????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 12/11/2005 @ 21:51:34 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต หวั่น IEC จะซ้ำรอยสิงห์พาราเทค หลังประกาศเพิ่มทุน 784.55ล้านหุ้นขายนักลงทุนในวงจำกัด ราคาไม่ต่ำกว่า 3 บาท ทั้งที่ราคากระดานอยู่แค่บาทกว่า ก่อนไล่ขึ้นมาเฉียด 3 บาท เดือนเดียวหุ้นพุ่ง 113% วงการเตือนระวังถูกหลอกพาทัวร์ดอย เหตุหุ้นเพิ่มทุนล็อตเดิม 350 ล้านหุ้น ต้นทุน 1.10 บาทเพิ่งเข้าเทรด และไม่ติดไซเรนต์ พีเรียด ป่านนี้หวานหมู ลงทุนเดือนเดียวกำไรเละ 581 ล้านบาท ด้าน ตลท.ทนไม่ไหวขึ้น SP พร้อมสั่งชี้แจง 11 ข้อสงสัย ขีดเส้น 15 พ.ย.ต้องเคลียร์[/color:b539bd4f7d">
ในขณะที่เรื่องราวการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม บริษัท สิงห์ พาราเทค จำกัด (มหาชน) (SINGHA) ให้กับเวสต์โคสที่ราคา 14.50 บาท ดูเหมือนกำลังจะกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ เพราะเวสต์โคสทำท่าจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ล่องหน หลังจากดันราคาหุ้น SINGHA ในกระดานให้ปรับตัวขึ้นไปถึง 14.30 บาท ใกล้เคียงราคาขาย ก่อนที่ล่าสุดราคาหุ้นทรุดตัวลงมาอยู่ที่ 8.55 บาท พร้อมกับข่าวคราวที่เงียบหายไป บริษัททำท่าจะได้ยืดเงินประกัน 10 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายมากที่สุดคือรายย่อยที่เข้าไปเป็นเหยื่อเกมการเงินในครั้งนี้
ล่าสุดการประกาศเพิ่มทุนของ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตุว่าอาจจะซ้ำรอย SINGHA เพราะเป็นการเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัด ที่ราคาไม่ต่ำกว่า 3 บาท ในขณะที่ราคากระดานล่าสุด (9 พ.ย.) หุ้น IEC ปิดที่ 2.76 บาท ซึ่งเป็นการไล่ราคากันขึ้นมาอย่างต่อเนื่องหลายวัน ท่ามกลางข่าวลือในตลาดหลักทรัพย์ว่าเป้าหมายของ IEC อยู่ที่ 3 บาท ซึ่งสอดคล้องกันกับราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ประกาศออกมา
**IEC เพิ่มทุน 784.55 ล้านหุ้น
นายศรายุทธ กอุพาณิชานนท์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 14/2548 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2548 มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 1,415,450,000 บาท เป็น 2,200,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญจํานวน 784,550,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม 784,550,000 บาท
ทั้งนี้จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด หรือผู้ลงทุนสถาบัน ในราคาไม่ต่ำกว่าราคาตลาดตามหลักเกณฑ์การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ. 12/2543 เรื่องการขออนุญาต และการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ ลงวันที่ 22 มีนาคม 2543 (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และไม่ต่ำกว่าราคา 3 บาท วันเวลาจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นจะแจ้งให้ทราบภายหลัง
วัตถุประสงค์การเพิ่มทุน เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทและเพื่อใช้รองรับ เสริมสร้าง และขยายศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัท
นอกจากนั้นคณะกรรมการยังมีมติเห็นชอบการโอนส่วนเกินมูลค่าหุ้นบางส่วน จำนวน 623,954,754 บาท จากจำนวนทั้งหมดที่อยู่ 705,935,950 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมทั้งหมดที่มีอยู่ตามงบการเงินไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีของบริษัท
โดยจะยังคงเหลือส่วนเกินมูลค่าหุ้นอีกจำนวน 81,981,196 บาท และให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติต่อไป
ตารางระยะเวลาการดําเนินการในกรณีที่คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน
การดำเนินการ กำหนดการ
- วันประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 14/2548 -10พฤศจิกายน 2548
- วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิ
เข้าประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2548 - 25 พฤศจิกายน 2548
- วันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2548 - 9 ธันวาคม 2548
- จดทะเบียนเพิ่มทุนจดทะเบียนต่อกระทรวงพาณิชย์ - ภายใน 14 วันนับ
