April 29, 2024   4:22:02 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สัมภาษณ์พิเศษ....
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 21/05/2006 @ 17:15:56
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สัมภาษณ์พิเศษ..
ชเนศวร์ แสงอารยะกุล
เปิดแผนดัน PYLON เข้า SET ในอีก 3 ปี

**ในธุรกิจเสาเข็มเจาะ ไพลอน ถือว่าอยู่เบอร์อะไร

เราไม่อยากจัดลำดับตัวเอง ในตลาดเองผู้เล่นก็มีอยู่หลายราย ถ้ารวมทั้งตลาดก็มีอยู่ประมาณ 10 ราย
แต่ถ้ารายที่เป็นผู้ทำเสาเข็มเจาะใหญ่และมีอิทธิพลต่อตลาดแล้วก็จะมีประมาณ 4-5 ราย
ซึ่งเรียกว่าเป็นพันธมิตรกันมากกว่า ก็มีทำงานร่วมกัน เบอร์ 1 ก็ต้องยกให้ บมจ.ซีฟโก้
ที่มีทั้งเครื่องมือและเครื่องจักรและมีกำลังการผลิตที่มากที่สุดในตลาด
ซึ่งหากพูดในแง่ของกำลังการผลิต รองลงมาเราขอวางตัวเองเป็นเบอร์ 2

**ช่วยขยายความในแง่ของกำลังการผลิต

คือเรามองแง่เบอร์ 1 หรือ 2 คงจะมองได้หลายแบบ
ซึ่งหากจัดด้านยอดขายหรือจัดตามกำลังการผลิต ตรงนี้อยากให้มองว่าในงานเสาเข็มเจาะโครงสร้างรับรู้รายได้จะไม่เหมือนกัน
บริษัทหนึ่งอาจเน้นรับงานค่าแรงและค่าวัสดุ ซึ่งปกติต้นทุนของงานเสาเข็มเจาะ 100%
จะเป็นค่าวัสดุเฉลี่ยประมาณ 75 % และค่าแรง 25 %
เช่น บริษัท A รับงาน 100 ล้านบาท บอกว่ารายได้มี 100 ล้านบาท แต่รับเป็นค่าวัสดุด้วย
แต่ในขณะที่บริษัท B บอกว่ารับงาน 50 ล้านบาท แต่เป็นงานค่าแรงอย่างเดียว
ก็มีความแตกต่างเพราะงานค่าแรงอย่างเดียวจะเป็นงานที่มี gross margin ที่ค่อนข้างสูง ระดับ 15-30 %
ในขณะที่งานที่มีวัสดุจะมี gross margin ต่ำมาก เนื่องจากราคาเหล็กหรือปูนในปัจจุบันราคาปรับเพิ่มขึ้น
รับงานมาก็มีความเสี่ยงด้านวัสดุ ส่วนใหญ่ margin เหล่านี้จะอยู่ประมาณ 5-10%
เพราะฉะนั้น ส่วนใหญ่คนที่รับงาน 100 ล้านบาท รวมค่าวัสดุ
อาจจะมีกำไรน้อยกว่าคนที่รับงาน 50 ล้านบาท แต่เป็นค่าแรงอย่างเดียว

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 21/05/2006 @ 17:21:20 : re: สัมภาษณ์พิเศษ....
**แล้ว ไพลอน มีสัดส่วนการรับงานอย่างไร

เรารับค่าแรงเป็นหลัก ซึ่งก็มีบ้างประมาณ 20-30 % เป็นค่าวัสดุ ซึ่งถือเป็นนโยบายของบริษัทตั้งแต่ต้น
ฉะนั้น ถ้าจะให้ดีก็น่าจะพูดในเรื่องของกำลังการผลิต ซึ่งเบอร์ 1 ก็ยังต้องยกให้ บมจ.ซีฟโก้


**เรามีกำลังการผลิตเท่าไหร่

มีชุดเครื่องเจาะจำนวน 13-15 ชุด ตรงนี้เราได้เงินจากการเข้าระดมทุนในตลาดฯก็วางแผนจะขยายกำลังการผลิต
ปัจจุบันก็มีซื้อเครื่องจักรเพิ่มมาบางส่วน ก่อนเข้าตลาดฯก็มีอยู่ 12 ชุด เราคิดว่าจะใช้เงินขยายกำลังการผลิตเป็น 15 ชุด
แต่ทั้งนี้ เนื่องจากมีปัญหาทางด้านการเมือง เศรษฐกิจชะลอตัว และราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น
เราก็ใช้เงินไอพีโอส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็รอดูสถานการณ์อยู่ หากถานการณ์ดีเราก็จะลงทุนในชุดเครื่องจักรได้
ตอนนี้เรายังมีเม็ดเงินที่จะลงทุนส่วนนั้นอยู่


