กมลฟันกำไรอื้อซ่า ขายทิ้งหุ้นทรัพย์ศรีไทยคลังสินค้ารวมจำนวน 15% รับเหนาะๆประมาณ 8-14 ล้านบาท ใช้เวลาลงทุนไม่ถึง 6 เดือน หลังรับซื้อจากแบงก์ไทยพาณิชย์วงในชี้ไม่ได้ขายออกจริง แค่โอนให้นอมินีถือ ส่งคนใกล้ชิดถือหุ้น ML MIDA และ MMEเป็นผู้รับซื้อหุ้น SST แทน

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมานายกมล เอี้ยวศิวิกูล ได้ขายหุ้นบริษัททรัพย์ศรีไทยคลังสินค้า จำกัด(มหาชน)หรือ SST ให้กับนักลงทุนจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายเกรียงศักดิ์ ก้องขจร นางสาวนฤมล แจ่มกระจ่าง และนางสาวรุ่งระวี เอี่ยมพงษ์ไพฑูรย์จำนวน 1.816 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 15.0083% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยภายหลังการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้ส่งผลให้นายกมลเหลือสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทเพียง 6.04 แสนหุ้นหรือคิดเป็นสัดส่วน 4.99% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถือหุ้นรวมกันทั้งสิ้น 2.42 ล้านหุ้นหรือคิดเป็นสัดส่วน 20%

ทั้งนี้ การขายหุ้นดังกล่าวส่งผลให้นายกมลมีกำไรอย่างต่ำ 8.62-14.07 ล้านบาทหลังจากที่เพิ่งซื้อหุ้นดังกล่าวมาเมื่อเดือนพ.ย.48 จากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)หรือ SCB ที่ราคา 51.25 บาทต่อหุ้น ขณะที่ราคาที่ขายออกมาเมื่อวันที่ 2 พ.ค.อยู่ในช่วงระหว่าง 56-59 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าววงการหลักทรัพย์ตั้งข้อสังเกตว่าการขายหุ้นในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการขายออกอย่างแท้จริง แต่อาจเป็นการโอนออกไปให้ตัวแทนถือครองหลักทรัพย์(นอมินี)ถือหุ้นแทนเท่านั้น เนื่องจากหากตรวจสอบไปที่รายชื่อของนักลงทุนทั้ง 3 รายที่นายกมลขายหุ้นให้จะพบว่า มีนักลงทุนจำนวน 2 รายที่เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทไมด้าลิสซิ่ง จำกัด(มหาชน)หรือ ML บริษัทไมด้าแอสเซ็ท จำกัด(มหาชน)หรือ MIDA และบริษัทไมด้า-เมดดาลิสท์ เอนเธอร์เทนเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือ MME ซึ่งทั้ง 3 บริษัทเป็นธุรกิจของนายกมลทั้งสิ้น

โดยนายเกรียงศักดิ์ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใน 2 บริษัท ประกอบด้วย MIDA ซึ่งถือหุ้นจำนวน8.602 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.84% อยู่ในอันดับที่ 15 ตามโครงสร้างผู้ถือหุ้น และถือหุ้นใน ML จำนวน 4.44 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.14% อยู่ในอันดับที่ 13 ตามโครงสร้างผู้ถือหุ้น

ขณะที่นางสาวนฤมล ถือหุ้นในบริษัท MIDA จำนวน 5.13 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.5% อยู่ในอันดับที่ 29 ของโครงสร้างผู้ถือหุ้น และยังถือหุ้นในบริษัท MME จำนวน 6ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.50% อยู่ในอันดับที่ 12 ตามโครงสร้างผู้ถือหุ้น ส่วนนางสาวรุ่งระวี ไม่ปรากฎรายชื่ออยู่ในโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทใดเลยและไม่ทราบว่ามีความสัมพันธ์กับนายกมลหรือไม่

ดูจากรายชื่อของนักลงทุนที่รับซื้อหุ้น SST จากนายกมลแล้ว ไม่น่าจะเป็นการขายออกแท้จริง แต่น่าจะเป็นการโอนให้นอมินีถือมากว่า เพราะนักลงทุนที่รับซื้อหุ้นไปมีความสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจไมด้าของนายกมลไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแหล่งข่าวตั้งข้อสังเกต

ทั้งนี้ สำหรับหุ้น SST นายกมลได้ร่วมกับกลุ่มของนายศุภสิทธิ์ สุขะนินทร์ รับซื้อมาจากธนาคารไทยพาณิชย์ทั้งสิ้น 9.473 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 78.29% ในราคาหุ้นละ 51.25บาท รวมเป็นเงิน 485.49 ล้านบาท เมื่อช่วงกลางเดือนพ.ย.48 ซึ่งการซื้อหุ้นในครั้งนั้นนายศุภสิทธิ์จะถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 32.25% และนายกมลถือหุ้นในสัดส่วน 20% ส่วนที่เหลือเป็นการถือโดยนักลงทุนทั้งสิ้น 17 ราย

สำหรับการเข้าไปลงทุนในครั้งนั้นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ระบุว่าจะไม่เข้าไปมีส่วนในการบริหารจัดการบริษัท โดยสาเหตุที่เข้าลงทุนเพราะเห็นว่า SST มีศักยภาพ ทั้งในด้านความสามารถในการทำกำไรและมีฐานะทางการเงินมั่นคงและมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิในระดับ 30% ต่อไป

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:4082db0d4f">