May 5, 2024   7:20:01 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > RRC ความหวังเดียวกู้ซากหุ้นไอพีโอ
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 19/05/2006 @ 20:24:49
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

RRC ความหวังเดียวกู้ซากหุ้นไอพีโอ
หลังน้องใหม่Q2/49ตายเกลี้ยงยกครัว
-ปิดจองวันศุกร์ยอดล้น 600 ล้านหุ้น

ปิดจอง RRC ยอดจองล้น 600 ล้านหุ้น จากจำนวนที่จัดสรร 479.5 ล้านหุ้น ปลุกความหวังแฟนหุ้นไอพีโอ วงการเชื่อเป็นตัวเดียวที่จะฝ่าวิกฤติยืนเหนือจอง เหตุได้อานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่ง แถมมีพี่เบิ้มอย่าง ปตท.หนุนหลัง ให้ราคาเหมาะสม 22-27 บาท ด้านน้องใหม่ที่เข้าเทรดใน Q2/49 ตายเกลี้ยงทุกบริษัท ทำเอาว่าที่บริษัทจดทะเบียนหนาว เอกรัฐวิศวกรรม ยังใจกล้าเคาะช่วงราคา 2.80-3.20 บาทต่อหุ้น คาดเสนอขายกลางเดือนมิ.ย.นี้ ด้านภาวะตลาดฯยังไม่เห็นแววกระเตื้อง 6 วันหุ้นปิดร่วงเกือบ 5% ฝรั่งขายเทกระจาดกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ส่วนเบียร์ช้างเปิดจองแล้วที่ตลาดสิงคโปร์ คาดเข้าเทรด 30 มิ.ย.นี้

ภาวะหุ้นไอพีโอช่วงไตรมาส 2/49 คงทำให้แฟนหุ้นน้องใหม่ต้องผิดหวัง เพราะ 5 บริษัทที่เข้าซื้อขายต่างหนีไม่พ้นวิกฤตหุ้นจอง ปรับตัวลงต่ำกว่าราคาขายกันถ้วนหน้า ทำให้ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ ที่บมจ.โรงกลั่นน้ำมันระยอง (RRC) จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ดูเหมือนจะเป็นความหวังเดียวของนักลงทุนรวมทั้งหุ้นจองทั้งหลายที่กำลังจะตบเท้าเข้ามา เพราะหากราคาสามารถยืนเหนือจองได้ น่าจะสร้างความเชื่อมั่นและฟื้นศรัทธาหุ้นไอพีโอให้กลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางภาวะตลาดฯที่ยังอึมครึม ไม่รู้ทิศทาง นักลงทุนต่างชาติเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องถึง 6 วันทำการ บางบริษัทถึงกับยอมรับว่าต้องเลื่อนแผนการขายหุ้นออกไป เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ การเข้าเทรดของ RRC จึงเป็นสิ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

**ปิดจอง RRC ยอดทะลัก 600 ล้านหุ้น 25 พ.ค. นี้รู้ผลกรีนชู

นายแมนพงษ์ เสนาณรงค์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานตลาดตราสารทุน บล.ภัทร (PHATRA) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.โรงกลั่นน้ำมันระยอง (RRC) เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า ผลการจองซื้อหุ้น RRC ผ่าน 3 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และธนาคารทหารไทย (TMB) ตั้งแต่วันที่ 18-19 พ.ค. อย่างไม่เป็นทางการ มียอดจองซื้อ 600.2 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 23 บาท คิดเป็นมูลค่า 13,805 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าจำนวนหุ้นไอพีโอที่บริษัทฯเตรียมจัดสรรให้กับนักลงทุนรายย่อยจำนวน 479.5 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ในวันที่ 25 พ.ค. 2549 ที่ปรึกษาทางการเงินจะหารือร่วมกับผู้บริหารของ RRC เพื่อพิจารณานำหุ้นกรีนชู ออฟชั่น ที่จัดสรรไว้จำนวน 200 ล้านหุ้นว่าจะนำออกมาใช้หรือไม่ หลังจากที่ยอดจองซื้อจากนักลงทุนทั่วไปมีส่วนเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรรกว่า 100 ล้านหุ้น
ส่วน ผลการโรดโชว์ RRC ให้แก่นักลงทุนแถบภูมิภาคเอเซียและยุโรป ในเบื้องต้นพบว่านักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยมองว่าอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการโรดโชว์จะสิ้นสุดในคืนวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ค. และจะบุ๊ค บิวด์ ราคาหุ้นในวันดังกล่าว

