P_aud
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531 |  วันที่: 05/05/2006 @ 01:31:03 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต [b:96c9d23c91">บริษัทจดทะเบียนที่จะครบกำหนดที่ผู้ถือหุ้นเดิมจะสามารถนำหุ้นที่ติดระยะห้ามซื้อขาย(ไซเลนต์พีเรียด)นำออกมาขายได้ 25%ครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2549ประกอบด้วย บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด(มหาชน)หรือ STARวันที่ 15 มีนาคม 2549 ส่วนบริษัทครบกำหนดไซเลนต์พีเรียดรอบ 2 ในเดือนมีนาคม ประกอบด้วย บริษัทน้ำตาลขอนแก่ จำกัด (มหาชน)หรือ KSL ครบกำหนดในวันที่ 7 มีนาคม บริษัท ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล จำกัด (มหาชน)หรือ CPRครบกำหนดวันที่ 17 มีนาคม,บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน)หรือ SMM ครบกำหนด 22 มีนาคมและบริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน)หรือ SOLAR ครบกำหนดในวันที่ 30 มีนาคม 2549
จากรายงานข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แจ้งว่า ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาพบว่า ผู้หารของบริษัท โซลาร์ตรอน นำหุ้นออกมาขายประกอบด้วย นายชาตรี ทัตติ ขายจำนวน 525,000 หุ้น มูลค่า 5.45 ล้านบา,นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ ขายจำนวน 12.40 ล้านหุ้น มูลค่า123.96 ล้านบาท
รวมขายหุ้น 12.92 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 129.42 ล้านบาท ผู้บริหาร ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล คือนาย กิตติพล มุจจลินทร์กูล ขายหุ้นจำนวน 447,500หุ้น มูลค่า1.04 ล้านบาท,นายนิวัติ มุจจลินทร์กูล ขายจำนวน 470,300 หุ้น มูลค่า 1.09 ล้านบาท รวมขายหุ้น 917,800 หุ้น มูลค่ารวม 2.14 ล้านบาท
ขณะที่ผู้บริหารบริษัทบริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ คือ นายจิราพรรดิ์ เวชภัทรสิริ ขายจำนวน 200,000 หุ้น มูลค่า 3.99 แสนบาท,นายสุรศักดิ์ เวชภัทรสิริขาย ขายจำนวน 6 แสนหุ้น มูลค่า 1.34 ล้านบาท
นางสาววันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ผู้บริหารของบริษัทมีการขายหุ้นออกมาในช่วงเดือนเมษายนหลังจากที่หุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมสามารถที่จะนำมาขายได้อีก 25% นั้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติเมื่อราคาหุ้นมีการปรับตัวสูงขึ้นและเป็นที่พอใจ จึงทำให้มีการนำหุ้นส่วนหนึ่งออกมาขายเพื่อทำกำไร ซึ่งหุ้นที่นำมาขายนั้นก็มีปริมาณไม่มากนัก โดยถือว่าการที่ผู้บริหารของบริษัทมีการนำหุ้นออกมาขายก็จะช่วยทำให้ปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนในตลาดมากขึ้น
ทั้งนี้จากการที่ผู้บริหารของบริษัทนำหุ้นออกมาขายก็พบว่ามีนักลงทุนเข้ามารอรับซื้อทำให้ราคาหุ้นของบริษัทยังคงปรับตัวสูงกว่าราคาจอง
เนื่องจาก นักลงทุนมองว่าธุรกิจพลังงานงานทดแทนมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคตจึงเข้ามาลงทุน และธุรกิจดังกล่าวก็เป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก
สำหรับส่วนตัวไม่มีแผนที่จะนำหุ้นที่ถือนำออกมาขาย เนื่องจากยังไม่มีความจำเป็นในการใช้เงิน ซึ่งในฐานะผู้บริหารก็จะต้องมีการทำงานให้ดีที่สุดเพื่อที่จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ดีเพื่อที่จะทำให้ผู้ถือหุ้นมีผลตอบแทนที่ดี และไม่รู้สึกกังวลจากการที่ผู้บริหารนำหุ้นออกมาขาย เพราะ หุ้นที่นำมาขายเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น
นางสาววันดี กล่าวว่า จากวานนี้ (3 พ.ค.)คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า หรือ เรกูเลเตอร์ ที่มีการประชุม ซึ่งมีวาระเรื่องการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนซึ่งหากมีความชัดเจนก็จะส่งผลดีต่อบริษัทที่ประกอบธุรกิจในเรื่องพลังงานทดแทน รวมถึงบริษัทเช่นกัน เนื่องจากจะทำให้เอกชน และประชาชนมีการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน อาคาร เพื่อจะผลิตไฟฟ้า และยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศเพราะ จะทำให้มีการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์มากขึ้น เพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมัน และส่งผลดีต่อภาวะแวดล้อมเช่นกัน
ทั้งนี้ส่วนสำคัญคือรัฐบาลจะต้องมีการให้การสนับสนุนในเรื่องการใช้พลังงานทดแทน และจากการที่มีการเว้นวรรคทางการเมืองของรัฐบาลก็มีผลต่อการตัดสินใจของในการลงทุนในเรื่องการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้า ซึ่งหากรัฐบาลมีความชัดเจนในเรื่องนโยบายสนับสนุนก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจต่อประเทศในการลดการนำเข้าน้ำมัน และบริษัทอาจจะต้องมีการปรับแผนการดำเนินงานของบริษัทรวมถึงผลประกอบการของบริษัทเช่นกัน
ที่มา:
ผู้จัดการรายวัน [/color:96c9d23c91">
[/b:96c9d23c91">
|
