยาวขึ้น
ซึ่งหากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ การลงทุนของเฮดจ์ฟันด์จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นกระทรวงการคลัง จึงจำเป็นจะต้องปรับปรุงสูตรการคำนวณเศรษฐกิจ
ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป นายนริศ กล่าว

ทั้งนี้ในปัจจุบันหลายประเทศ ได้นำปัจจัยเรื่องเงินทุนไหล เข้า-ออก มาเป็นตัวแปรในการคำนวณภาวะเศรษฐกิจแล้ว
โดยยืนยันว่าการปรับโมเดลในครั้งนี้ จะไม่ทับซ้อนกับ การดูแลเงินทุนไหลเข้า ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
เนื่องจาก ธปท. นั้นดูแลเฉพาะภาคการเงิน
แต่ของกระทรวงการคลังจะดูแลการไหลเข้ามาลงทุนในภาคเศรษฐกิจจริง(real sector)

นายนริศ กล่าวอีกว่า ในส่วนของแผนการดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศนั้น
สศค. จะปรับปรุงระบบภาษีของประเทศใหม่ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศให้สูงขึ้น
โดยที่อยู่ระหว่างทำการศึกษาในขณะนี้ คือ การปรับโครงสร้างภาษีศุลกากร สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์
ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยต้องการส่งเสริมให้มีการขยายตัว
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#3 วันที่: 22/05/2006 @ 09:41:24 : re: ธปท. ชี้... " อันตรายทุนข้ามชาติ..."
อย่างไรก็ตามการปรับในครั้งนี้ จะต้องมีการศึกษาโครงสร้างภาษีของประเทศคู่แข่ง ของไทยด้วยว่าในปัจจุบัน
เขาให้สิทธิประโยชน์อย่างไรบ้าง เพื่อที่จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และวางกลยุทธ์ในการแข่งขันได้อย่างถูกต้อง
อย่างประเทศมาเลเชีย ก็ได้มีการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์แล้ว
รวมทั้งก็ได้เปิดเจรจา ทำเขตการค้าเสรี(FTA) กับประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว
คงจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ทั้งสองประเทศมีข้อตกลงกันอย่างไร และไทยจะจัดทำข้อเสนอที่ดีกว่าอย่างไร

สำหรับแผนการเดินสาย โรดโชว์นั้น
กระทรวงการคลังจะใช้เวที การประชุมผู้บริหารของธนาคารเพื่อการลงทุนทั่วโลก
ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ และฮ่องกง ในระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2549 จัดทำ อาเซียน โรดโชว์ ร่วมกับประเทศพันธมิตร
ซึ่งในงานดังกล่าว ซึ่งการจัดทำโรด์โชว์ในครั้งนี้ มีผู้บริหารกว่า 500 คน เข้าร่วม
ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ไทยจะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ

โดยเรื่องที่จะนำเสนอ เป็นโครงการเมกะโปรเจกต์
เพราะมองว่า ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหน เข้ามาบริหารงาน ก็ต้องสานต่อโครงการเหล่านี้อย่างแน่นอน
เพราะโครงการเหล่านี้ เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งประเทศมีความจำเป็นจะต้องลงทุน
ทั้งเชื่อว่า สถานการณ์ทางการเมืองไม่น่าจะส่งผลกระทบ เพราะไม่ได้ขับเคลื่อนโดยภาครัฐเพียงอย่างเดียว
โดยทุกโครงการจะเน้นหลักความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนซึ่งจะมีภาคเอกชนมาร่วมผลักดันด้วย

อย่างไรก็ตามประเทศไทยจะต้องมีการปรับปรุงตัวเองเช่นกัน
โดยเฉพาะการสร้างธรรมาภิบาลในเกิดขึ้น เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติมีความมั่นใจ

นอกจากจะทำจัดทำอาเซียน โรดโชว์ ที่ฮ่องกง และสิงคโปร์แล้ว
จะเดินทางไปประเทศในตะวันออกกลาง และดับลิน ที่ไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศในเครือจักรภพ สหราชอาณาจักร


ที่มา - แนวหน้า - [/color:593e4c3a49">
 กลับขึ้นบน
mr.w
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 490
#4 วันที่: 22/05/2006 @ 14:04:15 : re: ธปท. ชี้... " อันตรายทุนข้ามชาติ..."
โห อ่าน แล้ว มอง บ้านเราในอนาคตไม่ออกเลย จะเป็นยังไง เหนื่อยจาย
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com