**โบรกฯให้ราคาเหมาะสม 22-27 ลบ.

บล.ซีมิโก้ ให้ความเห็นหุ้น RRC ว่า บมจ.โรงกลั่นระยอง (RRC) เตรียมเสนอขายหุ้นต่อผู้จองซื้อรายย่อยจำนวน 479.5 ล้านหุ้น (35% ของจำนวนหุ้นที่นำมาขายทั้งหมด 1,397 ล้านหุ้น) ในช่วงราคา 18-23 บาท (ราคาพาร์ 10 บาท) ระหว่างวันที่ 18-19 พฤษภาคม 2549 โดยมีตัวแทนจำหน่ายหุ้นได้แก่ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย และ ธ.ทหารไทย
RRC จะยังคงได้รับผลบวกจากค่าการกลั่น (GRM) ที่คาดว่าจะยังทรงตัวในระดับสูง โดยบริษัทฯทำกำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 1/49 ได้ 1.56 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เราประมาณการว่า RRC จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติในปี 49 ราว 7.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปี 48 แต่เนื่องจากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นเข้ามาอีก 23% จากการขายหุ้น IPO จึงส่งผลต่อการลดลงของกำไรสุทธิต่อหุ้นในปีนี้
หากประเมินราคา IPO ที่ 23 บาทจะได้ Norm.PER ที่ 8.37X ซึ่งสูงกว่า TOP ที่ 7.28X โดยเรามองความเสี่ยงด้านธุรกิจของ RRC ที่มากกว่า TOP เนื่องจาก TOP เองมีการกระจายไปยังธุรกิจปิโตรเคมี น้ำมันหล่อลื่นและผลิตไฟฟ้า ในขณะที่ RRC เน้นธุรกิจโรงกลั่น ถ้าหากพิจารณาโครงการในอนาคต TOP ก็จะมีการขยายกำลังการกลั่นอีก 25% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำกว่า RRC ที่ 45% นอกจากนี้ RRC ยังมีแผนที่จะรวมกิจการกับ ATC ในอนาคต
เราประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ RRC โดยในช่วง Norm.PER ที่ 8-10X (เราประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ TOP ที่ 70 บาท จาก Norm.PER ที่ 8X) ทำให้ได้ราคาที่เหมาะสมของหุ้นนี้ระหว่าง 22-27 บาท

