????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 14/02/2006 @ 07:07:07 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต กลุ่มสามารถตบเท้าจ่ายปันผลงวดสิ้นปี 48 รับเงิน พ.ค. SAMART นำทีมจ่าย 0.15-0.20 บาทเพิ่มจากที่จ่ายไปแล้ว 0.10 บาทในงวด 9เดือน SIM มีลุ้นที่ 0.28-0.30 บาท แซมเทลมีแววจ่ายได้อีก 0.05-0.15 บาทปี 49 SAMTEL สวยสุด จากอานิสงส์รวมคอมเทค หนุนรายได้โตพรวด 100%-130% ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้น 90% จากปีทีผ่านมา[/color:cc6c08501c">
นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)(SAMART) กล่าวว่า ในงวดสิ้นปี 48 บริษัทฯ จะพยายามจ่ายเงินปันผลให้ดีกว่างวด 9 เดือน ซึ่ง SAMART ได้จ่ายไปแล้ว 10 สตางค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า SAMART น่าจะจ่ายปันผลในงวดสิ้นปี 48 ได้อีก 0.15-0.20บาท เพราะมีนโยบายตั้งแต่แรกว่าจะจ่ายไม่เกิน 0.30 บาท
ส่วน SAMTEL น่าจะจ่ายได้อีกราว 0.15 บาท จากตัวเลขที่ตั้งเป้าหมายไว้ 0.30บาท โดยงวดระหว่างกาลจ่ายไปแล้ว 0.15 บาท
ขณะที่ SIM น่าจะจ่ายอีกไม่เกิน 0.30 บาท เพราะตั้งเป้าหมายไว้ที่ 0.55 บาทซึ่งจ่ายงวดหกเดือนไปแล้ว 0.25 บาท
ทั้งนี้ ทั้ง 3 บริษัท น่าจะจ่ายปันผลงวดสิ้นปีพร้อมกันในเดือน พ.ค.เพราะจะมีประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้
จากสถิติการจ่ายปันผลของทั้งสามบริษัทเมื่อปี 47 นั้น SAMART ไม่มีการจ่ายปันผลเพราะเพิ่งจะล้างขาดทุนสะสมหมดเมื่อต้นปี 48 ส่วน SAMTEL จ่าย 0.10 บาท SIM จ่าย0.20 บาท
สำหรับปี 48 ที่ผ่านมานั้น SAMART น่าจะมีรายได้ 18,600-18,700 ล้านบาท และมีกำไรราว 550 ล้านบาท ส่วน SAMTEL มีรายได้ประมาณ 2,100 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีกำไรราว 225-230 ล้านบาท ขณะที่ SIM คาดว่าจะมีกำไรราว 380 ล้านบาท
ในปี 49 นั้น บริษัทฯ ที่จะเห็นการเติบโตได้มากที่สุด คือ SAMTEL เพราะได้รับรู้รายได้ของบริษัท สามารถคอมเทค จำกัด เข้ามาเต็มปี จะทำให้มีรายได้โตราว 100%-130% ขณะที่กำไรจะโตถึง 90% ส่วน SIM น่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 450-470 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวว่า SAMART น่าจะจ่ายปันผลในงวดสิ้นปี48 ได้อีก 0.19 บาทต่อหุ้น ดังนั้น เท่ากับว่ารวมทั้งปีจ่ายได้ 0.29 บาท/หุ้น ทั้งนี้ SAMARTมีนโยบายจ่ายปันผลไม่เกิน 50% ของกำไร
ส่วน SIM มีแนวโน้มว่าจะจ่ายปันผลงวดสิ้นปีอีก 0.28 บาท/หุ้น รวมทั้งปีเท่ากับจ่ายปันผลที่ 0.53 บาท/หุ้น สำหรับ SAMTEL มีแนวโน้มว่าจะจ่ายปันผลอีก 0.05 บาท/หุ้น จากที่จ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.15 บาท/หุ้น รวมทั้งปีจ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น
จะเห็นได้ว่าอัตราการจ่ายปันผลของกลุ่มสามารถมีอัตราสูงขึ้น เนื่องจาก SIM และSAMTEL มีอัตราการเติบโตขึ้น โดยธุรกิจมือถือและอินเตอร์แอ็คทีฟทำรายได้เพิ่มขึ้น 16.6%เป็น 3,898 ล้านบาท และมียอดจำหน่ายมือถือเพิ่มขึ้น 18% จากปีที่ผ่านมา โดยมียอดจำหน่ายสูงถึง 1,075,000 เครื่องในรอบ 9 เดือน และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก นอกจากนี้ยังมีการขยายตลาดมือถือในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก เช่น กัมพูชาที่ทำรายได้ให้ราว 21%ส่วนSAMTEL ตอนนี้เป็นธุรกิจที่ครบวงจร ทำรายได้เพิ่มขึ้นได้ถึง 44% และกำลังจะรับรู้รายได้ของโครงการติดตั้งซอฟต์สวิทช์ในสนามบินสุวรรณภูมิ ในเฟสแรกและเฟสที่สอง อีกทั้งมีโครงการสกูลเน็ต ซึ่งจะรับรู้ในไตรมาส 4/48นักวิเคราะห์ กล่าว
ในปี 49 กลุ่มสามารถจะมี 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจมือถือและสื่ออินเตอร์แอคทีฟซึ่งอยู่ในส่วนของ SIM ตั้งเป้ารายได้ 1.55 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 15% เนื่องจากมีการปุกตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเป้าหมายหลักอยู่ที่ อินโดนิเซีย อินเดีย และเวียดนาม คาดว่าจะมีรายได้ 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ยีห้อ ไอโม-บาย เป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเวียดนาม
สำหรับ SAMART เองตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 49 ไว้ที่ 23,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25%จากปี 48 และตั้งเป้าปี 50 จะมีรายได้เพิ่มเป็น 30,000 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ซิมิโก้ จำกัด กล่าวว่า การรวมคอมเทคเข้ามานอกจากจะสร้างความชัดเจนในเรื่องของการทำธุรกิจ ยังส่งผลถึงความสามารถในการเติบโตในอนาคตของSAMTEL อีกด้วย เนื่องจากลักษณะธุรกิจของคอมเทคคือการเข้าประมูลงานวางระบบสื่อสารในหน่วยงานราชการต่างๆ ดังนั้นจะทำให้ SAMTEL มีศักยภาพในการเข้าประมูลงานด้านนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้
ทั้งนี้ คาดว่าในอนาคตจะมีโครงการระยะยาวเหมือนกับโทรศัพท์ทางไกลชนบทเข้ามาเพิ่มขึ้น ส่วนโทรทางไกลชนบทนั้นจะหมดอายุลงในไตรมาส 3/49
สำหรับโครงการพัฒนาโครงข่ายของ TOT (Soft Switch) คาดว่าจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องซึ่งคาดว่าภายในปี 51 ทีโอทีจะทำการเปลี่ยนโครงข่ายอีก 2.6 ล้านเลขหมาย มูลค่าประมาณ 16,000 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสที่ดี ในการที่ SAMTEL เข้าไปมีส่วนร่วม
ที่มา ข่าวหุ้น
|
