????????? สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 103 | วันที่: 19/11/2005 @ 17:03:52 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต เส้นทางฝันของ ตี๋..แม็ทชิ่ง สมชาย ชีวสุทธานนท์ ต้องพักลงชั่วขณะ เมื่อผลประกอบการของ บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ (MATCH) ขาดทุนอย่างหนัก งวด 9 เดือนขาดทุนสุทธิไปแล้ว 117 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ 31.21 ล้านบาทเมื่อปีก่อน
...บ่งชี้ว่าทางที่ ตี๋ เลือกเดิน...ล้มเหลว อย่างไม่เป็นท่า
ภาพของนักธุรกิจ รุ่นใหม่..ใจถึง..กล้าได้กล้าเสีย อาจดูหวือหวาในระยะสั้น แต่ไม่เพียงพอสำหรับเกมธุรกิจในยุค พ.ศ. นี้แน่ๆ
แม้ว่า ตี๋ จะเลือกต่อชะตาธุรกิจ ด้วยการดึง บริษัท บีบีทีวี โปรดัคชันส์ จำกัด (เครือข่ายช่อง 7 สี) เข้ามาถือหุ้นใหญ่ ตามสูตร ยิงปืนนัดเดียว..ได้นก 2 ตัว
แต่ กระสุน กลับด้าน ส่วน นก ก็ยิ่งไม่ถูก...เมื่อ รายการ ที่ แม็ทชิ่ง สตูดิโอ หวังจะผลิตป้อน ช่อง 7 กลับไม่ผ่านมาตรฐานด้าน เรทติ้ง ส่วน เงินทุน ที่ได้มากว่า 392 ล้านบาท (57.74 ล้านหุ้นๆละ 6.80 บาท) กลับถูกนำไปลงทุนในธุรกิจใหม่ที่ แม็ทชิ่ง สตูดิโอ ไม่มีความเชี่ยวชาญ
...แม้จะได้ ความดัง แต่ตัวเลขทางการเงินมัน ฟ้อง ว่า ตี๋..คิดผิด
แม็ทชิ่ง สตูดิโอ อธิบายความล้มเหลวในเกมธุรกิจ-ผ่านทางตัวเลขทางการเงินว่า สืบเนื่องจากในไตรมาสที่ 2 ปีนี้บริษัทได้ร่วมลงทุนในกิจการร่วมค้า DTC จัดงานประกวดนางงามจักรวาล ปี 2548 และรับผลขาดทุนต่อเนื่อง มาจนถึงไตรมาสที่ 3 จำนวน 67.86 ล้านบาท
ในส่วนของธุรกิจผลิตภาพยนตร์เรื่อง ก็เคยสัญญา ก็ประสบผลขาดทุน จำนวน 25.07 ล้านบาท อีกทั้งธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ รายการ ตีท้ายข่าว ก็ไม่ประสบผลตามที่คาดหมายไว้ทำให้บริษัทขาดทุน อีก 10 ล้านบาท จากรายการดังกล่าว
เมื่อ ทางฝัน เริ่ม ตัน ทำให้ ตี๋ จำเป็นต้องหันกลับมาสู่ความเป็นจริง ตามสภาพทางธุรกิจของบริษัทการเปิดแถลงข่าวครั้งล่าสุด ตี๋ ในฐานะประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ สั่งผ่าตัดโครงสร้างธุรกิจในเครือใหม่..แบบยกกะบิ
โดยจะชะลอการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ทำกำไร ทั้ง มูฟวี่ทาวน์ และธุรกิจ ผลิตภาพยนตร์ จากนั้นจะหันไปลุยธุรกิจ นิวมีเดีย เพื่อสร้างรายได้ใหม่ พร้อมทั้งจะมุ่งขยายอาณาจักรธุรกิจโฆษณาที่เขามีความเชี่ยวชาญมากที่สุด ออกไปในต่างประเทศ รองรับตลาดโฆษณาภายในประเทศ ที่เริ่มอิ่มตัว
