May 16, 2024   12:57:36 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > อดใจรอปตท.300บ. ได้เห็นแผนแตกพาร์
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 15/05/2006 @ 05:14:45
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บิ๊กปตท.ลั่นสนใจแผนแตกพาร์ รอดูราคาหุ้นแตะ 300 บาท จะรับไว้พิจารณา แต่ขอดูปัจจัยอื่นประกอบ เช่น อยากให้คนไทยมีส่วนเป็นเจ้าของหุ้นเพิ่ม เผยมิถุนาฯรู้ผลปรับบทบาทเป็นโฮลดิ้ง ถือหุ้นกิจการในเครือ นอนรอกินปันผล จ้างบอสตันศึกษา แจงถ้าปตท.ออกจากตลาดหุ้น มีผลเสียมากกว่าดี ประเทศกระทบมาก รัฐต้องควักเงิน 6-7 แสนล้านบาทซื้อหุ้นคืนและถูกลดอันดับเครดิต อนาคตบริษัทไม่มีเงินขยายการลงทุน

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. หรือ PTT กล่าวกับข่าวหุ้นธุรกิจว่า สนใจจะลดพาร์หากราคาหุ้นเทรดมากกว่า 300 บาท แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ประกอบกันด้วย เช่น จำนวนหุ้นที่เทรดบนกระดานในขณะนี้ มีสภาพคล่องเพียงพอแล้วหรือไม่ หากหุ้นยังเทรดได้ดีก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องลดพาร์ เพราะการลดพาร์ไม่ได้ทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้น เพียงแต่เป็นการขยายฐานนักลงทุนเท่านั้น

แหล่งข่าวผู้บริหารระดับสูงบมจ.ปตท. กล่าวว่าบริษัทกำลังพิจารณาแผนแตกพาร์หุ้นปตท.อยู่ในขณะนี้ หากราคาวิ่งขึ้นไปถึง 300 บาท ขณะที่ราคาในกระดานอยู่ที่ประมาณ260 บาท โดยคาดว่าราคาพาร์ใหม่จะอยู่ที่ 1-5 บาท จากปัจจุบันพาร์ 10 บาท
เมื่อราคา 300 บาทแล้ว เราคงต้องมาพิจารณากันอีกครั้งว่าสูงจริงหรือไม่ ถ้าเห็นว่าสูงเกินไปต้องมาดูว่าจะแตกพาร์เหลือ 1 บาท หรือ 5 บาทถึงจะเหมาะสมแหล่งข่าวกล่าว


สำหรับความคืบหน้าเรื่องแยกธุรกิจตั้งบริษัทจำกัด เพื่อเป็นบริษัท โฮลดิ้ง จำกัดคาดว่า จะสรุปความชัดเจนภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดขณะนี้มอบหมายให้บริษัท บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป จำกัด ทำหน้าที่ศึกษารายละเอียดการแยกธุรกิจตั้งบริษัทจำกัด รวมทั้งศึกษาความเหมาะสมเรื่องจะลด หรือเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของปตท. ในบริษัทลูกที่ยังมีปตท. ถือหุ้นไขว้กันอยู่

ปตท.มีแนวทางจะแยกธุรกิจต่างๆ ออกมาเป็นบริษัทจำกัด เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการลงทุน ถือเป็นการสร้างความสนใจให้กับนักลงทุน สร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการ สร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับปตท. มากขึ้น รวมถึงการจัดทำระบบบัญชีซึ่งทำให้สามารถรู้ว่าธุรกิจใดมีผลกำไร หรือประสบภาวะขาดทุนอย่างไร

ขณะที่ธุรกิจของปตท. ที่จะต้องแยกออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่ชัดเจน คือ ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ขณะที่ธุรกิจของปตท. ที่เข้าข่ายต้องแยกบริษัท อาทิ โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ค้าน้ำมันในประเทศ ค้าปลีกน้ำมันหรือสถานีบริการ ฯลฯ ขณะที่แผนควบรวมกิจการกับปตท.สผ. ยังไม่เกิดขึ้นแน่ แต่ในอนาคตหากโลกเปลี่ยนแปลงก็อาจมีความจำเป็นต้องทำ แต่วันนี้ยังมองว่าการมีองค์กรขนาดใหญ่เกินไปจะอุ้ยอ้ายปรับตัวลำบาก

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว จะทำพร้อมกับการสร้างความสนใจให้กับนักลงทุนด้วยซึ่งในอนาคตปตท.จะปรับบทบาทเป็นเพียงบริษัท โฮลดิ้ง จำกัด ทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดทิศทาง และนโยบายให้แก่บริษัทในเครือเท่านั้น
ส่วนกรณีหากปตท.ต้องกลับมาเป็นการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยอีกครั้ง หมายความว่ารัฐต้องเตรียมเงินไว้สำหรับซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นสูงประมาณ 6-7 แสนล้านบาทตามจำนวนหุ้นที่ปตท.ได้กระจายออกไป อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่อแผนขยายงาน เช่นโอกาสการขยายงานน้อยลง เพราะแหล่งเงินเหลือเพียงการกู้ยืมจากสถาบันการเงินและการออกพันธบัตร ทำให้ติดเพดานหนี้สาธารณะและความคล่องตัวหายไป

