*สิ่งที่ “โมนิก้า” อยากจะบอกกับแฟนคลับอีกครั้งในเที่ยวนี้คือ สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังขึ้นอยู่กับข่าวสารรายวันออกมาเป็นแบบไหน ? ซึ่งเป็นตัวแปรหลักที่มีผลทำให้อารมณ์ของนักเล่นฮึกเหิมขนาดไหน ? เดี๊ยนถึงอยากโฟกัสเรื่องนี้ควบคู่กับสัญญาณเทคนิค เพราะช่วงหลัง ๆ มักเห็นข่าวร้ายโผล่ขึ้นมาในช่วงที่ดัชนีกำลังขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญเป็นประจำนะซี

*เรื่องนี้เห็นได้จากจังหวะที่ดัชนีกำลังวิ่งขึ้นไปหา 1,300 จุดอยู่แล้วเชียว จู่ ๆ ดันมีข่าวแฉแบงก์ทั่วโลกทำธุรกรรมซ่อนเงื่อนเท่านั้นแหละ ! แรงเทขายถล่มออกมาแบบ “จัดหนัก จัดเต็ม” กันเลยทีเดียว พร้อมกับก่อให้เกิดกระแสเม้าท์มอยกันหนักหน่วง “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของอารมณ์ที่อินเนอร์มากเกินไป และเป็นเกมที่นักเล่นกลุ่มสถาบันคุ้นเคยเป็นอย่างดี ซึ่งนำไปสู่ยุทธการ “ขายบน ซื้อล่าง” นะจะบอกให้

*หากเปรียบเรื่องกล่าวก็คงคล้ายกับ “ปานามาเปเปอร์” โดยอารมณ์ในช่วงแรกของคนเล่นหุ้นก็รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย แต่เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งกลับไม่มีใครนำมาเป็นประเด็น และเงียบหายเข้ากลีบเมฆไปเฉย ๆ “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวของตลาดหุ้นทั่วโลกเที่ยวนี้ถ้าไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ ในไม่ช้าตลาดหุ้นทั่วโลกจะกลับมาคึกคักอย่างแน่นอน..เชื่อหัวน้องโมเถอะค่ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีแกว่งตัวไปมาในแดนลบตลอดทั้งวัน ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,267.63 จุด ลบไป 7.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.25 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ เพราะสภาพแวดล้อมของตลาดไม่เอื้อให้เล่นยาว ๆ ส่งผลให้การขายหุ้นเป็นทางเลือกที่ดีสุด “โมนิก้า” ถึงไม่มีอะไรติดในใจหากราคาหุ้นจะอ่อนตัวลงไปอีกเรื่อย ๆ เพราะนั่นคือ โอกาสของการลงทุนรอบใหม่ที่เกิดขึ้นบ่อยมากในช่วงสามเดือนครึ่งพะยะค่ะ

*คล้ายกับแรงขายที่ถาโถมใส่น้องมิ้น MINT จนราคาหุ้นทิ้งตัวลงมาปิดที่ 21.20 บาท ลบไป 1.40 บาท หรือลงไป 6.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.25 พันล้านบาท “โมนิก้า” ยังให้น้ำหนักไปที่เรื่องของไทมิ่งไม่เอื้อมากกว่าประเด็นอื่น เพราะเมื่อดูข่าวร้ายที่ประสบพบเจอจะเห็นว่า ราคาหุ้นซึมซับไปหมดแล้ว ! ส่งผลให้การขายหุ้นเที่ยวนี้เป็นเพียงการโยกเงินเพื่อไปซื้อหุ้นไอพีโอน้องใหม่มากกว่านะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องแบม BAM ก็อยู่ในข่ายที่ต้องขายเพื่อสวิตช์เงินอีกเช่นกัน ซึ่งรายนี้อาจหนักหน่วงมากหน่อยตรงสตอรี่ต่าง ๆ ที่เคยเป็นข่าวดีถูกปล่อยออกไปหมดแล้ว “โมนิก้า” ถึงเข้าใจการทรุดตัวลงมาปิดที่ 19.90 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 4.80% ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 1.19 พันล้านบาท ด้วยอาการอ่อนระทวยเกินจะพรรณนานั้น..มันเป็นช็อตที่หลีกเลี่ยงยากเหลือเกินเจ้าค่ะ

*ในเมื่อเป็นไฟต์บังคับที่ต้องขาย TASCO จึงโดนกระหน่ำขายแบบไม่ต้องให้เสียเวลา เพราะลำพังเรื่องกำไรลดเกินครึ่งก็เป็นตัวถ่วงชีวิตสุด ๆ ยังต้องมาเจอกับยุทธการเร่งปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบันเข้าอีกดอก ราคาหุ้นก็เลยทิ้งตัวลงไปอย่างง่ายดาย “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับคิดดูกันอีกทีว่า การลงมาปิดที่ 15.40 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.27 พันล้านบาท เหมาะที่จะเข้าช้อนหุ้นจริงไหม ?

*หากตั้งโจทย์ให้คิดกันทั้งที “โมนิก้า” ย่อมเบนเข็มไปหาหุ้นโรงกลั่น TOP เพื่อชี้ให้เห็นทิศทางของหุ้นกำลังโค้งตัวลงเรื่อย ๆ ทั้งที่เชื่อกันว่า สถานการณ์จะดีขึ้นในไม่ช้า เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 35.75 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 595 ล้านบาท โดยมีจุดต่ำสุดครั้งก่อนที่ทำไว้บริเวณ 25 บาท มันใช่จังหวะที่จะเข้าไปเสี่ยงไหม ?..ลองถามใจเธอดูนะคะ

*แข็งสุด ๆ เที่ยวนี้ต้องยกให้ IIG ภายใต้การคุมทัพของ “เฮียสมชาย” กลายเป็นหุ้น mai ที่เทรดสนุกสนานมากกว่าหุ้นใน SET บางตัวเสียอีกแบบนี้ “โมนิก้า” คงต้องติดตามดูผลงานอย่างใกล้ชิด หลังพรายกระซิบเม้าท์มอยให้ฟังว่า ในช่วง 1-2 ปีนี้จะเป็นขาขึ้นของบริษัท เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาการยืนปิดที่ 23 บาท บวกไป 1.70 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 495 ล้านบาท พร้อมกับขึ้นมายืนเท่ายอดเดิมที่เคยทำไว้สูงสุด ยังมีแก๊ปให้เล่นต่อหรือเปล่า ?..อิอิอิ