**แง่การเมืองยังไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายขอดูสถานการณ์ก่อน ส่งผลให้ผู้ประกอบการเกิดการดั๊มราคากันหรือเปล่า

ต้องบอกว่า ภาพเมื่อปลายปีกับต้นปีทุกคนในตลาดอาจตอบได้
เพราะเรื่องปัญหาการเมืองในช่วงไตรมาส 1/49 ค่อนข้างรุนแรง
แต่ในมุมมองของผมมองว่า ปริมาณงานในตลาดอาจไม่เปลี่ยน แต่การตัดสินใจอาจจะเปลี่ยน
คือโครงการที่มีอาจต้องดำเนินต่อไป แต่อาจล่าช้า ทั้งการล่าช้าในการเลื่อนโครงการ หรือการล่าช้าในโครงการที่ดำเนินการอยู่
เพราะบางโครงการประมูลเรียบร้อยแล้ว แต่รัฐยังไม่มีการเซ็นสัญญาเพราะยังไม่มีความชัดเจนก่อนมีรัฐบาลใหม่เข้ามา
ตรงนี้อาจทำให้เศรษฐกิจช่วงนี้ชะลอตัว ในระยะยาวเรื่องของงานมองว่าภาพยังดีอยู่
จะมีงานที่ต่อเนื่องแต่ก็มีปัจจัยที่อาจทำให้ความสามารถในการทำกำไรลดลง ซึ่งก็คือน้ำมัน
เพราะฉะนั้นคงต้องกลับไปมองภาวะระยะสั้นว่าคงไม่ใช่กลับไปที่ผู้บริโภคแต่จะเป็นผู้ประกอบการ


**มีแผนการปรับกลยุทธ์อย่างไร

น้ำมันราคาเพิ่มขึ้นอาจทำให้บริษัทมีกำไรที่ลดลง แต่บริษัทคงต้องปรับกลยุทธ์ ซึ่งเราทำตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
จะเห็นว่าปีก่อน ราคาเหล็กราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นมามาก แต่เราได้รับผลกระทบไม่มาก
gross margin เราได้รับผลกระทบไม่มาก เพียง 3-5 % จากราคาน้ำมัน ซึ่ง gross margin ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 25 %
จากปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ 30 % เราคิดว่าน้ำมันปัจจุบันก็ยืนอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง
ทางบริษัทเองก็มีการปรับตัวในด้านการบริหารจัดการต้นทุน เลือกรับงานที่มีความสามารถในการทำกำไรที่ดี
ส่วนเรื่องงานในตลาดมองว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้ายังคงมีอยู่
แต่ในช่วงระยะสั้นผู้ประกอบการต้องปรับตัว เพื่อยังคงรักษาฐานรายได้และฐานลูกค้า
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 21/05/2006 @ 17:33:06 : re: สัมภาษณ์พิเศษ....
**หากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ไพลอน จะเป็นอย่างไร

ไพลอนเองคาดว่าในแง่เม็ดเงินกำไรคงดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งความสามารถในการทำกำไรในแง่เปอร์เซ็นต์อาจลดลง
แต่เม็ดเงินกำไรที่คิดเป็นบาทจะมากขึ้น
เพราะเรามีการรับงานเพิ่มขึ้นและมีการกระจายความเสี่ยงของงานออกไปในหลาย ๆ สาขามากขึ้น
ในอดีตเราเน้นหลักเฉพาะเสาเข็มเจาะ ตอนนี้เรามีงานเสาเข็มเจาะและงานโครงการหล่อสำเร็จรูปด้วย
เพราะฉะนั้นเรากระจายความเสี่ยงออกไปหลาย sector มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้อัตราเปอร์เซ็นต์การทำกำไรลดลง
ตรงนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในเรื่องเม็ดกำไรคิดว่าคงจะดีขึ้นในปีนี้


**ปัจจัยในเรื่องของราคาน้ำมันอยู่ในการคาดการณ์ของเราไหม

น้ำมันอยู่ในการคาดหมายของเราอยู่แล้ว ระดับ 70 เหรียญเป็นระดับที่ไว้
น้ำมันดีเซลล์เราก็มองไว้ที่ 25-26 บาท แต่สิ่งที่เราไม่ได้คาดไว้ก็คือเรื่องของการเมือง

**การเมืองยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่องานของเราไหม
กระทบแน่ คือหลายโครงการที่ควรจะออกมาและเริ่มดำเนินการได้ก็ชะลอไป
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#3 วันที่: 21/05/2006 @ 17:58:19 : re: สัมภาษณ์พิเศษ....
มาต่อค่ะ... .0008 .0008 .0008
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#4 วันที่: 21/05/2006 @ 18:08:05 : re: สัมภาษณ์พิเศษ....
**แล้วทำให้การประมาณการรายได้เราพลาดเป้าหมายไปหรือเปล่า
หากรัฐบาลเข้ามาเพื่อต้องการที่จะปฏิรูปการเมือง แต่งานโครงการเมกะโปรเจ็กจะชะลอตัว

ตอบแทนไม่ได้ แต่คิดว่าคงจะมีการเลื่อนออกไป
บางโครงการที่เป็นโครงการสำคัญอาจผลักดันให้ทำก่อน แต่คงไม่ออกมาหลายโครงการ
แต่ในช่วงที่การเมืองปั่นป่วน งานภาครัฐอาจชะลอตัว แต่งานภาคเอกชนทุกคนมีการผลักดันโครงการมากขึ้น
ในโครงการคอนโดมีเนียม ที่พักอาศัยหรืองานอาคารสูงมีการออกมามากขึ้น
ซึ่งแปลกที่ปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการงานเสาเขาเข็มทุกคนงานเต็มมือ
ซึ่งมองว่ากลับเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการงานเสาเข็มไปในช่วงไตรมาส 2/49 ที่งานภาครัฐลดลง แต่งานภาคเอกชนยังล้นมือ
แต่ทั้งนี้ งานภาครัฐไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ถ้ากลับมาเริ่มได้จะเป็นสิ่งที่ดีซึ่งภาพระยะยาวจะไม่ดีหากยืดเยื้อไป
แต่ภาพระยะสั้น ไพลอนยังดีอยู่ เพราะมีหลายโครงการที่เป็นงานระยะยาวที่รับมาแล้ว


**ดูแล้วทุกคนมีงานล้นมือ แล้วทำไมเราไม่ใช้จังหวะนี้เพิ่มกำลังการผลิตและนำมารับงานเพิ่มขึ้น
... เรามองอยู่...


**เราวิตกอะไรหรือเปล่า

เราไม่ได้วิตก เพียงแต่รอดูความชัดเจนเพิ่มขึ้น ในแง่งานภาครัฐ
ซึ่งงานเอกชนเรามองว่าไม่ใช่เป็นตัวพลักดันที่เป็นเฟืองจักรสำคัญจะผลักดันในอีก 2-3 ปีข้างหน้า คงไม่ใช่งานเอกชนแน่ ๆ
งานเอกชนก็มีแนวโน้มที่จะชะลอตัว ไม่ว่าจะเป็นภาคที่อยู่อาศัย จากการที่ภาวะดอกเบี้ยสูงขึ้นก็ทำให้กำลังซื้อลดลง
ซึ่งตอนนี้อาจเป็นว่ากลัวขายโครงการไม่ออกก็จะเร่งออกโครงการเพื่อปกป้องตัวเอง
แต่ก็ดีกับผู้ประกอบการก่อสร้างให้มีงานมากขึ้นในช่วงที่งานภาครัฐยังไม่ออก
แต่หากภาวะนี้เป็นไปนานๆ ทุกอุตสาหกรรม คงกระทบเหมือนกัน ตรงนั้นคงเป็นภาพรวมเศรษฐกิจแล้ว
แต่กลุ่มก่อสร้างอยากให้ภาพชัดเจนอยากให้จบในไตรมาส 2/49 เพราะไตรมาส 3/49 จะได้เริ่มใหม่

