ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 28 ก.ย.63 ปิดที่ 1,263.02 จุด บวก 18.08 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 41,292.84 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,216.08 ล้านบาท ขณะที่กองทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,049.03 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขาย STGT ปิด 79.25 บาท บวก 3.50 บาท, PTT ปิด 33.50 บาท บวก 1 บาท, KBANK ปิด 79.50 บาท บวก 3.50 บาท, AOT ปิด 58.75 บาท บวก 1.25 บาท และ ADVANC ปิด 174.50 บาท บวก 4.50 บาท

หุ้นไทยรีบาวด์ทางเทคนิคจากภาวะ Oversold และมีแรงซื้อหุ้นใหญ่หนุนตลาด เก็งกำไรหุ้น Window Dressing

บล.เอเซียพลัสระบุว่า แม้แรงกดดันต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นในภาพรวมจะเริ่มจำกัดแล้ว แต่ในระยะสั้นเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงกระแทกจากทั้ง COVID-19 และปัจจัยการเมืองของไทย

ดังนี้ COVID-19 จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุโรป (สเปน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, อิตาลี) และเอเชีย (อินเดีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เมียนมา) จำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูงข้างต้น กดดันให้หลายประเทศกลับมา Lockdown รอบ 2 อีกครั้ง ซึ่งเป็นประเด็นที่ตลาดหุ้นกังวล

โดยล่าสุด ฝรั่งเศสสั่งปิดร้านอาหารและสถานบันเทิงทุกแห่งในเมือง Marseille (เมืองสำคัญตอนใต้ของฝรั่งเศส) ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.63 เป็นต้นไป ซึ่งกดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้า และการเคลื่อนย้ายคน

ขณะที่สถานการณ์การเมือง ความไม่แน่นอนทางการเมืองไทยที่มีสัญญาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มหาจุดลงตัวได้ยากเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สร้าง Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยและหากผลกระทบรุนแรงมากขึ้นจนส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล อาจส่งผลต่อความต่อเนื่องของการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในอนาคตได้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังเปราะบาง

สรุปคือ ตราบที่ COVID-19 ยังระบาดแรงและวิ่งแซงความหวังของการผลิตวัคซีน บวกกับการเมืองไทยยังมีความร้อนแรงต่อเนื่อง ในยามที่เศรษฐกิจไทยยังมีความเปราะบาง อาจทำให้นักวิเคราะห์หลายๆสำนักทยอยปรับประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 64 ลงอีก ถือเป็นเรื่องที่กดดันให้ Fund Flow ที่รอจ่อเข้าตลาดหุ้น อาจชะลอไปอีกซักระยะ

แต่หากสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายลงอาจเป็นจังหวะเข้าไปสะสมหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง

แนะนำหุ้นขนาดเล็กพื้นฐานแข็งแกร่งปันผลสูงคือ MCS และหุ้นถุงมือยาง ได้ Sentiment เชิงบวกเวลา COVID-19 ระบาด STGT!!

อินเด็กซ์ 51