????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 07/03/2006 @ 09:33:13 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ขาใหญ่ลากหุ้น IEC ก่อนปล่อยของ ผู้บริหารแย้มเพิ่มทุนอีกครั้ง รับพันธมิตรใหม่ ระบุนักลงทุนมั่นใจผลประกอบการเข้าซื้อดันราคาพุ่ง ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้หุ้นเด้งรายใหญ่จับข่าวได้พาร์เนอร์-เพิ่มทุนปั่นอีกรอบ[/color:52ca96a354">
วานนี้(6 มี.ค.) ราคาหุ้นของบมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง หรือ IEC ปรับตัวขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยมีวอลุ่มซื้อขายเป็นอันดับ 1 ของหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดของวัน ซึ่งราคาหุ้นดังกล่าวขึ้นไปสูงสุดแตะที่ระดับ 4.10 บาท ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 4บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท เปลี่ยนแปลง 8.11% มูลค่าการซื้อขาย 674.83 ล้านบาท
นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ประธานมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริงหรือ IEC กล่าวยอมรับกับ ข่าวหุ้นธุรกิจ ถึงสาเหตุที่ราคา IEC ปรับตัวขึ้นไปว่า ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากปัจจัยไหน แต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเริ่มปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นเข้ามาลงทุนในหุ้นดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการเข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าและอื่นๆนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางกลุ่มพันธมิตร โดยคาดว่าจะสรุปและมีการเซ็นสัญญาประมาณไตรมาณ 1/49 นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเพิ่มทุนใหม่ เพื่อรองรับกับการเข้าลงทุนในกลุ่มธุรกิจดังกล่าวด้วย
การเพิ่มทุนใหม่จะต้องสัมพันธ์กับธุรกิจใหม่ที่จะเข้ามา ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของการลงทุนด้วย โดยยืนยันว่าการเพิ่มทุนไม่จะน้อยไปนายสุมิท กล่าว
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน กล่าวยืนยันว่า ไม่ทราบสาเหตุว่าราคาหุ้น IEC ปรับตัวขึ้นมาเกิดจากสาเหตุใดอย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุนรายใหญ่เนื่องจากหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นเก็งกำไรอยู่แล้ว
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่น่าจะเป็นการเก็งกำไรมากกว่า เพราะจากที่มีข่าวว่าบริษัทได้พาร์เนอร์ใหม่ และเตรียมเพิ่มทุน รวมถึงการเข้าไปรุกธุรกิจไฟฟ้าถือเป็นข่าวเก่าทั้งสิ้นนายรณกฤต กล่าว
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ IEC ได้ชี้แจงผลการดำเนินงานปี 48 ว่า บริษัทมียอดขาย 207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปี 47 ที่ผ่านมา โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่จากสภาพการแข่งขันที่ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทลดลงจาก 7.8% ปี 47 เหลือ 7.2% ในปี 2548 นอกจากนี้ยังมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ภาระค้ำประกัน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 48
โดยได้ลงนามบันทึกข้อตกลงแก้ไขสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย(บสท.) โดยบริษัท และบสท. ตกลงให้มีการชำระหนี้ที่เหลือจำนวน 303.75 ล้านบาทด้วยจำนวนเงิน 246.75 ล้านบาท ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 48 ซึ่งได้ชำระหนี้ดังกล่าวเรียบร้อยในวันที่ 29 ธันวาคม 48 ทำให้บริษัทมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าว 57ล้านบาท
ที่มา ข่าวหุ้น[/color:52ca96a354">
|
