May 5, 2024   7:14:13 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กลยุทธ์การเล่นหุ้นวันนี้ โดย....บล ยูโอบี ฯ
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 17/05/2006 @ 13:46:02
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ลดพอร์ตลงบ้างในช่วงที่มี Technical Rebound

- แรงขายหุ้นหลักๆ ในกลุ่มน้ำมัน และกลุ่มธนาคาร รวมทั้งหุ้น TPI และ AOT
ทำให้ตลาดหุ้นวันอังคารปรับตัวลดลงต่อเนื่อง (-0.53%) เช่นเดียวกับทิศทางของตลาดหุ้นในภูมิภาคซึ่งยังคงปรับตัวลดลง
โดยมีปริมาณซื้อขายค่อนข้างหนาแน่น ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง

- ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากการที่ไนจีเรียลดการส่งออกน้ำมันบางส่วน
และความกังวลว่าอิหร่านอาจงดการส่งออกน้ำมัน จากกรณีความขัดแย้งเรื่องการวิจัยนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตามต้องติดตามการประกาศระดับน้ำมันสำรองของสหรัฐในวันนี้
ที่จะมีผลกระทบต่อการปรับตัวของราคาน้ำมันในระยะต่อไป

- ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในขณะนี้ยังคงไม่สดใสนัก ทั้งด้านปัจจัยทางการเมืองที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน,
ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศยังคงปรับตัวสูงขึ้น การผิดนัดชำระหนี้ในไตรมาสที่ 2/49ที่เพิ่มขึ้น
และแนวโน้มการปรับประมาณการทางเศรษฐกิจปีนี้ลงโดย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)



กลยุทธ
ความไม่ชัดเจนของแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทำให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียกลับมาแข็งค่าอีกรอบ
ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้ายังคงมีแนวโน้มอ่อนตัวลง
จากการคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
รวมทั้งการลดนำเข้าน้ำมันของจีน ส่วนการเมืองในประเทศคงจะอึมครึมไปอีกระยะ
จนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่อง กกต. และ วันเลือกตั้ง บรรยากาศการลงทุนโดยรวมจึงยังไม่ค่อยสดใส
ดัชนีน่าจะแกว่งในกรอบแคบๆ ระหว่างแนวรับ 753 ? 755 จุด กับแนวต้าน 763 ? 765 จุด
โดยคาดว่านักลงทุนต่างชาติจะยังคงขายหุ้นต่อเนื่อง

นักลงทุนระยะสั้น ? ขายทำกำไรบ้างที่แนวต้าน แล้วรอซื้อที่แนวรับ ไม่ได้ไม่เป็นไร
นักลงทุนระยะยาว ? ถือต่อ รอดูสถานการณ์อีกสักระยะ หรือ Short Against Port บ้างที่บริเวณแนวต้าน

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 17/05/2006 @ 13:51:11 : re: กลยุทธ์การเล่นหุ้นวันนี้
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุนวันนี้
* ปัจจัยในประเทศ
(+) สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจอุตสาหกรรม คาดว่า GDP ไตรมาส 1/49 จะเติบโต 5%
และคาดว่าไตรมาส 2 ยังมีคงแนวโน้มดี โดยมองว่าปัญหาการเมืองคงไม่กระทบต่อเศรษฐกิจในปีนี้มากนัก
ส่วนปัจจัยลบที่อาจทำให้ GDP ปรับลดลงได้แก่ ราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย

(-) สถาบันจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันเศรษฐกิจ
IMD ปรับลดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของไทยลง 5 อันดับ
จากอันดับ 27 ในปี 48 มาอยู่ที่อันดับ 32 จากทั้งหมด 61 เขตเศรษฐกิจ
โดยระบุว่าปัจจัยทางการเมืองมีผลต่อความสามารถในการแข่งขันของไทย

* ปัจจัยต่างประเทศ
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลง 8.88 จุด ปิดที่ 11,419.89 จุด
จากผลประกอบการที่ลดลงของบริษัทค้าปลีกแห่งใหญ่ในสหรัฐฯส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้น
แม้ว่าจะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้
โดยบ่งชี้ถึงระดับเงินเฟ้อที่ต่ำลง และแนวโน้มการหยุดพักวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

