มีบทวิเคราะห์ UPDATE หุ้น AOT จากฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ที่ระบุว่า AOT น่าจะกลับมาเป็นหุ้นที่ตลาดสนใจอีกครั้งในระยะถัดไป มีปัจจัยหนุนการฟื้นตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ดังนี้

1.ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในยุโรปและจีนที่รวดเร็วกว่าพื้นที่อื่นของโลก ซึ่ง 2 กลุ่มนี้คิดเป็น 44% ของชาวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย

2.ในส่วนของไทยการเปิดประเทศที่เริ่มจาก จ.ภูเก็ต เดือนก.ค.64 มีความเป็นไปได้มากขึ้น โดยเฉพาะเป้าหมายกำหนดประชากรในจังหวัดฉีดวัคซีนราว 70% หรือเป็นเป้าหมายตัวเลขที่ 4.67 แสนโดส ปัจจุบันมีผู้ได้รับวัคซีนราว 3 แสนโดส ส่วนใหญ่น่าจะเป็นวัคซีนเข็มแรกหากทุกคนต้องฉีด 2 โดส เท่ากับ จ.ภูเก็ตต้องฉีดวัคซีนราว 6.3 แสนโดสเดือน มิ.ย. หรือราว 2.1 หมื่นโดสต่อวัน จุดที่น่าสนใจคือความเร็วในการฉีดสูงกว่าเป้าหมาย สะท้อนจากสัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้นเร็วถึงวันละ 38,000โดส อิงตัวเลขที่เพิ่งมีการฉีดราว 1.3 แสนราย (ข้อมูล 19 พ.ค.64)

3.การที่รัฐมีแผนจะเร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่ระบาดสูง ซึ่ง กทม.น่าจะเป็นส่วนหนึ่งแน่นอน

ทิศทางทั้งหมดถือเป็นบวกต่อ AOT เนื่องจาก AOT เป็นผู้ให้บริการสนามบินภูเก็ต และสนามบินหลักในกรุงเทพฯ (ดอนเมือง+สุวรรณภูมิ) และทั้งหมดเป็นสนามบินหลัก (87% ของผู้ใช้บริการทุกสนามบิน AOT) เริ่มคาดหวังการกลับมาของผู้ใช้บริการเส้นทางต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ค่าธรรมเนียมสูงกว่าปัจจุบันที่แทบทั้งหมดเป็นการเดินทางในประเทศ

และการฟื้นตัว AOT เชื่อว่าจะเร็วและแน่นอนกว่ากลุ่ม เนื่องจาก AOT มีจุดเด่นผูกขาดบริการสนามบินหลักของประเทศ นอกจากนี้AOT จะมีรายได้เสริมอีกส่วนจากรายได้เชิงพาณิชย์สินค้าปลอดภาษีจากสัญญาที่มีกับกลุ่มคิง เพาเวอร์ พัฒนาการผลประกอบการ คาดว่าจะเริ่มเห็นนับจากงวดบัญชี 4Q64 (สิ้นสุด ก.ย.64) เป็นต้นไป และต่อเนื่องจนกลับมาใกล้เคียงก่อน COVID ในปีบัญชี 66 (สิ้นสุด ก.ย. 66)ราคาหุ้นหลังระบาดระลอกใหม่ปรับฐานลงถึง 12% เชื่อว่าสะท้อนข่าวร้ายไปแล้ว ราคาปัจจุบันน่าจะจุดที่ Downside จำกัด และน่าสะสมรอรับการฟื้นตัว แนะนำซื้อ

ส่วนมุมมองโบรกเกอร์สำนักอื่นๆ บล.กรุงศรี AOT แนะนำซื้อให้ราคาเป้าหมาย 77 บาท ตามด้วย บล.ดีบีเอสวิคเคอร์สให้ราคาพื้นฐาน 73 บาท ส่วน บล.เคทีบีเอสที ให้เป้าหมาย 72 บาท บล.ทิสโก้ แนะแค่ “ถือ” ให้มูลค่าเหมาะสม 64 บาท และ บล.โนมูระพัฒนสิน แนะ Neutral ราคาเป้าหมาย 63.50 บาท!!

อินเด็กซ์ 51