**3 ไอพีโอโค้ง 2/49 ดิ่งเหว ทำว่าที่หุ้นใหม่หนาว
ผู้สื่อข่าวสำรวจบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในช่วงไตรมาสที่ 2/2549 พบว่ามีอยู่ 3 บริษัท คือ บมจ.ไทยออพติคคอล กรุ๊ป (TOG) และ บมจ. ถิรไทย (TRT) และ บมจ.เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC) ซึ่งราคาหุ้นมีทั้งปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจอง
ทั้งนี้ TRT ได้กำหนดราคาไอพีโออยู่ที่ 5.75 บาท ซึ่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 10 พ.ค.49 และราคาหุ้นก็ยังคงปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจอง โดยปิดตลาดล่าสุดที่ 4.28 บาท ต่ำกว่าจอง 25.56%
ในขณะที่ TOG ได้กำหนดราคาหุ้นไอพีโออยู่ที่ 2.80 บาท และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 16 พ.ค.49 ล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 2.74 บาท ต่ำกว่าจอง 2.14%
ส่วน บมจ.เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC)เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 18 พ.ค. โดยกำหนดราคาไอพีโอที่ 3 บาท และล่าสุดปิดตลาดที่ 2.68 บาท ต่ำกว่าจอง10.66%
ในขณะเดียวกัน ในช่วงไตรมาสที่ 2/2549 นี้ ยังมีบริษัทที่คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกประมาณ 5 บริษัท คือ
บมจ. เอกรัฐวิศวกรรม ซึ่งคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในไตรมาสที่ 2/2549 โดยบริษัทได้มีการกำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้น IPO อยู่ที่ 2.80-3.20 บาท คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นจำนวน 182 ล้านหุ้นได้ประมาณเดือนมิถุนายนหรือเดือนก.ค.นี้ โดยมี บริษัท ฟาร์อีสท์ แคปปิตอล แอ๊ดไวเซอรี่ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บมจ.โรงกลั่นน้ำมันระยอง (RRC) จะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 479.5 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยวิธีสุ่มเลือกแบบขั้นบันได ในราคาจองหุ้น 23 บาท คาดว่าจะเข้าซื้อขายในวันที่ 5 มิ.ย.2549 โดยมี บล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 93.9 ล้านหุ้น คาดว่าจะกระจายหุ้นและเข้าซื้อขายประมาณไตรมาสที่ 3/2549 โดยมี บล.ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) คาดว่าจะกระจายหุ้นไอพีโอให้กับประชาชนจำนวนไม่เกิน 1,315 ล้านหุ้น ได้ในปลายเดือน มิ.ย. 2549 โดยมี บล.กิมเอ็ง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
และ บมจ. จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS) จะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 175 ล้านหุ้น โดยคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อในวันที่ 5-7 มิถุนายน 2549 ซึ่งจะมีการกำหนดราคาประมาณปลายเดือนนี้ หลังจากนั้นก็จะเสนอขายหุ้น และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ประมาณกลางเดือนมิถุนายน โดยมี บล.ซิมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
แหล่งข่าวจากที่ปรึกษาทางการเงินรายหนึ่งให้ความเห็นว่า ในช่วงนี้ภาวะตลาดหุ้นไทยถือว่าไม่ค่อยดีนัก เพราะยังคงมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบอยู่ ทั้งความไม่แน่นอนทางการเมือง ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย รวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงขายสุทธิอยู่ ซึ่งหากหุ้นไอพีโอที่จะเข้ามาซื้อขายฯในช่วงนี้ก็อาจจะทำให้มีแรงเทขายออกมา เพราะนักลงทุนยังคงมีความกังวลกับปัจจัยลบต่าง ๆ อยู่
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากบริษัทที่จะเข้าซื้อขายฯ อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตที่ดี การเข้าซื้อขายก็มีโอกาสประสบความสำเร็จ แม้ว่าภาวะตลาดฯจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม

