arthor สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 803 | วันที่: 19/05/2006 @ 10:31:03 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ไปจอง RRC กันหรือยัง
--------------------------------------------------------------------------------
RRC เป็นโรงกลั่นน้ำมันตั้งอยู่ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เริ่มทำการสร้างโรงกลั่นในเดือนกรกฎาคม 2536 แล้วเสร็จจนสามารถผลิตน้ำมันได้เมื่อเดือนตุลาคม 2539 ปัจจุบันมีกำลังการกลั่น 145,000 บาร์เรล/วัน เดิมเป็นโรงกลั่นของ SHELL แต่ได้ขายหุ้นทั้งหมดให้กับ PTT เมื่อปี 2547
โครงสร้างรายได้ ก็จะเป็นน้ำมันเบนซิน และก๊าซปิโตรเลียมเหลว ในอัตรา 29% น้ำมันดีเซลกับน้ำมันเครื่องบิน 56% และน้ำมันเตา อีก 10%
จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทบอกว่า RRC มีกำไรจากการกลั่นขั้นต้นสูงกว่าโรงกลั่นอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เพราะมีกระบวนการกลั่นแบบคอมเพล็กซ์ (Complex) ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกระบวนการกลั่น คือ เขาสามารถที่เลือกผลิตน้ำมันคุณภาพสูง หรือคุณภาพต่ำก็ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของบริษัท มีสัญญารับซื้อผลิตภัณฑ์ ระหว่าง RRC กับ PTT ที่จะต้องซื้อผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดในอัตราไม่ต่ำกว่า 70% ของกำลังการผลิตของบริษัท
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ RRC บริษัทมีทุนจดทะเบียน 3 หมื่นล้านบาท ขายหุ้นออกมา 1.4 พันล้านหุ้น ราคาพาร์ 10 บาท แบ่งการออกหุ้นใหม่ 520 ล้านหุ้น และหุ้นที่ PTT เอามาขาย 880 ล้านหุ้น อีกประมาณ 220 ล้านหุ้นกันไว้ เพื่อทำ Greenshoes Options หลังจากขายหุ้น IPO PTT จะถือหุ้นประมาณ 50%
โครงการในอนาคต RRC ก็จะขยายกันลงทุน โดยการก่อสร้าง Reformin Complex และ Upgrading Complex โดยจะใช้ Condensate เป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตรีฟอร์เมต สำหรับจำหน่ายให้แก่ ATC เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 ภายหลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จบริษัทคาดว่าจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 145,000 เป็น 210,000 บาร์เรล/วัน
สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2549 บริษัทมียอดขาย 4.4 หมื่นล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,300 ล้านบาท เป็นกำไรที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยน 770 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.78 บาท/หุ้น สำหรับการประมาณการณ์ปี 2549 ทางฝ่ายวิเคราะห์ของหลักทรัพย์ บีที ได้คาดการณ์ผลการดำเนินงานไว้ดังนี้
สำหรับราคาเหมาะสมของหุ้น RRC ที่ทางหลักทรัพย์ บีที ได้ทำการประมาณการณ์ไว้ คือ 28 บาท โดยใช้วิธี EV/EBITDA ที่ 7 เท่า
ที่มา / นสพ.ทันหุ้น ( ขอบพระคุณในข้อมูลครับผม)
|