May 4, 2024   9:00:40 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > 3หุ้นฉาว POWER-PICNI-EWC
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 08/03/2006 @ 08:51:15
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

งบปี48ไม่เคลียร์ ตลท.สั่งแจงข้อมูลเพิ่มหลังพบพิรุธเพียบอีสเทิร์นไวร์ปล่อยกู้ 500 ล้านบาทให้ SGF ยังตอบไม่ชัด เพาวเวอร์-พี ตั้งค่าเผื่อหนี้จะสูญน่าสงสัย ส่วนปิคนิคปัญหาตั๋วบี/อีไร้ทางออก[/color:2725de22cd">

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากบริษัทจดทะเบียนแจ้งงบการเงินงวดปี 2548 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)พบว่า งบการเงิน 3 บริษัทที่อื้อฉาวไม่ว่าบริษัท ปิคนิคคอปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)หรือ PICNI บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด(มหาชน) หรือ EWCและบริษัท เพาเวอร์-พี จำกัด(มหาชน)หรือ POWER ออกมามีปัญหาจนถูกตลาดหลักทรัพย์จับตาเป็นพิเศษ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าทั้ง 3 หุ้นมีความเกี่ยวโยงกันและกลุ่มการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับหุ้นดังกล่าวด้วย จนถูกตั้งให้เป็นหุ้นปั่นตลอดช่วงที่ผ่านมา

โดยเริ่มจากกรณี POWER ตลาดตั้งข้อสังเกตุกล่าวคือ การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ82.5 ล้านบาท ที่เพิ่งเกิดขึ้นช่วงไตรมาส 4/48 และทำให้ผลประกอบการปี 48 POWERขาดทุน 50 ล้านบาท กรณีเงินจ่ายล่วงหน้าค่าก่อสร้างแก่บริษัท เมิจ เอ็นติเนียริ่ง จำกัดจำนวน 12 ล้านบาท กรณี POWER เป็นจำเลยในคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับการทำผิดสัญญา นิติกรรมอำพรางและเรียกค่าเสียหาย 192 ล้านบาท

กรณีความคืบหน้าเกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัทแอล.วี.ซี.ดี ดีเวลล็อปเมนท์จำกัด(LVCD)รวม 119.9 ล้านบาท นอกจากนี้ความคืบหน้าการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร 320 ล้านบาท โดยตลท.สั่งให้ POWER ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเผยแพร่ให้ผู้ลงทุนทราบโดยทั่วกันภายในวันที่ 13 มีนาคม 2549

สำหรับกรณี PICNI นอกจากผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นงบการเงินปี 2548 หลังจากไม่มั่นใจเรื่องแผนการชำระคืนหนี้และไม่มั่นใจต่อธุรกิจและข้อจำกัดหลายประการแล้วล่าสุด ตลาดได้สั่งให้ PICNI ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตั๋วแลกเงินค้างจ่าย 510 ล้านบาทกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม 3 แห่ง

โดยประเด็นต้องชี้แจงคือ 1.รายละเอียดของรายการดังกล่าวตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ ต้องเปิดเผยข้อมูลทันที เมื่อมีข้อพิพาททางกฎหมายที่สำคัญ 2.ผลกระทบต่อฐานะทางการเงินและภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัท และ3.แนวทางในการดำเนินการชำระหนี้ ที่ถูกดำเนินการทางกฎหมาย รวมทั้งตั๋วแลกเงินค้างจ่ายที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี 283.80 ล้านบาท

ทั้งนี้ตลท.สั่งให้ PICNI ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวภายในวันที่ 8 มีนาคม 2549 และขอให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนติดตามการชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม PICNI ผ่านระบบการเปิดเผยข้อมูลขอลตลาดหลักทรัพย์ต่อไป

ขณะที่หุ้น EWC ตลาดหลักทรัพย์ สั่งให้ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีการปล่อยกู้ให้ SGF มูลค่า500 ล้านบาท โดยประเด็นต้องชี้แจง คือ เงื่อนไขการชำระเงินคืนและตั๋วสัญญาใช้เงินที่EWC แจ้งว่าเงื่อนไขการชำระเงินเป็นการบันทึกข้อตกลงแยกต่างหากจากตั๋วสัญญาใช้เงินเงื่อนไขนั้นจะเกิดขึ้นกรณี SGF ไม่อาจชำระเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงิน(P/N)โดยหาก SGFจะโอนลูกหนี้รายใดรายหนึ่ง มาให้ EWC และ SGF จะต้องทำสัญญาอีก 1 ฉบับ ระบุการโอนและการรับโอน

โดย EWC มีสิทธิปฏิเสธไม่ยอมทำสัญญารับโอนลูกหนี้รายนั้นได้และแม้ EWC จะยอมรับลูกหนี้รายใดรายหนึ่งจาก SGF มา ก็มิได้หมายความว่ามูลหนี้ตามตั๋ว P/N นั้นจะระงับลงแล้ว EWC ยังมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้ผู้กู้ชำระเงินตามตั๋ว P/N นั้นอยู่ดี และตั๋วสัญญาใช้เงินสามารถโอนเปลี่ยนมือไปบุคคลที่ 3 ได้และบุคคลที่ 3 ไม่รับรู้บันทึกข้อตกลงโดย SGFยกเอาข้อกำหนดว่ามีสิทธิโอนลูกหนี้รายใดรายหนึ่งให้แก่ผู้ทรงตั๋วที่เป็นบุคคลที่ 3 ไม่ได้