ส่วนในเรื่องของการเตรียมตัวในการรับงาน เราก็มองไว้ ไม่ว่าจะเป็นรื่องการหาพันธมิตร
ซึ่งต้องยอมรับว่า ไพลอน เป็นบริษัทที่เล็กบริษัทตั้งมา 5 ปี
มาถึงวันนี้ก็ถือว่าเร็วมากซึ่งการที่จะโตต่อไปขอเติบโตไปอย่างมั่นคง และสร้างผลกำไรที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นดีกว่า
ฉะนั้นทำอย่างไรที่โตจากวันนี้จะให้ผลตอบแทนที่ดีและมีความเสี่ยงต่ำ
ซึ่งในเรื่องของพันธมิตรเราก็คุยกันตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับพันธมิตร
ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ ทุกวันนี้ ภาวะแบบนี้ งานทุกคนยังเต็มมือ
และหากมีเมกะโปรเจ็กออกมาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ตรงนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละบริษัท
ใครที่จะมีกำลังในการขยายกำลังการผลิต ซึ่งแยกได้เป็น 2 ประเด็น คือ ลงทุนเอง
ซึ่งหากบริษัทมีเงินอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา แต่ก็อาจมีความเสี่ยง
อีกประเด็นคือยอมมีกำไรน้อยลง แต่ว่ามีพันธมิตรที่แข็งแกร่งเข้ามา
อาจจะเป็นในรูปของการลงทุนโดยตรงกับบริษัทเองหรือในรูปของการร่วมทุน
เพื่อทำโครงการเมกะโปรเจ็ก ถือเป็นทางเลือกที่ดีก็เป็นสิ่งที่บริษัทมองอยู่ด้วย
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#5 วันที่: 21/05/2006 @ 18:15:13 : re: สัมภาษณ์พิเศษ....
**จะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่

ตรงนี้ตอบยาก คงต้องรอดูความชัดเจนของเมกะโปรเจ็กเป็นหลัก
ซึ่งหากเมกะโปรเจ็กออกมากำลังการผลิตจะไม่พอ
และถ้าต่างชาติเข้ามาก็จะเป็นการสูญเสียของผู้ประกอบการในประเทศ
เรามองว่าจุดนั้นคงมีแน่ แต่ยังไม่รู้เมื่อไหร่
ซึ่งหากเศรษฐกิจในประเทศเติบโตได้ยาว เราอาจจะเลือกการเพิ่มทุนก็ได้ แต่นั้นเป็นภาพในระยะยาว


**เห็นบอกว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าเราจะย้ายจาก mai มา SET ใช่ไหม และเราวางแผนการเติบโตอย่างไร

คงเป็นในเรื่องของกำไรและรายได้ เราคงไม่อยากเข้า SET ทางด้านฐานทุนที่ใหญ่ แต่ความสามารถในการทำกำไรที่น้อย
ซึ่งคงต้องค่อย ๆ ขยายตัวเองเราคงไม่มองว่าปีนี้เพิ่มทุนแล้วเข้า SET เลย ซึ่งมองว่าคงไม่ใช่เป็นการเติบโตที่มั่นคง
ปีนี้ถ้าการเติบโตของรายได้ยังดีอยู่และเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายคงหนีการเพิ่มทุนไม่พ้น
เพราะการเติบโตก็คงมาพร้อมกับการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ที่เรามองว่าอีก 3 ปีข้างหน้า
เพราะเรายังมองว่าสถานการณ์ทางการเมืองยังเป็นปัญหาในระยะสั้น
ระยะยาวการลงทุนในประเทศยังสูงอยู่

**เมื่อปีที่ผ่านมาเรามีรายได้เท่าไหร่
.... ประมาณ 280 ล้านบาท ....


**แล้วปีนี้จะเติบโตประมาณเท่าไหร่

ความสามารถในการทำกำไรอาจจะลดลง แต่ในแง่เม็ดเงินกำไรอาจจะมากขึ้น ส่วนจะเติบโตกี่เปอร์เซ็นต์คงต้องดูต่อไป
ซึ่งเราก็ยังคงตั้งบริษัทเป็นบริษัทที่มีการเติบโตสูงอยู่ ซึ่งเราเน้นความสามารถในการทำกำไรที่สูง
และเราก็ขยายตัวเรื่อยๆ เม็ดกำไรก็ขยายตัวเรื่อยๆ จึงมองว่าตรงนี้จะเป็นจุดที่สำคัญกว่า


**ในอีก 3 ปีข้างหน้าเราจะรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับประมาณเท่าไหร่
เราก็เน้นว่าการเติบโตของยอดกำไรน่าจะไม่ต่ำกว่า 30 % ทุกปี เรายังคงเป้าหมายเหมือนเดิม



BY : SOMYING KAEWPHRING[/color:ea3a8198a8">
 กลับขึ้นบน
mr.w
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 490
#6 วันที่: 22/05/2006 @ 13:50:10 : re: สัมภาษณ์พิเศษ....
โห อย่างนี้ ก็ต้องรอ เมกะโปรเจ็ก อีกแระ เศร้า อสังหา .0002
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com