ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ดัชนีร่วงลงทันทีที่เปิดตลาด
จากผลกระทบจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ร่วงลงอย่างหนักตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ที่ได้ผลกระทบจากรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทำให้นักลงทุนคาดว่าจะทำให้เฟดฯต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง
เพื่อยับยั้งภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่เงินบาทก็อ่อนตัวลงต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ทะลุ 38 บาท/ดอลลาร์
สวนทางกับเงินหยวนและเยนที่เดินหน้าแข็งค่าขึ้น ซึ่งแสดงถึง นักลงทุนต่างชาติขนเงินออกไป
เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคนี้เพื่อไปเก็งกำไรเงินหยวน
โดยนักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิสูงถึง 3.74 พันล้านบาท สูงสุดในรอบ 7 เดือน
ส่งผลให้ดัชนีตลาดร่วงลงมาและปิดที่จุดต่ำสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ จากการเทขายหุ้นบลูขิพ


ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการลงทุนวันนี้

* กระแสเงินดอลลาร์ที่พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น ขณะที่ราคาทองคำร่วงลง
ทำให้ระยะสั้นเงินสกุลเอเชียยังมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อจากการไหลออกของเงินทุนและการขายหุ้นในตลาดหุ้นเหล่านี้
ทำให้ระยะสั้นยังเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้น โดยเช้านี้เงินบาทเคลื่อนไหวที่ 38.28 บาท/ดอลลาร์ อ่อนลงต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน

* การเปิดขายหุ้น IPO กลุ่มธนาคารของจีน, หุ้นไทยเบฟฯ ในตลาดสิงคโปร์ รวมไปถึงหุ้น RRC ในสัปดาห์นี้
ทำให้มีการขายหุ้นในพอร์ตเพื่อจองซื้อหุ้นเหล่านี้ยังเป็นปัจจัยกดดันให้มีการลดการถือครองหุ้นลง

* ราคาน้ำมันดิบ NYMEX รูดลงวานนี้ถึงร้อยละ 3.7 หรือ 2.63 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 69.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
แม้จะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของ บจ.และตลาดฯ โดยรวม
แต่จะกดดันราคาหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่มีสัดส่วนของ Market Cap ต่อตลาดรวม ในสัดส่วนที่สูง

* ผลสรุปที่ประชุม กกต.และตัวแทนพรรคการเมืองวานนี้
ให้มีการเลือกตั้งใหม่ 22 ต.ค. และออก พรฎ.การเลือกตั้ง 22 ส.ค. (เสนอ ครม.พิจารณาวันนี้)
ซึ่งนับว่าเป็นระยะเวลาที่นานกว่า 5 เดือน ทำให้เกิดช่วงสุญญากาศทางการเมือง
ทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่องในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและการใช้งบประมาณเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

แรงกดดันจากเคลื่อนย้ายเงินทุนเพื่อลงทุนในตลาด Fx
โดยเฉพาะเงินหยวนยังคงทำให้การดีดกลับของดัชนีตลาดหุ้นเป็นไปอย่างจำกัด
และยังต้องระมัดระวังการปรับตัวลงของหุ้นโรงกลั่นที่ได้ผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์วานนี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังดูน่าห่วงจากปัจจัยการเมืองที่เรายังเห็นความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมือง
และกระแสไม่ยอมรับ กกต.ที่เป็นผู้จัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้น 22 ต.ค.
หรือทำให้การเมืองไทยช่วงสุญญากาศ 5 เดือนข้างหน้าจะกดดันตลาดหุ้นให้กลับมาผันผวนอีกครั้งได้
ดัชนีวันนี้จึงยังมีความเสี่ยงในขาลงซึ่งเรามองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีวันนี้ที่ 772 ? 760 จุด

กลยุทธ์การลงทุน... ประคองตัว ไม่ซื้อเพิ่ม....
ดัชนีกลับมาเป็นขาลงอย่างชัดเจน โดยแนวรับแรกบริเวณ 760 จุด
จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญถ้าทะลุแนวนี้ลงมา เราจึงยังไม่แนะนำให้ซื้อหุ้นเพิ่มในขณะนี้
และติดตามปัจจัยการเมืองอย่างใกล้ชิด รวมทั้งหุ้นกลุ่มโรงกลั่นอาจเป็นปัจจัยฉุดตลาดในช่วงนี้

* ลูกหุ้นเข้าเทรดวันนี้ได้แก่ ERAWAN 2.06 ล้านหุ้น, KTC 0.014 ล้านหุ้น, MPT 0.67 ล้านหุ้น และ ZMICO 0.025 ล้านหุ้น
* TOG เข้าเทรดวันนี้ (ตลาด mai) 400 ล้านหุ้น


โดย บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) [/color:1b3a7daa96">