April 26, 2024   2:24:00 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ดุลการค้าก.ค.ขาดดุลลดลงเหลือ 85 ล้านดอลล์
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 22/08/2005 @ 15:26:16
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สมคิด ปลื้ม ดุลการค้าเดือนก.ค.ขาดดุลลดลงเหลือแค่ 85 ล้านดอลล์
ถือเป็นจุดพลิกผันในด้านดี โดยมูลค่าส่งออกขยายตัว 18% เพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย.
ที่ผ่านมา ส่วนมูลคค่านำเข้าขยายตัว 20% ลดลงจากที่ขยายตัวถึง 37% ในเดือน
ก่อน เหตุนำเข้าเหล็ก -นำมัน ลดลง แต่ทองคำยังเพิ่มสูง เตรียมเรียกผู้ประกอบ
การหารือเร็วๆนี้ มั่นใจทั้งปีส่งออกโตได้แน่ 20% ไม่จำเป็นต้องปรับเป้า โดย
ประเมินขาดดุลทั้งปีอยู่ที่ 2.5-3 พันล้านดอลล์ ขณะเดียวกันหวังหากไทยได้ดุล
บริการเพิ่ม 100-300 ล้านเหรียญ เชื่อดุลบัญชีเดินสะพัดทั้งปีดีขึ้นแน่
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีมูลค่า 9,500 ล้าน
เหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวที่
ต่อเนื่องจากเดือนพ.ค.-มิ.ย. ซึ่งอยู่ที่ 14และ12% ตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกที่
สำคัญคือ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟ้า ยานยนต์ อาหาร สิ่งทอ วัสดุก่อสร้าง อัญมณี
ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกในรอบ 7 เดือน(ม.ค.-ก.ค.) ขยายตัว 13.7% เมื่อเทียบกับ
7 เดือนของปีที่แล้ว จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าในปีนี้มูลค่าการส่งออกจะขยายตัว 20%
ส่วนการนำเข้าในเดือนกรกฎาคม ที่มูลค่า 9,605 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว
20% เมื่อเทียบกับช่วงเดัยวกันของปีก่อน โดยการนำเข้านี้มีการชะลอตัวลง จากเดือน
พฤษภาคม และมิถุนายน ที่ขยายตัวถึง 38% และ 37% ตามลำดับ ส่งผลให้การนำ
เข้าในรอบ 7 เดือนของปีนี้ขยายตัวอยู่ที่ 30.2% และทำให้การขาดดุลการค้าในเดือน
ก.ค.ลดลงเหลือ 85 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ดีขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่
ไทยขาดดุลการค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7-1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ตัวเลขการนำเข้าในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ภายหลังจากที่มีการประฃุม
กับผู้นำเข้ารายใหญ่ ได้ลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้า 2 กลุ่มหลักที่เป็นต้นเหตุทำ
ให้มีการขาดดุลการค้ากับต่างประเทศมากที่สุด คือ พลังงานเชื้อเพลิง เหล็ก ยกเว้น
ทองคำที่ตัวเลขการนำเข้ายังเพิ่มขึ้นอยู่ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมเรียกผู้นำเข้า
ทองคำเข้ามาหารืออีกรอบ ว่าเหตุใดการนำเข้ายังเพิ่มขึ้นอยู่แต่ทางกระทรวงจะไม่
จำกัดโควต้าหรือควบคุมตัวเลขนำเข้าแต่หากมีการนำเข้าที่เกินความจำเป็นมากก็อาจ
จะมีมาตรการจำกัดโควต้าหรือควบคุมตามมา อย่างไรก็ตามหากผู้นำเข้าจำเป็นที่จะนำ
เข้าสินค้าซึ่งมีมูลค่ามากก็สามารถที่จะแจ้งตัวเลขการนำเข้ามากยังกระทรวงพาณิชย์
ได้เพราะจะได้รู้ตัวเลขล่วงหน้า ว่าจะได้รู้ตัวเลขดุลการค้าไว้ล่วงหน้าเพราะหากตัวเลข
ขาดดุลมากทุกฝ่ายจะไม่ต้องกังวลมากเกินไป
ตัวเลขขาดดุลการค้าที่ดีขึ้นนั้นเป็นผลเนื่องมาจากการที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ
และเอกชนให้ความร่วมมือทั้งด้านการนำเข้าและการส่งออก นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงนั้น
ยังคงน่าเป็นห่วง จึงกำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เข้ามาดูแลการ
นำเข้าและการส่งออกอย่างใกล้ชิด ซึ่งเรื่องของการส่งออกและการนำเข้านั้นไม่ได้ขึ้น
อยู่กับกระทรวงพาณิชย์แต่เพียงผู้เดียว โดยต่อไปนั้นต้องดำเนินการร่วมกับกระทรวง
ต่างประเทศ โดยให้ฑูตพาณิชย์ ประสานงานกับคณะฑูตในต่างประเทศ เพราะข้อมูล
ส่วนใหญ่ ในเรื่องการค้ากับต่างประเทศคณะฑูตจะรู้และมีข้อมูล มากกว่าดังนั้นทุก
ฝ่ายต้องช่วยกัน หากใครมีปัญหาก็ให้บอกหรือทำตัวเสมือนเป็นกระทรวงเดียวกัน
ทั้งนี้นายสมคิดได้สั่งงานให้กรมการค้าต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก
และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เข้ามาร่วมดูแลในเรื่องดุลการค้าโดยตั้งแต่เดือน
ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ให้ทั้ง 3 กระทรวงเข้าพบปะหารือกับภาคเอกชน ทั้งในเรื่อง
อุปสรรคปัญหาต่าง ๆ โดยการค้า เช่น ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยทั้ง 2 กรมนี้
จะเข้าไปช่วยเหลือดูแลแก้ปัญหาร่วมกับภาคเอกชนต่อไป
ส่วนตัวเลขการส่งออกนั้นนายสมคิด กล่าวว่าจะไม่มีการลดเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปี
ที่ 20% อย่างแน่นอน เพราะในขณะนี้ตัวเลขส่งออกของไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
และต่อไปนี้ทุกคนต้องช่วยกันให้มากที่สุด เพื่อที่จะทำให้ได้ตามเป้าส่วนตลาดส่ง
ออกที่สำคัญของไทยนั้นยังเป็นอาเซียน สหรัฐ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป จีน ออสเตรเลีย
และอินเดีย โดยในช่วง 6 เดือนแรก เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค. 48) ขยายตัวถึง 10.9%
9.5% 14.3% 47% 27.2% 32.4% และ 72% ตามลำดับ
โดยในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินตัวเลขขาดดุลการค้าไว้ที่ประมาณ
2.5-3 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีมูลค่าการส่งออกทั้งปีอยู่ที่ 115,837 ล้านเหรียญ
สหรัฐ ส่วนมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 119,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้มีการจำกัดการนำ
เข้าทองให้นำเข้าได้ไม่เกิน 6-7 ตันต่อเดือน ส่วนเหล็กนำเข้าไม่ควรเกิน 1.3 ล้านตัน
ต่อวัน และน้ำมันนำเข้าได้ไม่เกิน 85,000 บาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ รมว.พาณิชย์ ยังได้แนะนำให้ผู้ประกอบการขยายฐานผลิตไปยัง
ต่างประเทศเช่น ลาว พม่า กัมพูชา เพราะ 3 ประเทศ ที่กล่าวมานั้น มีอัตราค่าแรงที่
ยังต่ำอยู่ ประกอบกับยังมีทรัยากรที่ยังสมบูรณ์และพร้อมอีกด้วยนอกจากนี้ควรจะมี
การเดินทางไปต่างประเทศเป็นประจำเพื่อเจรจาหรือ หารือกับประเทศคู่ค้า เช่น ใน
วันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น ตนได้เดินทางไปญี่ปุ่น และมี การเจรจากับผู้ประกอบการ
เช่น บริษัทบริดสโตน บริษัทโตโยต้า โดยทั้งสองบริษัทนี้ จะเข้ามาลงทุนในประเทศ
ไทยเพิ่ม ดังนั้นจึงมองว่าไทยจะเป็นฮับ หรือ ศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคอาเซียน
ในอนาคตอย่างแน่นอน
เราต้องทำอย่างนี้ การเจรจาเราต้องรู้ว่าเราต้องการอะไร เช่น เราจะรุก
ตลาด หรือขยายตลาด ออกไปยังต่างประเทศ เขาต้องการอะไร เราควรจะมีการนัด
เลี้ยงข้าวเขาเพื่อคุยกันอย่างใกล้ชิด หากเราไม่ทำเราก็จะแห้ว นายสมคิดกล่าว
นายสมคิด ยังกล่าวอีกว่า หากประเทศไทยได้ดุลบริการเพิ่มประมาณ 100-
300 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ก็จะทำให้บัญชีเดินสะพัดในปีนี้ดีขึ้นอย่างไรก็ตามทุก
ฝ่ายต้องช่วยกันทำงานทั้งเรื่องดุลการค้าผลักดันการส่งออกและดแในเรื่องการนำเข้า
ให้มากที่สุดทุกฝ่ายต้องพยายามต่อไป ซึ่งแม้ว่าเดือนนี้จะเป็นเดือนที่พลิกผันตัวเลข
ดุลการค้าแต่ทุกคนต้องทำงานทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อเรียกความั่นใจของทุก
ฝ่ายกลับคืนมา

 กลับขึ้นบน
super95
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 12
#1 วันที่: 22/08/2005 @ 17:23:47 : re: ดุลการค้าก.ค.ขาดดุลลดลงเหลือ 85 ล้านดอลล์
ข่าวดีจริงๆๆๆ .0008 .0008 .0008
 กลับขึ้นบน
lookwa
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 397
#2 วันที่: 22/08/2005 @ 20:30:58 : re: ดุลการค้าก.ค.ขาดดุลลดลงเหลือ 85 ล้านดอลล์
สาธุ...800จุดไวๆ จะได้ขายของเก่าได้ .0005

จะเปิดท้ายเสียให้เกลี้ยงเลย .0006 .0006
 กลับขึ้นบน
Firepug
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 8
#3 วันที่: 22/08/2005 @ 21:21:49 : re: ดุลการค้าก.ค.ขาดดุลลดลงเหลือ 85 ล้านดอลล์
.0005 .0005 .0005
 กลับขึ้นบน
ไข่เจียว
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 17
#4 วันที่: 22/08/2005 @ 21:57:35 : re: ดุลการค้าก.ค.ขาดดุลลดลงเหลือ 85 ล้านดอลล์
ขอ 700 จุดก่อนเถอะ ถีบแรงๆ นะป๋า.... .0003
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com