16 พฤษภาคม 2549 07:17 น.
นักวิเคราะห์ชี้แค่เก็งกำไรช่วงสั้น ด้าน ผู้ว่าการ ธปท. ยันไม่มีเงินไหลออก และไม่ได้เข้าแทรกแซง มั่นใจเบียร์

ต่างชาติเทขาย 3.7 พันล้านบาท ฉุดดัชนีดิ่ง 16 จุด ค่าเงินอ่อนยวบแตะ 38.16 บาท/ดอลล์
นักวิเคราะห์เชื่อแค่ขายทำกำไร เหตุดัชนีหลายตลาดพุ่งทำนิวไฮ
ขณะที่บางส่วนปรับพอร์ตลงทุนโยกลงหุ้นไอพีโอ หลังมีหุ้นใหม่จ่อเข้าหลายตลาดรวมถึงหุ้นไทยเบฟเวอเรจ
คาดกระทบแค่ช่วงสั้น ระบุ หลังเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย ดึงทิศทางค่าเงินเอเชียดีขึ้น
ด้านผู้ว่าการ ธปท.ยันยังไม่มีเงินไหลออก และไม่ได้เข้าแทรกแซง

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้(15 พ.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน
ซึ่งทันทีที่เปิดการซื้อขายมาก็มีแรงเทขายออกมาอย่างหนักจากนักลงทุน
กดดันให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงจนแตะระดับต่ำสุดที่ 763.69 จุด ลดลง 18.81 จุด
ก่อนจะรีบาวนด์ขึ้นมาปิดตลาดที่ระดับ 765.97 จุด ลดลง 16.53 จุด คิดเป็น 2.11% มูลค่าการซื้อขายรวม 19,259.68 ล้านบาท

หุ้นกลุ่มที่ถูกเทขายออกมาอย่างหนัก ได้แก่ กลุ่มสถาบันการเงิน
นำโดยหุ้น ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งปรับลดลง 3.42% ธนาคารไทยพาณิชย์ ลดลง 3.70% และธนาคารกสิกรไทย ลดลง 1.48%
รองลงมาได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน และ อสังหาริมทรัพย์
ซึ่งนำโดยหุ้น ปตท. ลดลง 2.31% ปตท.สผ. 3.28% และหุ้น ปูนซิเมนต์ไทย 3.42%

ส่วนนักลงทุนต่างชาติวานนี้ มียอดขายสุทธิ 3,741.62 ล้านบาท
นักลงทุนสถาบันในประเทศมียอดซื้อสุทธิ 419.96 ล้านบาท
และนักลงทุนรายบุคคลในประเทศมียอดซื้อสุทธิ 3,321.66 ล้านบาท

**นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน
กล่าวว่า สาเหตุที่หุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงวานนี้
ส่วนหนึ่งเป็นผลจากตลาดหุ้นภูมิภาคที่ดัชนีในหลายตลาดถูกเทขายออกมา
ตั้งแต่รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาจนถึงสัปดาห์นี้ ทำให้หุ้นไทยพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย

ทั้งนี้การปรับลดลงของดัชนีในตลาดหุ้นภูมิภาค
เป็นเพราะก่อนหน้านี้ดัชนีในหลายตลาดมีการปรับเพิ่มขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) กันจำนวนมาก
นักลงทุนต่างชาติบางส่วนจึงพากันขายทำกำไรออกมาก่อน
และน่าจะมีนักลงทุนอีกหลายส่วนที่ขายหุ้นเพื่อปรับพอร์ตการลงทุน
เนื่องจากในเร็วๆ นี้จะมีหุ้นใหม่ในหลายตลาดที่เปิดเสนอขายประชาชนทั่วไปครั้งแรก(ไอพีโอ)
นักลงทุนจึงขายหุ้นที่ถืออยู่เดิมเพื่อมาลงทุนในหุ้นเหล่านี้

ถ้าดูตอนนี้มีหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่หลายแห่งที่เตรียมขายหุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียน
อย่างของไทยก็มีหุ้นโรงกลั่นน้ำมันระยอง สิงคโปร์ก็มีหุ้นเบียร์ช้างของไทยที่เตรียมเข้าจดทะเบียน
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ก็ยังมีหุ้นไอพีโออีกหลายบริษัท
จึงน่าจะมีเม็ดเงินบางส่วนอาศัยจังหวะนี้ขายทำกำไรแล้วหันไปลงทุนในหุ้นไอพีโอเหล่านี้แทนนางวิริยา กล่าว




**นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล. นครหลวงไทย
กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ
ซึ่งเป็นการขายทำกำไรที่เกิดขึ้นทั่วเอเชีย เห็นได้จากค่าเงินของประเทศต่างๆ ในเอเชียที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์
เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐยังไม่หมดรอบ

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการขายทำกำไรดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นแค่ระยะๆ สั้น
เพราะท้ายที่สุดแล้วการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐก็ต้องสิ้นสุดลงในไม่กี่เดือนข้างหน้า และค่าเงินในเอเชียจะมีทิศทางที่ดีขึ้น

** โยกเงินออกกดบาทอ่อนแตะ 38.16

ด้านนักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ปรับตัวอ่อนค่าลงตามค่าเงินภูมิภาค
โดยหลังจากเปิดตลาดเช้าที่ 37.82-37.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินบาทได้ปรับตัวอ่อนค่าระหว่างวันมาอยู่ที่ 38.16 บาทต่อดอลลาร์
ซึ่งเป็นช่วงที่อ่อนที่สุดของวัน ก่อนจะปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 38.09-38.11 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปิดตลาด

ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเป็นไปตามค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงไปแตะระดับ 110 .04 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ปัจจัยภายในประเทศเองที่มีข่าวเรื่องการเมือง ที่ได้กำหนดวันเลือกตั้งล่าช้าออกไปถึง 5 เดือน
ประกอบกับการเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยเพื่อเตรียมซื้อหุ้นไทยเบฟเวอเรจที่จะมีการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์
โดยกรอบความเคลื่อนไหวในวันพรุ่งนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 38.00-38.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ


** ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
กล่าวว่า ค่าเงินบาทอ่อนลงตามสกุลอื่นในภูมิภาค และวานนี้ไม่มีเงินไหลออกแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่มองจะมีเงินออกไปเพื่อรอซื้อหุ้นเบียร์ช้างนั้น เชื่อว่าจะทำให้เงินเข้ามากกว่าออก
แต่ถึงเข้ามากกว่าออกก็ไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวค่าเงิน
ทั้งนี้มองว่าการเคลื่อนไหวค่าเงินหากเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งภูมิภาคก็ไม่น่าห่วง
รวมทั้ง ธปท.ก็ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด

**เงินหยวนแข็งสุดทะลุ 8 ต่อดอลล์

ขณะที่การเคลื่อนไหวสกุลเงินเอเชีย วานนี้ อ่อนค่าลง จากความวิตกว่าธนาคารกลางชาติเอเชียจะเข้าแทรกแซงตลาดเงิน
ประกอบกับมีแรงขายทำกำไรออกมา หลังค่าเงินเอเชียดีดตัวขึ้นรุนแรงในสัปดาห์ที่แล้ว แม้หยวนพุ่งทะลุระดับ 8 ต่อดอลลาร์ในช่วงเช้าก็ตาม

ทั้งนี้ หยวนแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 7.9977 หยวนต่อดอลลาร์
โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางประจำวันนี้ของหยวนไว้ที่ 7.9982 ต่อดอลลาร์
นับเป็นครั้งแรกที่หยวนพุ่งขึ้นทะลุระดับ 8 ต่อดอลลาร์
นับตั้งแต่จีนยกเลิกระบบผูกติดค่าเงินกับดอลลาร์ที่ใช้มาร่วม 10 ปีในเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว และปล่อยให้หยวนลอยตัวเมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน


** นายภาณุ บาเวจา นักยุทธศาสตร์การลงทุนสกุลเงินของธนาคารยูบีเอส กล่าวว่า
จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวน
ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นครั้งใหม่ให้แก่การพุ่งขึ้นของค่าเงินเอเชีย
อย่างไรก็ดี การเทขายทำกำไร, การประเมินโพสิชั่นใหม่ และแรงขายหุ้นเอเชียของนักลงทุนต่างชาติเป็นปัจจัยถ่วงค่าเงินวานนี้