ทั้งนี้จากคำชี้แจงของ EWC และ SGF ทำให้เข้าใจว่า อาจมีประเด็นที่ขัดหรือแย้งกันตลาดหลักทรัพย์จึงขอให้ EWC ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้คือ หาก EWC จะโอนเปลี่ยนมือตั๋วสัญญาใช้เงินไปให้บุคคลที่ 3 EWC จะต้องได้รับความยินยอมจาก SGF หรือไม่อย่างไร

การที่ EWC แจ้งว่าผู้ซื้อตั๋ว P/N ไม่รับรู้บันทึกข้อตกลงดังกล่าว ระหว่ง EWC และSGF ขณะที่ SGF แจ้งว่าผู้ซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินผูกพันตามเงื่อนไขสัญญาชำระเงินที่ไม่ตรงกันจึงขอให้ EWC ยืนยันคำชี้แจงดังกล่าว

ทั้งนี้คำชี้แจงของ SGF ตามข้อมูลปรากฏใน SETSMART วันที่ 3 มีนาคม 2549 มีอะไรที่ขัดแย้งกับข้อตกลงที่ EWC เข้าใจหรือไม่ อย่างไรและขอทราบวันที่ออกและครบกำหนดอายุของตั๋ว P/N วันที่ทำบันทึกข้อตกลง และผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลง พร้อมตำแหน่งของทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้ EWC ยังชี้แจงไม่ตรงประเด็นที่ตลาดสอบถามว่า การให้กู้ยืมได้รับอนุมัติโดยกรรมการบริษัท EWC 2 ท่านนั้น เป็นไปตามข้อบังคับ EWC หรือไม่ อย่างไรและขอบเขตอำนาจดำเนินการ เกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินแก่บุคคล/นิติบุคคลอื่น เป็นอำนาจของผู้ใดบ้างในแต่ละวงเงิน มีข้อบังคับหรือนโยบายที่กำหนดวงเงินและอำนาจในการอนุมัติหรือไม่อย่างไรและขอให้ EWC อธิบายถึงระบบการควบคุมภายในที่เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว

รวมทั้งขอย้ำให้อธิบายว่าการให้กู้ยืมได้รับอนุมัติโดยกรรมการบริษัท EWC 2 ท่านนั้น เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัท EWC หรือไม่ อย่างไรขณะเดียวกัน ตลท.ยังได้ขอให้ลำดับเหตุการณ์ดังนี้ด้วยคือ วันที่อนุมัติและกรรมการที่อนุมัติการทำรายการ สรุปมติคณะกรรมการวันที่ 15 และ 22 ธันวาคม 2548 และประเด็นข้อสังเกต รายชื่อกรรมการผู้เข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งนำส่งสำเนารายงานการประชุมต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ

พร้อมกันนี้ประเด็นความเสี่ยงของการให้กู้ยืม ตลาดหลักทรัพย์ได้สอบถามในประเด็นการพิจารณาความเสี่ยงของคณะกรรมการและขอทราบรายชื่อลูกหนี้ผู้ให้กู้ แต่ EWC ไม่ตอบในประเด็นแรก ส่วนที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามว่าการที่กรรมการบริษัท 1 ท่าน ไม่เห็นด้วยเนื่องจากมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ขอทราบประเด็นความเสี่ยงและเหตุผลของกรรมการดังกล่าว

ทั้งนี้การพิจารณาว่า มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงได้ครอบคลุมถึงฐานะของผู้กู้ และความสามารถการชำระหนี้ของลูกหนี้ที่ผู้กู้จะนำมาโอนสิทธิเพื่อการชำระหนี้ดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร ส่วนประเด็นการค้ำประกันตั๋ว P/N โดยธนาคารพาณิชย์ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการEWC วันที่ 22 ธันวาคม2548 ที่ระบุว่ามีมติให้ EWC ดำเนินการให้ตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวมีธนาคารพาณิชย์เข้ามาค้ำประกันตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าว

ขณะที่ EWC ชี้แจงว่า บริษัทได้แจ้งด้วยวาจาขอให้ทางผู้กู้จัดหาธนาคารพาณิชย์ เพื่อค้ำประกันตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวแล้วแต่ทางผู้กู้แจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการให้ได้นั้น อาจพิจารณาได้ว่าการทำรายการดังกล่าว ไม่เป็นไปตามมติคณะกรรมการหรือไม่ และขอทราบความเห็นของคณะกรรมการต่อกรณีดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ EWC ชี้แจงว่าแหล่งเงินทุนในการให้กู้ยืมเงินมาจากเงินเพิ่มทุนของ EWCเพื่อหาผลตอบแทนในระหว่างการหาโครงการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทน 6%ขณะที่ EWC เคยชี้แจงวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนตามหนังสือชี้ชวนที่เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนวันที่ 11 พฤษภาคม 2548 โดยมีวัตถุประสงค์ส่วนหนึ่งที่จะสำรองไว้สำหรับการลงทุนในกิจการอื่นของบริษัทโดยดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมเป็นหลัก และให้ผลตอบแทนการลงทุนไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปีนั้น พิจารณาได้ว่าเป็นการใช้เงินที่ผิดวัตถุประสงค์ ที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม2547 โดยตลาดหลักทรัพย์จะได้ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:2725de22cd">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com