จากวันที่ได้รับมติจากผู้ถือหุ้น
- วันประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน - จะแจ้งให้ทราบภาย
หลัง
**เดือนเดียวหุ้นพุ่ง 113%
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น IEC ในช่วง 1 เดือนก่อนการประกาศเพิ่มทุนดังกล่าว ปรากฎว่าราคาหุ้นปดตลาดวันที่ 30 ก.ย. อยู่ที่ 1.29 บาท แต่ล่าสุดราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 2.76 บาทหรือเพิ่มขึ้นถึง 113% ภายในเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น
**วงการเตือนระวังถูกพาทัวร์ยอดดอย
แหล่งข่าวในวงการหลักทรัพย์รายหนึ่งให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมามีหลายบริษัทที่ประกาศขายหุ้นให้พันธมิตรหรือให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจงในราคาสูงกว่ากระดาน ซึ่งจะส่งผลทางจิตวิทยาให้มีการไล่ราคาในกระดานขึ้นไปใกล้เคียงหรืออาจจะมากกว่าราคาขาย แต่ก็หลายครั้งที่เกิดการล้มดีลภายหลัง และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บคือรายย่อยที่เข้าไปเป็นเหยื่อ
ในกรณีของ IEC มองว่าไม่มีเหตุผลที่จะมีผู้ลงทุนสนใจซื้อหุ้นที่ระดับสูงกว่า 3 บาท ในขณะที่บริษัทเพิ่งขายหุ้นเพิ่มทุน 350 ล้านหุ้นไปเมื่อเดือน ก.ย.-ต.ค. ที่ผ่านมา โดยหุ้นเพิ่มทุนล็อตดังกล่าวมีต้นทุนเพียง 1.10-1.11 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้นนักลงทุนควรระมัดระวังการซื้อขายหุ้นตัวนี้ เพราะเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการสร้างข่าวขึ้นมาเพื่อให้ผู้ลงทุนหุ้นเพิ่มทุนล็อตแรกขายหุ้นออกมาได้ โดยอาจจะคล้ายกับกรณีของ SINGHA ที่มีการออกข่าวการขอซื้อหุ้นที่ราคาสูงกว่ากระดาน แต่ภายหลังส่อแววว่าจะต้องล้มดีลเพราะราคาหุ้นร่วงลงมามากหลังจากข่าวออกไป
ทั้งนี้วันที่ตลาดหลักทรัพย์ปลดเครื่องหมาย SP หุ้น IEC คาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลง เพราะที่ผ่านมามีการไล่หุ้นขึ้นมาใกล้เคียงกับราคาเพิ่มทุนที่ 3 บาทแล้ว และนักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการลงทุน เพราะถือว่าบริษัทมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ รวมทั้งความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่ถูกจับตามองจากทางการ หากเกิดความไม่ชอบมาพากลอาจถูกถล่มขายออกมาได้ โดยมองว่าหุ้น IEC ถูกควบคุมโดยนักลงทุนบางกลุ่มแล้ว
**ตลท.ขึ้น SP สั่งชี้แจง 11 ข้อสงสัย
ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าเนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการของ IEC ได้มีมติที่สำคัญอื่นอีก ดังนี้
1) ให้เพิ่มทุนจาก 1,415,450,000 หุ้น เป็น 2,200,000,000 หุ้น โดยจัดสรรหุ้นสามัญ 784,550,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แก่บุคคลในวงจำกัดในราคาไม่ต่ำกว่าราคาตลาดตามหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. และไม่ต่ำกว่าราคาหุ้นละ 3 บาท
2) ให้แก้ไขข้อบังคับการเพิ่มอัตราส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ไม่มีสัญชาติไทยจากเดิมไม่เกินร้อยละ 39 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เป็นไม่เกินร้อยละ 49
เพื่อให้ผู้ลงทุนรับทราบข้อมูลที่ชัดเจนซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของ IEC ตลาดหลักทรัพย์จึงให้ IEC ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมมายังตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2548 ดังนี้
1.เหตุผลที่คณะกรรมการเลือกที่จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัดแทนที่จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมหรือประชาชน
2.หลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการใช้ในการพิจารณาอนุมัติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ลงทุนดังกล่าว
3.รายชื่อผู้ที่ได้รับจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน และความสัมพันธ์กับ IEC ในระยะที่ผ่านมาทั้งในด้านการถือหุ้น และการบริหารงาน ทั้งนี้ในกรณีที่เป็นนิติบุคคลให้ระบุ Ultimate Shareholders ด้วย รวมทั้งการเพิ่มทุนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ไม่มีสัญชาติไทยหรือไม่ อย่างไร