**6 วันต่างชาติเทกระจาดหุ้นไทย 1.43 หมื่นลบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.49-19 พ.ค.49 พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิรวมทั้งสิ้น 14389.02 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 3,439.81 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 10,949.21 ล้านบาท
ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นจากเมื่อวันที่ 11 พ.ค.49 ปิดตลาดที่ระดับ 782.50 จุดเปรียบเทียบวันศุกร์ที่ 19 พ.ค. ปิดที่ 746.33 จุด ลดลง 36.17 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 4.62% โดยสาเหตุหลักที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นในช่วงนี้ เนื่องจากโยกเงินไปลงทุนในตลาดพันธบัตรสหรัฐอเมริกาหลังจากที่มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นดอกเบี้ย และมีเงินบางส่วนไหลออกไปซื้อหุ้นไอพีของบมจ.ไทยเบฟเวอเรจ หรือเบียร์ช้าง และไชน่า แบงก์
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ หัวหน้าแผนกวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์เชิงปริมาณ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน เปิดเผยว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นในช่วงนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง เนื่องจากมีสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นดอกเบี้ย และในช่วงตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.จนถึงปัจจุบันจะพบว่านักลงทุนต่างประเทศเป็นผู้ขายสุทธิมาโดยตลอด ซึ่งเป็นการปรับพอร์ตทั่วทั้งโลก เนื่องจากคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย ประกอบกับช่วงดังกล่าวราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงทำให้เฮดฟันด์บางกลุ่มขายทำกำไรออกมา และมีเงินบางส่วนไหลออกจากตลาดหุ้นเพื่อจองซื้อหุ้นไอพีโอของบริษัทขนาดใหญ่อย่างเบียร์ช้างและไชน่า แบงก์ รวมถึงบมจ.โรงกลั่นน้ำระยองหรือ RRC
อย่างไรก็ดี มองว่าหลังจากที่เบียร์ช้าง และ RRC เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยและสิงคโปร์ตามลำดับบรรยากาการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอาจยังไม่คึกคัก เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้นบรรยากาศการลงทุน และปัญหาทางการเมืองยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนอยู่ ดังนั้น นักลงทุนที่ต้องการจะซื้อหุ้นควรรอจังหวะเมื่อตลาดหุ้นทรงตัวจึงเข้าไปรับแต่ควรลงทุนเพียง 20-30 % ของพอร์ต

**แกะรอยผู้บริหารหุ้นน้องใหม่ พบบิ๊ก TRT เทรดหุ้นสนั่น

ผู้สื่อข่าวสำรวจความเคลื่อนไหวหุ้นบริษัทที่เข้าจดทะเบียนตั้งแต่ในช่วงต้นปีซึ่งมีทั้งหมด 5 บริษัท คือ บมจ.จี สตีล (GSTEEL) ที่ขายไอพีโอราคา 1.60 บาท , บมจ.ซิตี้ สตีล (CITY) ขายไอพีโอ 2.94 บาท , บมจ.ถิรไทย (TRT) ขายไอพีโอ 5.75 บาท , ไทยออพติคอล กรุ๊ป (TOG) ขายไอพีโอ 2.80 บาท และล่าสุด บมจ.เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (SECC) ขายไอพีโ 3 บาท โดยราคาหุ้นของทั้ง 5 บริษัทล้วนแต่อยู่ในระดับต่ำกว่าราคาจอง
ในขณะเดียวกัน พบว่ามีเพียงบริษัทเดียวที่ผู้บริหารเข้ามาทั้งซื้อและขายหุ้น คือ บมจ.ถิรไทย (TRT) ซึ่งเข้าซื้อขายในตลาดเอ็มเอไอเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยนายไต้ จงอี้ เข้ามาซื้อหุ้นในวันที่ 10 พ.ค. จำนวน 300,000 หุ้น ที่ราคา 5.65 บาท ในวันเดียวกันขายหุ้นจำนวนดังกล่าวออกมาในราคา 5.65 บาท จากนั้นวันที่ 15 พ.ค. เก็บหุ้นเข้าพอร์ตอีก 100,000 หุ้น ที่ราคา 4.87 บาท และวันที่ 16 พ.ค. ซื้อหุ้นอีก 50,000 หุ้น ที่ราคา 4.24 บาท
นอกจากนั้นพบว่านาย ธีรวุฒิ ศุภวิริยกุล เข้ามาซื้อหุ้นจำนวน 100,000 หุ้นที่ราคา 5.65 บาท เมื่อวันที่ 10 พ.ค.

ตารางการเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้บริหาร บมจ.ถิรไทย ตั้งแต่หุ้นเริ่มเข้าซื้อขาย
ชื่อผู้บริหาร วันที่ได้มา/จำหน่าย จำนวน ราคา วิธีการได้มา/จำหน่าย
ไต้ จงอี้ 10/05/2549 300,000 5.65 ขาย
ไต้ จงอี้ 16/05/2549 50,000 4.24 ซื้อ
ไต้ จงอี้ 10/05/2549 300,000 5.57 ซื้อ
ไต้ จงอี้ 15/05/2549 100,000 4.87 ซื้อ
ธีรวุฒิ ศุภวิริยกุล 10/05/2549 100,000 5.65 ซื้อ

ที่มา : สำนักงาน ก.ล.ต.

**เบียร์ช้าง เปิดจองหุ้นในสิงคโปร์ 19-23 พ.ค. คาดเทรด 30 พ.ค.นี้

รายงานข่าวจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (ไทยเบฟ) ผู้ผลิตเบียร์ และสุรา ชั้นนำของไทย และหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์รายใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้1 ได้จดทะเบียนหนังสือชี้ชวนของบริษัทฯ ขั้นสุดท้ายในวันนี้ กับ Monetary Authority of Singapore (MAS) เพื่อการเข้าจดทะเบียนในกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX-ST)
ไทยเบฟเสนอขายหุ้นครั้งแรกรวม 4.89 พันล้านหุ้น โดย 244.45 ล้านหุ้นจะเสนอขายนักลงทุนรายย่อยในสิงคโปร์ราคาเสนอขายสูงสุด 0.36 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อหุ้น
เปิดการเสนอขายวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม เวลา 12.00 น. ปิดการเสนอขายวันอังคารที่ 23 พฤษภาคม เวลา 12.00 น.
ไทยเบฟจะเสนอขายหุ้น (?การเสนอขายหุ้น?) จำนวน 4.89 พันล้านหุ้น (?หุ้นที่เสนอขาย?) ซึ่งรวมถึงหุ้นจำนวน 4.64 พันล้านหุ้น ที่จะเสนอขายให้นักลงทุนระหว่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศ และนักลงทุนอื่นๆ ในประเทศสิงคโปร์ และเสนอขาย 244.45 ล้านหุ้นให้นักลงทุนรายย่อยในสิงคโปร์ (?การเสนอขายหุ้นให้นักลงทุนในสิงคโปร์?) โดยราคาที่จะเสนอขายนักลงทุนรายย่อยในสิงคโปร์ จะกระทำหลังกระบวนการสอบถามความเห็นราคาที่นักลงทุนต้องการซื้อ เสร็จสิ้นแล้ว
การเสนอขายหุ้นให้นักลงทุนรายย่อยในสิงคโปร์ จะเปิดเวลา 12.00 น. วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2549 และจะปิดการเสนอขายหุ้นเวลา 12.00 น. วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม 2549 คาดว่าหุ้นไทยเบฟจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX-ST) ในวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2549

ที่มา efinancethai.com[/color:d7ba3ffb17">

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 19/05/2006 @ 20:30:44 : re: RRC ความหวังเดียวกู้ซากหุ้นไอพีโอ
อ่านคนที่ 6 ... แต่ตอบคนที่หนึงค่ะ... .0008 .0008 .0008
 กลับขึ้นบน
lookwa
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 397
#2 วันที่: 19/05/2006 @ 22:11:22 : re: RRC ความหวังเดียวกู้ซากหุ้นไอพีโอ
อ่านคนที่เท่าไหร่ไม่รู้...แต่ตอบคนที่2ชัวร์ .0008 .0008 [/color:8a7c10dbcc">[/size:8a7c10dbcc">
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#3 วันที่: 19/05/2006 @ 22:48:19 : re: RRC ความหวังเดียวกู้ซากหุ้นไอพีโอ
แน่ะๆๆ .... มีแซวด้วย.... ( เด๋วจับตีก้นซะ....) .0008 .0008 .0008[/color:716f3ea473">[/size:716f3ea473">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com