ตี๋ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ในปีนี้ (2548) เป็นปีที่แม็ทชิ่งมีการจัดโครงสร้างการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยลดการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ทำกำไร ได้แก่ โครงการมูฟวี่ทาวน์ มูลค่าการลงทุน 1,000 ล้านบาท และปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจภาพยนตร์ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ในส่วนธุรกิจภาพยนตร์ บริษัทจะมุ่งหาพันธมิตรในต่างประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตและจัดจำหน่าย โดยภาพยนตร์เรื่องแรก ?Recycle? (รีไซเคิล) จะเป็นการร่วมทุนกับฮ่องกง โดยแม็ทชิ่งลงทุน 1 ล้านเหรียญ (ประมาณ 41 ล้านบาท) บริษัทยูนิเวอร์ส ของฮ่องกง ลงทุน 2 ล้านเหรียญ ขณะนี้สามารถขายลิขสิทธิ์ล่วงหน้าในตลาดยุโรปได้เป็นจำนวนเงิน 1.8 ล้านเหรียญ
สำหรับโครงการมูฟวี่ทาวน์ ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทลูก คือ บริษัท แม็ทชิ่ง มูฟวี่ทาวน์ จำกัด ขณะนี้ได้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อต่อการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่
โดย บริษัท แม็ทชิ่ง มูฟวี่ทาวน์ ได้หันมามุ่งดำเนินธุรกิจบริหารสื่อใหม่ หรือนิวมีเดีย ภายใต้แบรนด์ ชีส มีเดีย ซึ่งเป็นผู้บริหารสื่อโฆษณาแบบดิจิทัลในศูนย์การค้าในเครือของบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่ และ สยามพารากอน โดยใช้งบลงทุน 120 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทปีละ 80 ล้านบาท
ตี๋ ยังเผยอีกว่า ส่วนธุรกิจผลิตภาพยนตร์โฆษณา ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่ทำรายได้เป็นสัดส่วน 60% ของกลุ่ม บริษัทได้มุ่งขยายตลาดในต่างประเทศมากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้ตั้งบริษัทในเมืองเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน และกำลังเจรจาหาพันธมิตรในอินโดนีเซีย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาสแรกของปี 2549 สำหรับตลาดจีนและอินโดนีเซีย ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง
โดยในจีนมีการผลิตภาพยนตร์โฆษณาประมาณ 4,000 เรื่องต่อปี ขณะที่อินโดนีเซียมีการผลิตประมาณ 3,000 เรื่องต่อปี ทั้งนี้ จากการลงทุนใน 2 ประเทศดังกล่าว จะทำให้รายได้ในส่วนของธุรกิจโฆษณามีการเติบโต 15% ในปีหน้า หลังจากนั้นบริษัทจะพิจารณาขยายตลาดในเวียดนามและไต้หวันต่อไป
ส่วนตลาดโฆษณาในประเทศไทยมูลค่าตลาดบวกลบที่ประมาณ 80,000 ล้านบาท ในปี 2549 คาดว่าอุตสาหกรรมโฆษณาน่าจะได้รับอานิสงส์จากการแข่งขันฟุตบอลโลกบ้างเล็กน้อย แต่ยังมีสถานการณ์อีกหลายอย่างที่ยังไม่ลงตัว อย่างเรื่องราคาน้ำมัน เป็นต้น
ตี๋ บอกด้วยว่า สำหรับปีนี้ บริษัทจะงดจัดงาน เวิลด์ คาร์นิวัล สวนสนุกเคลื่อนที่ระดับโลก เนื่องจากปีนี้ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ประกอบกับบริษัทแม่ไม่ประสบความสำเร็จจากการจัดงานในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงได้ลิขสิทธิ์การจัดงานเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะนำเข้ามาจัดในประเทศไทยปีไหน
จับตาในปี 2549 การกลับมาของหุ้นแม็ทชิ่ง สตูดิโอ (MATCH) บนความจริงทางธุรกิจของ ตี๋..แม็ทชิ่ง ที่ขอหยุด ทางฝัน ไว้ชั่วขณะ [/color:515cbb356b">
|