รูเปี๊ยะห์เป็นสกุลเงินที่ร่วงลงมากที่สุด โดยติดลบ 3 % มาแตะระดับประมาณ 9,000 รูเปี๊ยะห์ต่อดอลลาร์
และปรับตัวห่างจากจุดสูงสุดรอบ 2 ปีที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

** อินโดฯ เตือนเฮดจ์ ฟันด์ ถอนตัวตลาดเกิดใหม่

นายเบอร์ฮันดุดดิน อับดุลเลาะห์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวว่า
ธนาคารกลางเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อควบคุมการแข็งค่าของดอลลาร์
และจะดำเนินการอีกเพื่อดึงเงินดอลลาร์ให้เคลื่อนไหวในระดับเหมาะสมที่ 8,750 รูเปี๊ยะห์
ขณะที่สาเหตุการอ่อนค่าของรูเปี๊ยะห์นั้นเกิดจากกองทุนบริหารความเสี่ยงถอนตัวออกจากตลาดเกิดใหม่
หลังจากกองทุนบางแห่งประสบปัญหาขาดทุนในบราซิล และตุรกีเมื่อเร็วๆ นี้

ส่วนดอลลาร์สิงคโปร์ลดลงเหลือ 1.5726 ต่อดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.5625 ต่อดอลลาร์สหรัฐในวันก่อน
เงินเปโซอยู่ที่ 52.14 เปโซต่อดอลลาร์ จาก 51.71 เปโซในวันก่อน
และเงินดอลลาร์ไต้หวันอ่อนตัวลงเหลือ 31.637 ต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 31.390 ต่อดอลลาร์สหรัฐในวันก่อน

สำหรับเกาหลีใต้ เงินวอนอ่อนค่าลงต่อไปจากจุดสูงสุดรอบ 8 ปีครึ่งที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยอยู่ที่ 944.0 วอนต่อดอลลาร์ จาก 932.50 วอน ในวันก่อน




** เงินเยนพุ่งสวนทางเพื่อนบ้าน

ในตลาดเงินโตเกียว เงินเยนปรับตัวขึ้นสู่ 109.35 เยนต่อดอลลาร์ เข้าใกล้จุดสูงสุดรอบ 8 เดือนที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โดยปรับตัวขึ้นจากการแข็งค่าขึ้นของหยวน
และจากคาดการณ์ถึงการสิ้นสุดลงของการคุมเข้มนโยบายการเงินที่ดำเนินมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ก่อนที่ค่าเงินเยนจะฟื้นตัวขึ้นมายืนที่ 109.60 เยน ในช่วงปิดตลาด

** นายมาซามิชิ โคอิเกะ ผู้จัดการฝ่ายตลาดปริวรรตเงินตราของบริษัท สุมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ป กล่าวว่า
การที่ดอลลาร์ร่วงผ่าน 8.0 หยวน ลงไปกระตุ้นให้มีคำสั่งซื้อเยนเข้ามาในตลาด
ทั้งนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ช่วงสุดสัปดาห์ที่ว่า
ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐ กำลังยอมรับโดยปริยายต่อการอ่อนค่าลงของดอลลาร์
เพื่อช่วยลดยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐ


** เงินเฟ้อสหรัฐถล่มหุ้นเอเชีย

ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียหลายตัวโดนแรงขายกระหน่ำใส่วานนี้
โดยดัชนีนิกเคอิ ลดลง 114.87 จุด ปิดที่ 16,486.91 จุด ถือเป็นการร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการ
เนื่องนักลงทุนวิตกกังวลที่ดัชนีดาวโจนส์ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปรับตัวลง
หลังจากราคาสินค้านำเข้าพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา
ปลุกกระแสความกลัวเงินเฟ้อ


** ในตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีหั่งเส็งทรุดตัวลง 407.01 จุด หรือ 2.41% ปิดที่ 16,494.84 จุด ปิดดิ่งลงหนักที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี
ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยฉุดหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

และที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิตลดลง 31.22 จุด หรือ 2.16% ปิดที่ 1,413.98 จุด
แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์ในวันนี้ หลังจากหุ้นสหรัฐร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ




ที่มา กรุงเทพธุรกิจ[/color:965f8938a5">