(-) ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 12 เซนต์ ปิดที่ 69.53 DPB
โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อชดเชยและช้อนซื้อเก็งกำไร
ภายหลังจากราคาปรับลดลง 2 วันต่อเนื่องจากการชะลอตัวของอุปสงค์
และการคาดการณ์อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 17/05/2006 @ 14:01:42 : re: กลยุทธ์การเล่นหุ้นวันนี้
สรุปหุ้นรายตัว

BANPU
คำแนะนำ: ซื้อลงทุนเมื่อราคาอ่อนตัว(แนวรับ 140 บาท)
- คาดผลประกอบการปี 49 จะเติบโตตามคาดการณ์
แม้ต้นทุนการผลิตถ่านหินจะสูงขึ้น จากการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลในนโดนีเซีย
ทั้งนี้บริษัทเน้นกลยุทธ์การกระจายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน
เพื่อให้บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายผลิตถ่านหินในปี 49 เพิ่มเป็น 21 ล้านตันจาก 17 ล้านตันในปี 48

BAY
คำแนะนำ: ขาย
- ตั้งเป้าหมายกำไรสุทธิปี 49 เติบโต 10% จากปี 48 ที่มี 6,020 ล้านบาท
ปัจจุบันธนาคารสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง จากการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)
ซึ่งช่วง 4 เดือนแรกของปี 49 ขายได้แล้ว 2,400 ล้านบาท
จากเป้าหมายทั้งปี 49 จะขายทั้งสิ้น 6,000 ? 7,000 ล้านบาท ของยอดรวมประมาณ 25,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายจะขยายตัวสินเชื่อได้ 8% โดยเน้นการเติบโตของสินเชื่อรายย่อย (retails)
และรายได้จากค่าธรรมเนียมจะให้เติบโตขึ้น 17%

TPI
คำแนะนำ: ซื้อลงทุนเมื่อราคาอ่อนตัว(แนวรับ 7.70 บาท)
- คาดจะรีไฟแนนซ์หนี้ที่เหลือประมาณ 900 ล้านเหรียญสหรัฐ เสร็จภายใน 3 เดือน
โดยจะใช้การกู้เงินจากสถาบันการเงิน ซึ่งอายุเงินกู้จะไม่เกิน 5 ? 7 ปี
นอกจากนี้บริษัทมีแผนลงทุนทั้งหมด 1,300 ? 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการต่างๆ
เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจที่จะเกิดขึ้น
และยังมีแผนลงทุนประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ในโรงไฟฟ้าขนาด 200 ? 250 เมกะวัตต์
เนื่องจากปัจจุบันโรงไฟฟ้าเดิมที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ส่งผลให้มีการหยุดผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ 1 ? 2 ครั้ง/เดือน

LALIN
คำแนะนำ: ซื้อเก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว(แนวรับ 5.10 บาท)
- คงเป้าหมายรับรู้รายได้ปี 49 เติบโต 10% จากปี 48 ที่มี 2,760 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 2 และ 3 บริษัทมีโครงการที่จะเปิดทั้งสิ้น 3 โครงการ
ได้แก่ บ้านลลิล มูลค่า 600 ล้านบาท จำนวน 166 ยูนิต ,
The Balcony Town Home มูลค่า 450 ล้านบาท จำนวน 147 ยูนิต
และลลิลกรีนวิลล์ มูลค่า 1,000 ล้านบาท

AMATA
คำแนะนำ: ระยะสั้น ? ขาย/ระยะยาว - ถือ
- คงเป้าหมายรายได้ปี 49 ที่ 5,500 ? 6,000 ล้านบาท และจะรักษากำไรขั้นต้นที่ระดับ 60%
เนื่องจากบริษัทได้มีการลดต้นทุน โดยการขุดที่ดินภายในนิคมขึ้นมาถมที่ที่จะขาย
เพื่อลดต้นทุนการผลิตค่าน้ำมันไม่ต้องขนส่งไกล ซึ่งเป็นต้นทุนจำนวนมากที่บริษัทต้องใช้
สำหรับไตรมาส 2/49 บริษัทยังคงเป้าหมายที่จะขายที่ดินในระดับ 475 ? 525 ไร่
ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ประมาณ 800 ล้านบาท คาดจะบันทึกเป็นรายได้ภายในปี 49
นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะนำ บ. อมตะ ซัมมิทเรดี้ บิ้ลท์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับโอตะของประเทศญี่ปุ่น
โดยทำธุรกิจโรงงานให้เช่า เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3 ปีข้างหน้า



** โดย บจ.หลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์ เฮียน (ประเทศไทย)[/color:5310328b25">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com