ช่วงชัย มาไม่ทันเวลา ฟิทช์แจกข่าวร้ายฟินันซ่าก่อนให้ข่าวดี ปรับลดแนวโน้มเครดิตเป็นลบ จากมีเสถียรภาพ งบไตรมาสแรกวูบแรงตั้งค่าเผื่อขาดทุนสูง แถมมีความเสี่ยงสำรองต่ำ อนาคตอาจต้องใส่เพิ่ม หนี้ตั๋วปิคนิค 90 ล้านบาทยังคาราคาซัง แต่อนาคตอาจขึ้นเครดิตสู่ระดับเดิม หลังได้ทีมมาร์เก็ตติ้งโกลเบล็กเสริมมาร์เก็ตแชร์ดีขึ้น

บริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์(ประเทศไทย) จำกัด ได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) หรือ FNS ลงเป็นลบ จากเดิมมีเสถียรภาพและคงอันดับเครดิตที่ระดับ BBB(tha) ขณะเดียวกันได้คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ระดับ F3(tha) และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของตั๋วแลกเงินมูลค่า 420ล้านบาท อายุ 270 วัน อยู่ที่ระดับ F2(tha)

ทั้งนี้การปรับลดอันดับเครดิต เนื่องจากผลประกอบการในไตรมาสแรกออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเกิดจากการตั้งค่าเผื่อขาดทุน ซึ่งเกิดจากการด้อยค่าของเงินลงทุนที่อาจเกิดขึ้นในกองทุน Siam Investment Fund หรือ SIF เมื่อผู้ถือหุ้นตัดสินใจไม่เลื่อนระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนกองทุนไปจนถึงสิ้นปี 2551 และจะทำการชำระบัญชีภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งผลขาดทุนที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากเจ้าหน้าที่การตลาดฝ่ายหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ ซึ่งดูแลลูกค้าหลักทรัพย์รายย่อยลาออก

นอกจากนี้การลดอันดับเครดิตเกิดจากบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด หรือมาร์เก็ตแชร์ลดลงอย่างรวดเร็วเหลือ 0.7% ในไตรมาส1 ปีนี้เทียบปีก่อนอยู่ที่ 2.6% ส่งผลให้รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ลดลงเป็น 42 ล้านบาท จาก 158.5 ล้านบาท

บริษัทฟิทช์ระบุว่า ความเสี่ยงจากการกันสำรองหนี้สูญของ FNS ยังคงมีอยู่ เมื่อพิจารณาถึงระดับการกันสำรองปัจจุบันที่อยู่ในระดับต่ำ และบริษัทยังได้เข้าไปลงทุนในตั๋วเงินระยะสั้น หรือบี/อีของบริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI เป็นจำนวนเงิน 90 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีในอนาคตฟิทช์ จะทบทวนอันดับเครดิตระยะยาวของ FNS อีกครั้งให้กลับมามีเสถียรภาพ หลังจากบริษัทได้ทีมเจ้าหน้าที่การตลาดชุดใหม่ ซึ่งเน้นดูแลลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก ทำให้คาดว่าจะช่วยทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทปรับตัวดีขึ้นในครึ่งหลังของปี2549 ส่งผลให้แนวโน้มเงินลงทุนในกองทุน SIF เพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนปรับปรุงระบบควบคุมความเสี่ยง และเปิดเผยข้อมูลทำให้ภาพพจน์ดีขึ้นด้วย

แหล่งข่าวจากนักวิเคราะห์ กล่าวว่าในอนาคตอันดับเครดิตของ FNS จะกลับมามีเสถียรภาพ จากการได้ทีมมาร์เก็ตติ้งที่ย้ายตามนายช่วงชัย นะวงศ์มาจากบล.โกลเบล็กไม่ต่ำกว่า 100 คน เพราะทำให้มาร์เก็ตแชร์ของฟินันซ่ากลับมาใกล้เคียงกับสัดส่วนเดิมคือกว่า 2%

ทั้งนี้บริษัทฟินันซ่าประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกขาดทุนสุทธิ 238.3 ล้านบาท หรือขาดทุนต่อหุ้น 1.91 บาท ลดลงจากผลกำไรสุทธิ 58.7 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 297.0 ล้านบาท หรือขาดทุนจำนวน 169 ล้านบาท คิดเป็น 71% ของผลขาดทุนทั้งสิ้น

โดยเกิดจากการตั้งค่าเผื่อขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุน โดยเป็นการตั้งค่าเผื่อขาดทุนจากการด้อยค่าสำหรับเงินลงทุนระยะยาวในกองทุนที่จดทะเบียนในต่างประเทศซึ่งอยู่ในระหว่างการชำระบัญชีจำนวน 110 ล้านบาท และสำหรับเงินลงทุนในหุ้นทุนทั้งในและต่างประเทศที่ถือไว้เผื่อขายจำนวน 59 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนในหุ้นทุนดังกล่าวได้มีการบันทึกด้วยมูลค่ายุติธรรม และบันทึกผลขาดทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว

นอกนั้นเป็นผลขาดทุนจากการดำเนินงาน โดยมีรายได้ค่านายหน้าลดลงตามส่วนแบ่งตลาดที่ลดลงจากการโยกย้ายของเจ้าหน้าที่การตลาด มีการเลื่อนโครงการด้านวานิชธนกิจที่ใกล้แล้วเสร็จออกไป เนื่องจากภาวะตลาดและสถานการณ์ทางการเมืองไม่เอื้ออำนวย มีรายได้จากเงินลงทุนลดลงทั้งในรูปของรายได้เงินปันผลและส่วนแบ่งกำไร รวมทั้งมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:385bd442fb">