thaihoon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 14,583 | วันที่: 10/07/2019 @ 08:20:41 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 ก.ค.62 ปิดที่ 1,721.48 จุด ลดลง 9.55 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 65,334.84 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,864.80 ล้านบาท
ตลาดปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ นักลงทุนรอความชัดเจนในหลายปัจจัยสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธาน FED และความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
บล.กสิกรไทย ปรับเพิ่มเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยในอีก 12 เดือนหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,775 จุด จากเดิม 1,725 จุด ขณะที่กรอบระยะสั้น 1 เดือน คาดว่าดัชนีจะแกว่งในกรอบ 1,6601,760 จุด จากเดิมคาด 1,5901,680 จุด ส่วนดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ หากผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,760 จุดได้ มีโอกาสที่จะเห็นหุ้นไทยแตะที่ระดับ 1,800 จุดได้
สาเหตุที่ปรับเพิ่มเป้าหมายหุ้นไทย มาจากถ้อยแถลงของธนาคารกลางหลายแห่งมีท่าทีผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทั้งจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ส่งผลให้ bond yield ของโลกและในประเทศลดลงอย่างมาก ขณะที่ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนการเมืองในประเทศคาดว่าจะมี ครม.ชุดใหม่ ภายในเดือน ก.ค.นี้ มองว่านโยบายสำคัญ และนโยบายแรกที่จะออกมา คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน และมีผลต่อเศรษฐกิจทันที โดยเฉพาะมาตรการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
มองภาพตลาดในทิศทางบวก และดัชนีหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรที่ปรับลดลง สะท้อนจากช่วง 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา-21 มิถุนายน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นปรับเพิ่มขึ้นแล้ว 68 จุด หลังจากที่ bond yield ที่ลดลงถึง 0.32% แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าทิศทาง bond yield โลกอาจพลิกกลับได้ เพราะดัชนีหุ้นที่ปรับเพิ่มส่วนใหญ่มาจากการปรับตัวของ yield ดังนั้น หากสถานการณ์พลิกกลับและ yield ปรับสูงขึ้น ก็อาจทำให้หุ้นไทยปรับตัวลงสู่ 1,600 จุดได้
แนะกลยุทธ์ลงทุน กลุ่มที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศยังน่าสนใจ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหุ้นที่น่าสนใจ เช่น CPALL- CK-STEC-AMATA นอกจากนี้ กลุ่ม TFFIF ยังน่าสนใจ
ด้านกลุ่ม ICT น่าสนใจ เพราะตลาดมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อทิศทางการเติบโตของรายได้กลุ่มมือถือ จากการแข่งขันด้านราคาที่ผ่อนคลายลง การประเมินโอกาสที่ต้นทุนจะปรับลดลงจากการยุติบริการ 2G ที่ต่ำเกินไปของตลาด!!
อินเด็กซ์ 51
|