thaihoon สมาชิก
 จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 14,583 |  วันที่: 30/03/2021 @ 08:43:09 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต
หากพูดถึงบริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO หลายคนคงนึกถึงเครื่องปั๊มน้ำ เป็นภาพจำติดตามาโดยตลอด
เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตมอเตอร์ หลัก ๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สายน้ำมันกับสายไฟฟ้า เช่น เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำ มอเตอร์ปั๊มบ้าน และมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ
ที่ผ่านมา แม้ PIMO จะเป็นเจ้าใหญ่ของตลาด แต่ก็ถูกท้าทายว่าจะถูกดิสรัปชั่นหรือไม่..? ทั้งจากคู่แข่งจีน ซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่า และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป
แต่ก็เห็นการปรับตัวของ PIMO มาตลอด
หนึ่งในนั้นนำไปสู่การผลิตมอเตอร์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี ซึ่งมีความพร้อมด้านโนว์ฮาวน์อยู่แล้ว
นับเป็นโอกาสใหม่
เป็นตลาดใหม่ของ PIMO ทั้งในแง่รถจักรยานยนต์และมอเตอร์..!!
เห็นได้ชัดจากการไปจับไม้จับมือกับบริษัท จีพี มอเตอร์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบรนด์ GPX เพื่อร่วมกันพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้มีเสถียรภาพและคุณภาพที่ดีในราคาที่สามารถแข่งขันได้ โดยตั้งเป้าเริ่มการผลิตจริงในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2565
อย่างน้อย ๆ PIMO มีความเชี่ยวชาญด้านมอเตอร์ สามารถซัพพอร์ตให้กับค่ายรถจักรยานยนต์ได้
ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็ไปร่วมทุนวิจัยพัฒนาในโครงการการออกแบบและพัฒนามอเตอร์ไฟฟ้าชนิดไร้แปรงถ่านแบบใช้แม่เหล็กถาวรสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า กับทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติอีกด้วย
เท่ากับว่า PIMO จากมอเตอร์กำลังคืบคลานไปสู่มอไซค์ (ไฟฟ้า) อย่างเต็มตัว..!!
ถือเป็นการเปิดเกมรุกสู่ธุรกิจอีวี
หลังจากภาครัฐ โดยคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) กำหนดนโยบายชัดเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี ซะที..!! หลังจากปล่อยให้คลุมเครือมานาน
ด้วยสตอรี่ดังกล่าว PIMO จึงจัดเป็นหุ้นเล็กพริกขี้หนูสวนอีกดอกที่ถูกคาดหวังว่าปีนี้จะโชว์ผลงานแจ่มจรัส..!!
ส่วนจะพุ่งชนเป้าหมายที่ผู้บริหารตั้งไว้ว่ารายได้ปีนี้จะแตะ 1,000 ล้านบาท หรือโต 2025% ได้หรือไม่..? เป็นช็อตที่ต้องติดตามกันต่อไป
เอาเป็นว่ายังไม่รู้ว่า PIMO กับการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ จากธุรกิจอีวีจะปังปุริเย่แค่ไหน..? ยังไม่มีใครตอบได้
ที่แน่ ๆ เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ก่อน นักลงทุนตอบรับข่าวนี้ ด้วยราคาหุ้นที่วิ่งแรลลี่ 2 วันต่อเนื่องเกือบ 20% ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย จากที่เทรดกันวันละไม่กี่สิบล้านบาท ก็พุ่งพรวดไปหลายร้อยล้านบาท
แหม๊
มอเตอร์เค้าเครื่องแรงงงส์เว่อร์จริง ๆ
ยังไงก็ระวังมอเตอร์ดับระหว่างทางโดยไม่ทันตั้งตัวไว้บ้างก็ดีนะ
นี่ก็เริ่มเห็นสัญญาณมอเตอร์ติด ๆ ดับ ๆ บ้างแล้ว โดยวานนี้ (29 มี.ค.) ราคาหุ้นทรุดไป 2.17% ปิดตลาด 3.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 73 ล้านบาท
เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ไม่ได้นะ
อิ อิ อิ
|