นอกจากนั้นประเทศจะถูกลดเครดิต เพราะปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจชั้น 1 ซึ่งผลกระทบนี้จะลามไปถึงบริษัทเอกชนใหญ่ ๆ ที่จะออกหุ้นกู้ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากเรทติ้งต้องลดลงตามอันดับประเทศ

ปัจจุบันพบว่าคนไทยถือหุ้น ปตท.ทั้งทางตรงและทางอ้อมประมาณ 11 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนถือหุ้น 80% แยกเป็น กระทรวงการคลัง 52.5% บุคคลธรรมดา สถาบันไทยกองทุนและสำนักงานทรัพย์สินฯ ถือหุ้น 12% และกองทุนรวมวายุภักษ์อีก 15.6%

สำหรับแผนงานของบริษัทปี 2579-2553 ปตท.ใช้เงินลงทุนประมาณ 595,473ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจปิโตรเคมี 150,837 ล้านบาท ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 225,642ล้านบาท ปตท.สผ. 153,550 ล้านบาท ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน 38,874 ล้านบาท ธุรกิจค้าน้ำมัน 13,924 ล้านบาท และการลงทุนอื่นๆ 12,646 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตั้งเป้าปีนี้จะมีกำไรมากกว่า 1 แสนล้านบาท หลังจากปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ85,521 ล้านบาท เติบโต 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากปตท.สผ. 18% ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน 20% ธุรกิจปิโตรเคมี 10% ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 11% ธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ 5% ธุรกิจโรงแยกก๊าซ 16% ธุรกิจค้าน้ำมันระหว่างประเทศ 3%และค้าน้ำมันในประเทศ 2%

ปัจจุบันปตท. มีทุนจดทะเบียน 28,572,457,250 บาท ทุนจด
ทะเบียนชำระแล้ว27,972,457,250 บาท จำนวนหุ้น 2,797,245,725 ล้านบาท มูลค่าตามบัญชี (bookvalue) หุ้นละ 82.52 บาท ราคาพาร์ละ 10 บาท

ด้าน สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์(S&P)ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของ ปตท.โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ ได้แก่ อันดับความน่าเชื่อถือหุ้นสกุลเงินต่างประเทศของ ปตท.ที่BBB+ อันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้สกุลเงินบาทที่ A- และอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ์ไม่มีประกันของ ปตท.ที่ BBB+

ทั้งนี้ อันดับความน่าเชื่อถือของ ปตท.สะท้อนถึงบทบาทด้าน
สาธารณะที่แข็งกร่งในไทยแนวโน้มการขยายตัวที่น่าดึงดูดใจ และสถานะด้านการแข่งขันที่แข็งแกร่ง และยังได้พิจารณาถึงการิดำเนินงานที่ครบวงจรในอุตสาหกรรม และผลการดำเนินงานทางการเงินที่น่าพอใจ

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ของปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 270,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ของปีที่แล้วจำนวน 80,248 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.2% มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นและรายได้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน(EBITDA) จำนวน 36,766 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ของปีที่แล้วจำนวน11,872 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47.7%

และมีกำไรสุทธิจำนวน 23,723 ล้านบาทลดลง 8.7% จากไตรมาส 1 ของปีที่แล้วที่มี 25,995,904 ล้านบาท นอกจากนี้ในไตรมาส 1 ของปีนี้ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 4,987 ล้านบาท ในขณะที่ในไตรมาสแรกของปีที่แล้วมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทโรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด (มหาชน) หรือ RRCจำนวน 5,417 ล้านบาท

นักวิเคราะห์คาดว่า PTT จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ลดลง 7.7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด (มหาชน) หรือ RRC จำนวนมาก อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานของธุรกิจก๊าซธรรมชาติยังเติบโต ขณะที่ธุรกิจน้ำมันและปิโตรเคมีอ่อนตัวลง

ทั้งนี้แนวโน้มผลการดำเนินงานในอนาคตของ PTT ยังเติบโตจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรหลังเข้าลงทุนใน บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPIและการนำหุ้น RRC เข้าตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการขึ้นค่าผ่านท่อก๊าซ

บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน ระบุว่า ราคาหุ้น PTT ยังน่าสนใจ โดยซื้อขายที่พี/อี 8.6เท่า และ PBV 2.2 เท่า ซึ่งยังถูกกว่าบริษัทอื่นในกลุ่มและค่าเฉลี่ยของกลุ่มพลังงาน รวมทั้งมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.5% และยังมี upside อีกราว 13% จากราคาเหมาะสม

ทั้งนี้คาดว่าโครงการท่อส่งก๊าซเส้นที่ 3 จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ปี 49 ตามแผนโดยระยะแรกจะมีปริมาณส่งก๊าซเพิ่ม 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 3,200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพิ่มขึ้น 7% จากปีที่แล้ว

PTT คาดว่าจะเริ่มบันทึกส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน TPI ที่ได้เข้าถือหุ้น 31.5%ในเดือน พ.ค. เป็นต้นไป และยังได้นำหุ้น RRC เข้าตลาดหลักทรัพย์ในมิ.ย. ตามแผน

ปัจจุบันปตท. มีทุนจดทะเบียน 28,572,457,250 บาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว27,972,457,250 บาท จำนวนหุ้น 2,797,245,725 ล้านบาท มูลค่าตามบัญชี (bookvalue) หุ้นละ 82.52 บาท ราคาพาร์ละ 10 บาท


ที่มา ข่าวหุ้น[/color:fc24699a55">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com