4.ประโยชน์ที่ IEC คาดว่าจะได้รับจากการเข้าร่วมลงทุนของบุคคลในวงจำกัดดังกล่าว นอกเหนือจากการได้รับเงินทุนเพิ่มทุน
5.ตามที่ IEC แจ้งว่าจะนำเงินเพิ่มทุนเป็นเงินทุนหมุนเวียนและรองรับศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของ IEC จึงขอทราบรายละเอียดและกำหนดการใช้เงินเพิ่มทุน
6.หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาและเหตุผลที่เลือกเกณฑ์กำหนดราคาดังกล่าว พร้อมความเห็นของที่ปรึกษาการเงิน (ถ้ามี)ในการกำหนดราคาไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 3 บาท
7.ลำดับเหตุการณ์ในการติดต่อและเสนอให้คณะกรรมการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัดดังกล่าว
8. ในระยะที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันบุคคลในวงจำกัด ดังกล่าว รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องของบุคคลดังกล่าว เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจควบคุมใน IEC หรือไม่ อย่างไร
9.โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ IEC ก่อนการเพิ่มทุนครั้งนี้และหลังการเพิ่มทุนรวมทั้งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มทุน (Dillution Effect)
10.การเพิ่มทุนครั้งนี้จะมีผลต่อการเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารของ IECหรือไม่ อย่างไร
11.ความเห็นคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบของ IEC เกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ว่า เข้าข่ายที่จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยรายการที่เกี่ยวโยงกันหรือไม่เพราะเหตุใด
เนื่องจากการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแก่บุคคลในวงจำกัดของ IEC ถือว่ามีนัยสำคัญอย่างมากต่อโครงสร้างเงินทุนของ IEC และอาจมีผลต่อโครงสร้างบริหารของ IEC ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ของIEC ตลาดหลักทรัพย์จึงยังคงสั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ IEC จนกว่า IEC จะสามารถชี้แจงข้อมูลข้างต้นมายังตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างชัดเจนและครบถ้วน
**นลท. 13 รายรวยเละ เดือนเดียวฟันกำไร 581 ลบ.
ก่อนหน้านี้ IEC เคยประกาศเพิ่มทุน 350 ล้านหุ้น โดยขายให้ผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจงรวม 8 ราย ซึ่งมีต้นทุนที่ 1.10-1.11 บาท เท่ากับว่าจะถึงปัจจุบันผู้ลงทุนกลุ่มดังกล่าวจะมีกำไรจากหุ้น IEC รวมถึง 581 ล้านบาท
หุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ล็อตดังนี้
1. ผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง 5 ราย รวม 220,000,000 หุ้นสามัญ ราคาหุ้นละ 1.10บาท กำหนดวันจองซื้อและชำระเงินวันที่ 29 กันยายน 2548
ชื่อนักลงทุน จำนวนหุ้น ราคาเสนอขาย(บาท)มูลค่าหุ้นรวม(บาท)
นายวิกร ศรีวิกรม์ 20,000,000 1.10 22,000,000
นายบี เตชะอุบล 80,000,000 1.10 88,000,000
นางผุสดี นาคอินทร์ 55,000,000 1.10 60,500,000
นายพิทยา แก้วธรรมานุกูล 45,000,000 1.10 49,500,000
นายสมชัย กนกพันธรางกูร 20,000,000 1.10 22,000,000
รวม 220,000,000 242,000,000
2.ผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง 8 ราย รวม 130 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.11 บาท กำหนดวันจองซื้อและชำระเงิน 6 ตุลาคม 2548
ชื่อนักลงทุน จำนวนหุ้น ราคาขาย(บาท) มูลค่าหุ้นรวม(บาท )
น.ส.บุศรา อุไรกุล 25,000,000 1.11 27,750,000
นายศรายุทธ โรหิตเสถียร 20,000,000 1.11 22,200,000
นายเฉลิมพันธ์ ศรีวิ 10,000,000 1.11 11,100,000
น.ส.วิภาภัค วิริยะโรจน์ 30,000,000 1.11 33,300,000
น.ส.ลักษณา จริยวัฒน์สกุล10,000,000 1.11 11,100,000
มล. ศานติดิส ดิศกุล 15,000,000 1.11 16,650,000
นางปรีชาวรรณ หาญดำรงสุข15,000,000 1.11 16,650,000
นางเพ็ญวรรณ ริ้วภากร 5,000,000 1.11 5,550,000
รวม 130,000,000 144,300,000
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์สั่งรับหุ้นเพิ่มทุน 350 ล้านหุ้นของ IEC ดังกล่าวเข้าซื้อขายได้เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2548 ที่ผ่านมา โดยที่ไม่มีระยะเวลาห้ามขายหุ้น (ไซเรนต์ พีเรียดแต่อย่างใด)
ที่มา efinancethai.com[/color:b539bd4f7d">
|
