????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 24/03/2006 @ 16:57:48 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต มีคำตอบจากปาก พ.ต.ท.พงษ์เทพ ลาภวิสุทธิสิน พี่ชายคนโต ตระกูลลาภวิสุทธิสิน วัย 49 ปี อดีตรองสารวัตรสืบสวน สถานนีตำรวจภูธร อำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่ลาออกจากราชการ เพื่อภารกิจ ปั้นหุ้นปิคนิค โดยเฉพาะ[/color:190d6780aa">
พ.ต.ท.พงษ์เทพ ลาภวิสุทธิสิน จะเข้ามานั่งในตำแหน่ง ประธานกรรมการ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2549 เป็นต้นไป
พี่ใหญ่แห่งตระกูลลาภวิสุทธิสิน ยอมรับอย่างเปิดเผยว่า กลุ่มลาภวิสุทธิสิน และ กลุ่มพันธมิตร เตรียมพร้อมที่จะใส่เงินเข้ามา ซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) หากแผนการเพิ่มทุนจำนวน 1,477 ล้านหุ้น ที่เสนอขายกับผู้ถือหุ้นเดิมในราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ขายไม่หมด
แค่ข่าวนี้พูดผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2549 ราคาหุ้นปิคนิคก็กระโดดขึ้นอย่างร้อนแรงทันที
ถ้าดูจากราคาขณะนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมจะไม่ใช้สิทธิทั้งหมด แต่ตามวัตถุประสงค์ของเรา ต้องการที่จะเพิ่มทุนตรงนี้ให้ครบ ก็อาจจะมีการร่วมกับอินเวสต์เตอร์เข้ามาซื้อ PP ที่จริงก็มีอินเวสเตอร์ที่ติดต่อมาหลายราย แต่ต้องรอผลจากผู้ถือหุ้นเดิมก่อน พ.ต.ท.พงษ์เทพ ลาภวิสุทธิสิน กล่าว
แม้ว่า รอยแผลเก่า ที่ตระกูลนี้ สร้างไว้ให้กับ รายย่อย ยังไม่จางหาย สัญญาณใหม่กลับชัดว่า ตระกูลลาภวิสุทธิสิน เตรียมกลับคืนรังเดิมอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เคยปล่อยหุ้นตัวเองร่วงลงอย่างถล่มทลาย
ขณะที่พี่น้องในตระกูล ทิ้งหุ้น กวาดเงินสดออกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ผ่าน นอมินี ธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน จนเหลือหุ้นเพียงแค่ 7%
พงษ์เทพ พยายามปฏิเสธว่า ตระกูลลาภวิสุทธิสิน ไม่เคยทิ้ง ปิคนิค เนื่องจากนี่คือธุรกิจที่สานต่อมาจากครอบครัว หุ้นของตระกูลลาภวิสุทธิสิน ที่ลดลงเหลือ 7% เป็นเพราะได้กระจายไปให้กับพันธมิตร เพื่อทำให้กิจการมีศักยภาพมากขึ้น
ปิคนิคมันเป็นของลาภวิสุทธิสินมาตั้งแต่ต้น ดำเนินกิจการมาก่อนที่จะเข้าตลาดหุ้น ฉะนั้นผมอยากจะบอกนักลงทุนทุกท่านว่าผมไม่ได้ทิ้ง
สายข่าวระบุว่าคำยืนที่จะไม่ทิ้งบริษัทของ พ.ต.ท.พงษ์เทพ ลาภวิสุทธิสิน ต้องการส่งสัญญาณไปยังพันธมิตร (หลวมๆ) ให้รู้ว่าเกม ปั้นหุ้น รอบใหม่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้ เป็นทางเดียวที่จะสร้างความเชื่อมั่นได้
