เป้าหมาย?.ปลายทาง?



--------------------------------------------------------------------------------

การอ่อนตัวของดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้นกำลังทดสอบแนวรับสำหรับการตีกลับทางเทคนิคบริเวณดัชนี 750 -740 จุด ซึ่งเป็นจุด เสี่ยงซื้อ สำหรับนักเก็งกำไรประเภท จังหวะ ฝีมือ แต่บริเวณแนวรับดังกล่าวจะเป็นปลายทางสำหรับ รถด่วนขบวนล่องใต้ หรือไม่คำตอบสุดท้ายยังรอการพิสูจน์จากนักลงทุนและตลาดหุ้นในระยะสั้น

ระดับราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมาในช่วงประมาณ 4 วันทำการกว่า 30 จุด เริ่ม มีส่วนต่าง สำหรับนักเก็งกำไรที่จับจังหวะเข้าตลาดในลักษณะราคาหุ้นปรับตัวลดลงเร็วเกินไป ขณะเดียวกันการประกาศให้หุ้น IEC สามารถกลับมาซื้อขายโดยไม่อยู่ในข่ายห้ามซื้อขายด้วยการหักกลบลบหนี้หรือ Net Settlement ของตลาดหลักทรัพย์ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2549 ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของศาล ปกครอง น่าจะสะท้อนบางสิ่งบางอย่างที่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรต้องมีการพิจารณา และทบทวนบทบาทของตัวเองให้มากกว่าปกติ โดยเฉพาะการใช้อำนาจหน้าที่ว่าเป็นไปอย่างยุติธรรมและสุจริตใจหรือไม่

ตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันยังไม่สามารถแยกออกได้อย่างชัดเจน ระหว่างการเก็งกำไรกับการสร้างราคาหุ้น (Price Manipulation) ซึ่งทำให้ความเชื่อในเรื่องการปั่นหุ้น กับการเก็งกำไรหุ้นระหว่างทางการ ลูกค้า และเจ้าหน้าที่การตลาดนั้นมีมุมมองที่แตกต่างกันมาก และความเชื่อเรื่องการปั่นหุ้นของทางการ นำไปสู่แนวโน้มของการออกกฎระเบียบมากมายที่สร้างอุปสรรคในการทำงานของผู้ที่เกี่ยวข้อง จนปัจจุบันแทบจะเรียกได้ว่า
ทางการได้ออกมาเข้มงวดกับผู้ที่ทำธุรกิจจนเกินความจำเป็นและกลายเป็นอุปสรรคในการทำงานมากกว่า
สร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นด้วยซ้ำ

ตรงกันข้าม สิ่งที่ไก่ทองอยากวิงวอนให้ทางการดูแลอย่างใกล้ชิดคือ คุณภาพของสินค้าที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะสิ่งบอกเหตุค่อนข้างชัดเจนว่า แนวโน้มคุณภาพของบริษัทที่เข้าจดทะเบียนที่มีผลประกอบการไม่ดี การบริหารไม่โปร่งใส ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องต่อประชาชนและนักลงทุน ขาดทุนซ้ำซาก
บริหารห่วยสู้ร้านขายก๋วยเตี๋ยวข้างถนนก็ไม่ได้ ควรจะเป็นประเด็นสำคัญสำหรับการพัฒนาคุณภาพของสินค้าในตลาดให้ดีขึ้น แต่สำหรับปัจจุบันจะหาบริษัทที่เป็นตราสารหรือทางเลือกของผู้ลงทุนชนิดเกรดดี ๆ
มีค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับสินค้าประเภท สร้างปัญหาให้ระบบ ใครที่มีส่วนสำคัญในการอนุญาตและอนุมัติให้มีการนำบริษัทเข้ามาจดทะเบียน ควรจะมีมาตราการ ตัดไฟ แต่ต้นลม ไม่ใช่ต้องมาออกกฎระเบียบและเล่นเกม
ตำรวจจับโจร แล้วจับปล่อย ๆ เพราะขาดพยานหลักฐานจะสร้างผลเสียมากกว่าผลดี เพราะส่อเจตนาที่ไม่ค่อยสุจริตนักในสายตาของสุจริตชนทั่ว ๆ ไป

หันมาพิจารณาแนวโน้มตลาดกันดีกว่า ระยะสั้นตำแหน่งของดัชนีในมุมมองของไก่ทองกำลังอยู่ในทิศทางของการหา ป้ายแถม สำหรับขบวนรถด่วนสายใต้ สำหรับการตีกลับทางเทคนิค ซึ่งจะให้ด่วนตัดสินใจว่าป้ายนี้คือ ปลายทาง ของขบวนรถหรือไม่ยังเป็นการด่วนสรุปที่เร็วเกินไป เอาเป็นว่า ป้ายดัชนี 750 +/- 10 จุด น่าจะเป็นจุดเสี่ยงให้นักลงทุนได้ พักเหนื่อย หาข้าวต้ม ระหว่างทางกินกันพลาง ๆ ก่อน

สาเหตุเนื่องจากการปรับของดัชนีในลักษณะเร็วและแรงในระยะสั้น จะทำให้เกิดจังหวะในการขายหุ้นที่ราคาสูงและเต็มมูลค่า และย้ายเงินทุนไปยังหุ้นที่ มีส่วนลด ในระดับที่ดึงดูดใจในการลงทุนได้ ในที่นี้ไก่ทองหมายความว่า นักลงทุนเริ่มมีการเปรียบเทียบ ข้อดีขอเสีย ของหุ้นที่ถืออยู่ในมือ เทียบกับหุ้นตัวอื่น ๆ ในตลาดที่ต่างปรับราคาลงมา และเริ่มหาจังหวะ โยกเงิน เพื่อไปหาส่วนต่างจากหุ้นตัวอื่น ๆ ที่ตนชอบ และหวังว่ากลับมาซื้อหุ้นตัวที่ขายไปได้ในราคาที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า

แต่หากถามว่า หลักทรัพย์ประเภทใดจัดอยู่ในข่ายที่เข้าแนวคิด ขายหุ้นแพง ไปซื้อหุ้นถูกและขึ้นเร็ว คาดว่าคำตอบส่วนใหญ่อยู่ในใจนักลงทุน เพราะองค์ประกอบหลักคือ ส่วนลดของราคาหุ้น สภาพคล่องในการซื้อขาย
คุณภาพของบริษัทที่จะเข้าไปเก็งกำไรหรือลงทุน จังหวะและเวลาในการเข้าลงทุน องค์ประกอบทางเทคนิค ซื้อแล้วมีโอกาสได้กำไรเร็ว หรือเจ็บตัวน้อย ฟังแล้ว เอ๊ย อ่านแล้วยังงงงง เอาเป็นว่าใช้หลักวิเคราะห์ด้านสถิติมาช่วยแล้วกัน หุ้นที่อยู่ในข่ายตีกลับทางเทคนิคได้จะมีการการปรับลดลงของราคาประมาณ 30 -50- 70 % โดยเป็นผลมาจากปัจจัยทางด้านจิตวิทยาตลาด แต่ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไปครับ

สำหรับหุ้นที่เข้าข่ายน่าติดตาม เช่น TOP PTTEP SCC ASP KEST ITD CK ส่วนหุ้นเกรด Money Game ยังคงติดตาม JAS KMC KMC-W1 TOG NSM เป็นต้น

ที่มา / นสพ.ทันหุ้น