*ช่วงนี้ไปไหน มาไหน มีแต่คนซุบซิบนินทาเรื่องผู้คนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กันไม่ว่างเว้น ไล่เรียงตั้งแต่บริษัทจดทะเบียน ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อยจนไปถึงผู้คุมกฎเหล็กอย่าง ก.ล.ต. ก็มีเรื่องให้บรรดาแมงลือเม้าท์มอยกันไม่ว่างเว้นในแต่ละวัน “โมนิก้า” เลยขอกระโจนเข้าไปร่วมวงเผือกกับเขาด้วยคน เพราะเป็นงานถนัดสำหรับอีเมี้ยนปากยื่นปากยาวอย่างอีฉันนะซี

*วันนี้เลยถือโอกาสหยุดพักการเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุนชั่วคราว เพราะสิ่งที่ได้ยินได้ฟังในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ล้วนเป็นเรื่องที่ผู้คนในตลาดหุ้นควรมีไว้ประดับความรู้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นหัดทำตัวเป็นเด็กขี้สงสัยกันอีกครั้ง เพราะการขึ้นลงที่ผิดปกติของหุ้นบางตัว น่ามีอะไรซ่อนไว้ใต้พรหมเยอะพอสมควร เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นเพิ่มความละเอียดอ่อนในการประเมินแวลูของหุ้นแต่ละตัวนะจ๊ะ

*เหมือนกับข่าวคาวของน้องเบม BEM ที่ออกมาในแต่ละวัน ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงกับบุคคลสำคัญทางการเมืองทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่คนวงในจะทยอยขายหุ้นออกมาเรื่อย ๆ เพราะเมื่อดูจากแนวโน้ม “กำขี้ดีกว่ากำตด” งานนี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่า น่าจะกำตดมากกว่า ! วันนี้ถึงไม่เห็นกูรูคนไหนกล้าออกมาแนะนำให้ช้อนซื้อหุ้นเหมือนก่อนหน้านี้เลยเจ้าค่ะ

*สำหรับสาเหตุที่ทำให้เรื่องราวบานปลายใหญ่โตมาจากตัวเลขความเสียหายไม่ตรงกับความจริง ผนวกกับกลุ่มคนหูไวตาไวไปเห็นเข้าพอดี และเรื่องนี้ก็ไปเข้าหูกลุ่มสหภาพ กทพ. เข้ามาพอดี จึงมีการเปิดโปงข้อมูลออกมาทีละช็อต พร้อมกับมีร่วมพลังเพื่อทำการขับไล่ประธาน เพราะไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ของหน่วยงานเลยสักอย่าง ภาพความวุ่นวายถึงปะทุออกมาเป็นระลอกไงล่ะค่ะ

*ไหน ๆ ก็เม้าท์ถึงเรื่องชวนปวดหัวขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอไปต่อที่เรื่องราวของหุ้นร้อนที่กำลังจะได้กลับมาเทรดสั้น ๆ 1 เดือนอย่าง IFEC เพื่อทำให้เห็นภาพความยุ่งเหยิงคงไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะวันนี้มีแต่คนตั้งคำถามโดยตรงกับ “เฮียทวิช” ในลักษณะที่ว่า ต้องการขายหุ้นทิ้งไหม ? กลับมาเทรดเต็มตัวได้เมื่อไหร่ ? หรือแม้กระทั่งการเปิดเทรดทั้งที่ธุรกิจมีปัญหา มันดีจริงเหรอ ?

*ความเคลือบแคลงสงสัยดังกล่าวยังกระทบชิ่งไปถึง ตลท. แบบเต็ม ๆ เพราะตัวคนที่ปล่อยผีทั้ง 16 ตัวออกมาอาละวาดในตลาดหุ้น แถมคนที่มีหุ้นผีอยู่ในพอร์ตต่างเกิดอาการมึนงงเหมือนกันว่า วิธีการดังกล่าวเป็นการช่วย (กระทืบ) รายย่อยจริงป่าว ! และในขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวลือเซ็งแซ่ในทำนองมีใบสั่งทางการเมืองมา บอร์ดของตลาดหลักทรัพย์ฯ เลยไม่กล้าขัดใจเจ้าขุนมูลนาย..อิอิอิ

*ที่สำคัญหากไปถามใจผู้บริหารแต่ละคนจะเห็นว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะให้เปิดซื้อขายหุ้นในช่วงที่บริษัทกำลังทำแผนฟื้นฟูกิจการ แถมบรรดาแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า ในโลกไม่มีใครทำเรื่องแบบนี้ ! “โมนิก้า” เลยเกิดอาการหน้าชาอย่างรุนแรง (ขนาดไม่ได้เป็นบอร์ดตลาดฯ) เพราะไม่นึกไม่ฝันว่า ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำอะไรไม่เข้าท่า ผนวกกับอ่อนเรื่องสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภาพที่ออกมาเลยกลายเป็นด้านลบเสียส่วนใหญ่เจ้าค่ะ

*ในระหว่างที่คนส่วนใหญ่ไม่แฮปปี้ แต่กลายเป็นกลุ่มคนที่ติดหุ้น BLISS ออกอาการลิงโลดอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเป็นหุ้นที่แมงลือเม้าท์มอยกันหนักเหลือเกินว่า มีการขายหุ้นนอกตลาดไม่กี่สตางค์ แถมคนที่ซื้อหุ้นนอกตลาดดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ ก็มีต้นทุนสูงบ้าง ต่ำบ้าง คละเคล้ากันไป เดี๊ยนเลยขอฟันธงว่า งานนี้ทิ้งบอมม์กันอุตลุดอย่างแน่นอน หลังเห็นกันชัด ๆ กำไรไม่เกินหนึ่งสตางค์ แล้วหุ้นจะขึ้นได้อย่างไรล่ะจ๊ะ

*อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..อย่ามองข้ามหุ้น EARTH ที่รายล้อมไปด้วยเจ้าหนี้เป็นจำนวนมาก ก็เป็นหุ้นร้อนอีกหนึ่งตัวที่นักเล่นไม่ควรมองข้าม เพราะมองในมุมของความผิดหวังที่มีต่อหุ้นตัวนี้ บวกกับมีมือที่มองไม่เห็นอย่าง ว.ล่องหน เข้ามาร่วมขบวนการ “โมนิก้า” ย่อมมีอาการประหวั่นปนอาการกลัวขึ้นมาทุกที (เม่ากลายเป็นลูกไก่ในกำมือ) เพราะผลออกมาทางไหน เม่าก็เจ็บตัววันยังค่ำนะจะบอกให้

*ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” ขอนำมาแฉยับให้แฟนคลับได้รับรู้ เพื่อจะได้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ ชักไม่ปกติมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้การไม่หลงเข้าไปเล่นเกมของคนอื่น น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการวางตัวในช่วงที่ทุกอย่างตั้งอยู่บนความคาดหวังล้วน ๆ (จิตวิทยาดี) เดี๊ยนถึงหันมาสนใจเรื่องปัจจัยรอบด้านมากเป็นพิเศษ เพราะทำให้รู้ว่า ในอนาคตต้องเผชิญกับอะไรบ้างนะซี !