ด้าน ณัฐชัย อร่ามรัศมีวาณิชย์ กรรมการผู้จัดการปิคนิค บอกว่า แม้ขณะนี้กลุ่มลาภวิสุทธิสิน จะถือหุ้นรวมกันประมาณ 7% แต่ว่ากลุ่มพันธมิตรที่ถืออยู่ได้รับการยืนยันจากกลุ่มลาภวิสุทธิสินว่า ถือประมาณ 30%
พันธมิตรกว่า 30% ที่ว่านั้น เป็นกลุ่มที่มาเก็บใหม่ก็มี แต่ในส่วนจะเป็นใคร จำนวนผู้ถือหุ้นในกลุ่มพันธมิตรจะเยอะขนาดไหน ยังไม่สามารถตอบได้ แต่ทั้งหมดยืนยันที่จะซื้อหุ้นเพิ่มทุนของปิคนิค พงษ์เทพ กล่าว
พร้อมกันนี้ เขายังยืนยันว่า การประกาศเข้าซื้อหุ้นเพิ่มของกลุ่มลาภวิสุทธิสิน และพันธมิตรครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะถอนทุนออกไปก่อนหน้านี้ แล้วเห็นราคาหุ้นต่ำจึงเข้ามาเก็บ ที่เข้ามาเพราะเห็นว่าบริษัทปิคนิคยังมีศักยภาพอยู่ โดยเฉพาะในด้านยอดขายที่วันนี้สูงกว่า 2 หมื่นล้านบาท
โดยยืนยันว่าการเข้ามาเป็นกรรมการครั้งนี้ ก็เป็นความคิดของตัวเอง หลังจากได้ยินข่าวลือลาภวิสุทธิสินทิ้งปิคนิค
คนก็ว่ากันไปถ้า (ลาภวิสุทธิสิน) ไม่คิดทิ้งบริษัท แล้วทำไมไม่เข้ามาดำเนินธุรกิจต่อ นี่เป็นเหตุผลให้ผมเข้ามา
ท่ามกลางธรรมาภิบาลที่ยังถูกตั้งปมสงสัยในด้านการตกแต่งบัญชีของตระกูล ซึ่ง ธีรัชชานนท์-สุภาพร ลาภวิสุทธิสิน ได้ถูกกล่าวโทษโดย ก.ล.ต. อยู่ขณะนี้
พงษ์เทพ บอกว่า จากนี้ก็จะมีการเร่งสร้างธรรมาภิบาล โดยเน้นการสร้างกิจการ ให้แข็งแกร่ง เห็นผลมากกว่า และสิ่งที่จะตามมาก็จะเป็นภาพพจน์ที่ดี
ส่วนการประกาศใส่เงินเพิ่มทุน ผมไม่รู้ว่า ก.ล.ต.จะหาว่าสร้างราคาหรือไม่ แต่ตรงนี้เราก็กำหนดลงไป และพูดอย่างนี้ ผมเข้าใจนักลงทุนบางครั้งก็ต้องการอะไรที่ชัดเจน แต่ตลาดบ้านเราไม่ได้เป็นแบบนั้น
บางทีเราคุยกัน (ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น) แต่ถ้าออกไปข้างนอกก็จะถูกหาว่าสร้างราคาหรือไม่ ส่วนเรื่องการเพิ่มทุนจะเป็นจริงหรือไม่ก็ต้องรอดูครับ ตรงนี้ก็รอดูดีกว่า
เขาบอกว่า หนทางสร้างความแข็งแกร่งจากนี้ไป จะเข้าไปอุดรอยรั่วของบริษัทในด้านลูกหนี้ผิดนัดชำระ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของบริษัทที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ส่วนที่บริษัทซื้อของแพงในช่วงที่ผ่านมานั้นยังไม่พบประเด็นใดน่าสงสัย
ที่จริงแล้วลูกหนี้ของบริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้ เป็นเพราะประสบกับภาวะวิกฤติน้ำมันแพง การจ่ายเงินจึงช้าลง แต่เท่าที่คุยกับสำนักกฎหมายไม่น่ามีปัญหาที่บริษัทจะเก็บหนี้ได้
