หุ้น ไทยหุ้น ตลาดหุ้น สนทนาเรื่องหุ้น สังคมของนักลงทุน

เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > มรสุมรุมซัดตลาดหุ้นไทย

Tweet #TwitterStories

ตั้งกระทู้ตอบ

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238

วันที่: 22/03/2006 @ 19:13:30

คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต

ชอบ

0.00%

0 คน

ไม่ชอบ

0.00%

0 คน

มรสุมฤดูร้อนแวะทักทายตลาดหุ้นไทย ทำดัชนีฯ ทรุดกว่า 8 จุด หวั่นวันนี้ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง ทั้งประเด็นทางการเมือง, การขายหุ้น SCIB-KTB ของกองทุนฟื้นฟูฯ และที่สำคัญศาลปกครองสูงสุดจะชี้ขาดเรื่องการขายหุ้น กฟผ. ขณะที่ โบรกฯ ชี้ดัชนีฯ มีสิทธิ์ไหลลงต่อ จึงแนะนำถือเงินสด เชื่อโอกาสดีดกลับในระยะสั้นไม่มี![/color:79bbef8214">

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 22 มีนาคม 2549 ปิดที่ระดับ 724.41 จุด ลดลง 8.07 จุด มูลค่าการซื้อขาย 13,598 ล้านบาท
โดยตลาดหุ้นไทย ยังถูกกดดันจากข่าวร้ายต่างๆ ที่ต่างถาโถมเข้ามาในวันเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ทางการเมืองที่ทวีความร้อนแรงมากขึ้น เมื่อกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ขีดเส้นตาย 48 ชั่วโมงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการลาออกจากตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน ในระหว่างการซื้อขายระหว่างวัน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาให้ข่าวว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เตรียมที่จะขายหุ้นธนาคารนครหลวงไทย จำนวน 100 ล้านหุ้น และธนาคารกรุงไทย จำนวน 300 ล้านหุ้น
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซันกล่าวว่า การขายหุ้น KTB-SCIB ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่ 300 ล้านหุ้น และ 100 ล้านหุ้นตามลำดับ ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่น่าวิตก เพราะเป็นจำนวนหุ้นที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นรวม แต่ข่าวดังกล่าวได้ทำให้ราคาหุ้นปรับลดลง
อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าราคาหุ้นทั้ง SCIB-KTB ที่ปรับลดลงในวันนี้ถือเป็นโอกาสในการเก็บของถูก โดยเฉพาะ SCIB ยังถือเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร ที่ราคายังถือว่าต่ำกว่าราคาเหมาะสม โดยในปัจจุบันแอ๊ดคินซันให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 30 บาท ในขณะที่ราคายังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 23 บาท ถือว่าน่าสนใจ
ส่วน KTB ถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ SCIB เนื่องจากราคาเต็มมูลค่าที่ 12 บาท ซึ่งราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงในวันนี้ถือว่าสะท้อนราคาหุ้นที่เต็มมูลค่าแต่ถ้าราคาปรับลดลงมามาก ก็ยังสามารถลงทุนได้

สำหรับวันนี้ (23 มี.ค.) คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังคงถูกกดดันจากปัจจัยลบเดิมๆ โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการเชิงรุกของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ระบุวานนี้ว่า จะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ลาออกจากตำแหน่งในเวลาที่ขีดเส้นตายไว้ให้
ขณะที่ข่าวการขายหุ้นของกองทุนฟื้นฟูฯ ยังส่งผลลบต่อจิตวิทยาการลงทุนโดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มแบงก์ ที่คาดว่าอาจทำให้เกิดแรงเทขายตามมาอย่างต่อเนื่องซึ่งไม่เฉพาะต่อ SCIB และ KTB เท่านั้น แต่อาจลามถึงหุ้นแบงก์อื่นๆ ในกลุ่ม

ในเวลาเดียวกัน นักลงทุนยังคงรอฟังคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด ในกรณีการขายหุ้น บมจ.กฟผ.
โดยนายวิเศษ จูภิบาล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ไม่ว่าศาลปกครองสูงสุดจะตัดสินออกมาอย่างไร กฟผ. ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งนั้น เนื่องจากเป็นเรื่องนโยบายที่ต้องให้รัฐเข้ามาผลักดัน ซึ่งระหว่างนี้ต้องรอจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาดูแล

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า วันนี้ปัจจัยทางการเมืองยังคงมีแนวโน้มกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดฯ ปรับตัวลดลงได้
โดยมองว่ากรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX น่าจะอยู่ในกรอบแนวรับที่ 720 -721 จุด แนวต้านอยู่ที่ 730 จุด ส่วนกลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำถือเงินสด เพราะประเมินว่าภาวะตลาดยังไม่ส่งสัญญาณที่จะดีดกลับในระยะสั้น
ส่วนคำตัดสินของศาลฯ กรณี กฟผ. น่าจะมีส่วนที่กระทบต่อทิศทางดัชนีฯ เพราะขณะนี้ ประเด็น กฟผ. น่าจะเป็นเรื่องของที่คาบเกี่ยวกับการเมืองด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเรื่อง กฟผ. จะไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นขนาดใหญ่อย่าง บมจ.ปตท. (PTT), บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)ในฐานะที่เป็นหุ้นในกลุ่มรัฐวิสาหกิจด้วยกัน เพราะประเด็น กฟผ. เชื่อว่าตลาดฯ น่าจะรับรู้ไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2548

ที่มา efinancethai.com[/color:79bbef8214">

กลับขึ้นบน

lookwa
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 397

วันที่: 22/03/2006 @ 21:15:32 : re: มรสุมรุมซัดตลาดหุ้นไทย

ท่อ...ชีวิตออกไออีซีได้ไม่เท่าไรเจอ เคทีบีเข้าอีกแล้วเหรอเนี่ย .0001 [/color:d53ba7045d">[/size:d53ba7045d">

กลับขึ้นบน

ตั้งกระทู้ตอบ