* เริ่มกันด้วยหุ้น CPN เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ในช่วงวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเด่นและสวนทางภาวะตลาดหุ้นไทยไว้ได้ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นของ CPN ปรับตัวลงเยอะพอสมควร เนื่องจากภาพรวมตลาดไปกังวลกับประเด็น Simon Property จับมือกับทางสยามพิวรรธน์ เพื่อพัฒนาโครงการลักชัวรี่พรีเมียมเอาท์เล็ต 3 โครงการ จึงอาจส่งผลให้ภาพของตลาดในอนาคตทวีความดุเดือดยิ่งขึ้น เมื่อบวกกับภาวะตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในอารมณ์ “สายย่อ” แทบทุกวัน ก็เลยยิ่งพากันกดดันให้หุ้น CPN เป๋หนักในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

* ยังดีที่แนวรับแถวระดับ 71 บาท แข็งแกร่งและสามารถต้านทานเอาไว้ได้ บวกกับหุ้นถอยลงจนลึกแล้วพอสมควร เมื่อวานเลยดีดรีบาวด์ขึ้นแรงอย่างที่เห็น ขณะเดียวกันภาพของตลาดยังเริ่มเข้าใจและคลายภาวะแพนิกกับประเด็นคู่แข่งบ้างแล้ว เพราะเอาจริง ๆ กว่าจะเริ่มได้เห็นโครงการแรกของ “Simon Property-สยามพิวรรธน์” ปาเข้าไปช่วงปี 2562 โน่น ทำให้ระยะสั้นแทบยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ CPN ขณะที่พื้นฐานงบไตรมาส 2 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี รับผลบวกจากความเชื่อมั่นและกำลังซื้อที่ฟื้นตัว และระยะยาวมีปัจจัยหนุนกรณีเข้าไปถือหุ้น DTC (ดุสิตธานี) รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ของบริษัทที่ปล่อยออกมาในปีนี้

* วันนี้ “ฟุตบอลโลก 2018” ถึงคิวคิกออฟกันแล้ว เรียกได้ว่ามีหุ้นหลายบริษัทที่จะรับผลดีจากการจัดงานแข่งขัน แต่ถ้าให้เลือกหุ้นเด่นหลัก ๆ ขอมองไปที่ IVL ซึ่งจะได้อานิสงส์ในเชิงดีมานด์ขวดพลาสติกที่มีความต้องการใช้งานเป็นจำนวนมากในช่วงนี้ และอย่าลืม IVL เขาเป็นบริษัทสไตล์ Global ที่เล่นกับตลาดทั่วโลก ย่อมได้รับผลดีไปเต็ม ๆ ส่วนงบไตรมาส 2 มีโอกาสโดดเด่นเช่นกัน ถ้าอิงตามที่โบรกฯ คาดไว้น่าจะทำกำไรสุทธิสูงท่วม 6 พันล้านบาท โตก้าวกระโดดเกือบ 100% จากปีก่อน ดังนั้น ทั้งในระยะสั้น-ระยะกลาง มีสตอรี่เข้ามาช่วยหนุนต่อเนื่อง และในระยะยาวจะได้รับผลบวกแผนเข้าซื้อกิจการต่าง ๆ ราคาเป้าหมาย 80 บาท อัพไซด์เหลือเพียบ

* อีกหุ้นขอเลือกตัวเซอร์ไพรส์ TKS ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายที่รับผลบวกชัดเจนจากเทศกาลฟุตบอลโลก 2018 โดยขณะนี้บริษัทได้รับงานพิมพ์ไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลโลกจำนวนมาก และถือเป็นหนึ่งในช่องทางทายผลฟุตบอลโลกที่ได้รับความนิยมระดับสูงจากคนไทยเสมอมา ประกอบกับงบไตรมาส 2 ยังได้รับประโยชน์จากกรณีการเข้าถือหุ้น TBSP มากกว่าระดับ 70% ไปแล้ว รวมถึงเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลดีมาโดยตลอด ดิวิเดนด์ยีลด์เฉลี่ยสูงประมาณ 5% ต่อปี เลยขอฝากไว้ให้นักลงทุนพิจารณากันดู

* หุ้น SAT วิ่งขึ้นโดดเด่นและปิดบวกเกือบ 5% นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีของหุ้นที่มีพื้นฐานสนับสนุน แล้วบวกกับภาวะตลาดหุ้นไทยที่ไม่ค่อยดี กลุ่มหุ้นที่พื้นฐานเด่นเฉพาะ จึงมีสปอตไลท์ส่องเข้ามาที่หุ้นเป็นพิเศษ เพราะมีปัจจัยบวกชัดเจนในมือคอยหนุนหุ้นให้เติบโต แล้วแถมหุ้น SAT ยังมี P/E ไม่สูงมาก และปีนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังมีโอกาสทำยอดผลิตรวมทั้งระบบพุ่งสู่ระดับ 2 ล้านคัน ซึ่ง SAT ในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของไทยจึงได้รับผลดีไปเต็ม ๆ สะท้อนได้จากงบไตรมาสแรกมีกำไรสุทธิโตถึงระดับ 234 ล้านบาท และมีอัตราทำกำไรสุทธิสูงกว่า 11% มากที่สุดในรอบหลายปี เทรนด์ที่เหลือของปี 2561 ยังคงดูดีต่อเนื่อง ใครมีหุ้นแล้วในมือสามารถถือต่อรับการเติบโตได้สบาย

* ช่วงที่ผ่านมาผู้เขียนถึงได้พยายามให้นักลงทุนโฟกัสหุ้นที่มีพื้นฐานซัพพอร์ตเสมอมา และไม่จำเป็นต้องเลือกเฉพาะหุ้นที่อยู่ในกระแสหลักบนกระดานซื้อขายที่เรามองเห็นทุกวันก็ได้ เพราะเผลอ ๆ หุ้นเหล่านี้อาจสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าหุ้นพิมพ์นิยมด้วยซ้ำไป และบางทีก็ยังมองลู่ทางไม่ออกเลยว่า ปีนี้จะโต ทำได้แค่ทรงตัว หรืออาจจะแย่ลงหนักกว่าเดิม ดังนั้น หุ้นที่ดีไม่จำเป็นต้องอยู่เพียงแค่กลุ่มติดชาร์จ SET50 SET100 หรือขาประจำกลุ่มพลังงาน สื่อสาร แบงก์ นั่นเป็นเพียงแค่ภาพ “มายาคติ” ของกลุ่มคนที่ติดอยู่ในกรอบกับดัก ซึ่งไม่ได้เปิดใจหามุมมองใหม่และเปิดใจทำความรู้จักหุ้นให้ทั่วทั้งตลาด