ด้าน ณัฐชัย กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทได้แต่งตั้งนักกฎหมายเข้ามาดำเนินการเจรจาทวงหนี้ หากมีการคืนหนี้ ก็จะเป็นผลดีที่จะทำให้เงินสำรองที่ตั้งไว้กลับคืนมา แต่สำหรับลูกหนี้รายได้ไม่สามารถชำระคืน ก็พร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อยึดทรัพย์มาชำระหนี้ โดยทั้งหมดจะดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ และยืนยันว่า ลูกหนี้ผิดชำระนัดเป็นลูกหนี้การค้า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นหรือกรรมการ
การตั้งสำรองเป็นจำนวนมากในปีทีผ่านมา เนื่องจากเราต้องการสร้างความชัดเจน โปร่งใสของบริษัทและต่อจากนี้จะตั้งต้นใหม่
พงษ์เทพ ขายฝันว่า ทิศทางของ ปิคนิค ยังคงดีตามแนวโน้มของธุรกิจพลังงาน และจะทำยอดรายได้ให้เพิ่มขึ้นมากกว่าปีละ 2 หมื่นล้านบาท จากฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่
เมื่อก่อน เอสโซ่ แก๊ส และ เชลล์ แก๊ส ต้องพ้นออกจากตลาด ก็เพราะว่าเขาไม่สามารถรักษาฐานลูกค้าได้ ผมเชื่อมั่นว่าในอนาคตบริษัทจะดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ
แต่ปัญหาใหญ่ของ ปิคนิค ก็คือ ขายสินค้าแทบจะไม่เหลือ มาร์จิน เลย ซึ่ง ณัฐชัย บอกว่า โอกาสในการเพิ่มมาร์จินขึ้นอยู่กับรัฐบาล ที่วันนี้ราคาถูกควบคุมอยู่ 16-17 บาทต่อกิโลกรัม หากปล่อยลอยตัวราคาจะขึ้นมากิโลละ 3 บาท หากคิดตามมาตรฐานโลกจะอยู่ที่กิโลละ 30 บาท
ที่เวียดนามมีการลอยตัว มาร์จินเขาได้ 2-3 บาทต่อกิโล ส่วนมาร์จินบ้านเราอยู่ประมาณ 1.50 บาท เมื่อไรที่รัฐบาลปล่อยราคาลอยตัว ผู้ขาย จะมีมาร์จินมากกว่า ขณะเดียวกันบริษัทก็จะมีโอกาส ได้ หรือ เสีย จากสต็อกก๊าซ ถ้ามีการวางแผนดีๆ ก็จะมีกำไรในส่วนนี้ค่อนข้างมาก
ปัจจุบัน ปิคนิค ยืนยันว่ามีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดแก้สประมาณ 30% หรือราว 50,000 ตันต่อเดือน จากมูลค่ารวมทั้งสิ้น 150,000 ตันต่อเดือน โดย ปตท. ยังเป็นผู้นำตลาดสูงที่สุด 40%
โอกาสที่ปิคนิคจะขาดทุนจนเข้าสู่ขบวนการฟื้นฟูกิจการเชื่อว่าคงไม่มีเนื่องจาก ส่วนผู้ถือหุ้นยังเกินอยู่ถึง 3,283 ล้านบาท (สิ้นปี 2548) ส่วนหนี้สินต่างๆ จะนำเงินเพิ่มทุนมาชำระหนี้ตั๋วเงินระยะสั้นที่ครบกำหนด 510 ล้านบาท และบริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาหนี้ระยะสั้นอีกจำนวน 1,200 ล้านบาทปรับเป็นหนี้ระยะยาว
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีเงินลงทุนอีก 500 ล้านบาท ที่จะลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ตามมติของคณะกรรมการ แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่ความคืบหน้าในการใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าจะได้เงินเพิ่มทุน
ทั้งหมด คือ คำตอบว่า ทำไม!!! ตระกูลลาภวิสุทธิสิน จึงหวนคืนรัง ปิคนิค ภายใต้ภารกิจ ปั้นหุ้นรอบ 2 ที่รออยู่เบื้องหน้า
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ[/color:190d6780aa">
|
