April 26, 2024   7:50:45 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เก็บ 15 หุ้นสวยเป้าหมายกองทุน-เก็งงบฯ Q4 โดดเด่น
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 26/11/2014 @ 08:25:39
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.18 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.79/32.86 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากธนาคารกลางหลายแห่งส่งสัญญาณการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้คาดว่าสามารถยืนเหนือ 1,590 จุดได้จากการกระแสเงินทุนต่างชาติ และสถาบันภายในประเทศ สำหรับหุ้นเด่นวันนี้แนะนำหุ้นที่ได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและมีสัญญาณเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 4/57 ได้แก่ TASCO, BBL, BCP, KBANK, BBL, CK, STEC, SEAFCO, LPN, QH, SPALI, SAMTEL, PTT, VGI และ MC

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ย.) ว่า เมื่อพิจารณาในทางเทคนิค SET ยืนเหนือแนวต้านย่อย 1,585 จุด เป็นสัญญาณ “บวก” ต่อเนื่อง คาด Sideways Up ไปที่เป้าหมายแรก 1,600 จุด และเป้าหมายปลายปีที่ 1,650 จุด หนุนโดยกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่อย่างธนาคาร รับเหมาฯ อสังหาฯ ที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของธุรกิจภายในประเทศ ขณะที่กลุ่มพลังงานลุ้นฟื้นตัวก่อน OPEC วันที่ 27 พ.ย.นี้

แนะนำ “ซื้อ” หุ้นกล่มธนาคาร รับเหมาฯ ที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และเป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของกองทุน RMF LTF อย่าง KBANK BBL CK STEC รวมไปถึง “เก็งกำไร” SEAFCO (เป้าหมาย 8.20 บาท) ขณะที่กลุ่มอสังหาฯ มีสัญญาณ “ฟื้นตัว” ทางเทคนิค และแนะนำ Overweight ต่อไป แนะนำ “ซื้อ” LPN (ต้าน 25.25) QH (ต้าน 4.34) SPALI (ต้าน 27.25)




บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ย.) ว่า ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้ เชื่อว่า SET INDEX จะสามารถปิดยืนเหนือ 1,590 จุดได้จากการกระแสเงินทุนต่างชาติ และสถาบันภายในประเทศ ส่งสัญญาณเชิงบวกต่อภาพ SET INDEX ในรอบนี้ ประเมินเป้าหมายถัดไป 1,620 จุด +/- ผลักดันด้วยหุ้น Big Cap ในกลุ่มหลักเป็นสำคัญ

ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนเข้าเก็งกำไรในหุ้นหลักที่มีลักษณะ High Beta ขณะที่ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุด หรือเติบโตเด่นใน 4Q57” เป็นทางเลือก

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” PTT / VGI




บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ย.) ว่า แม้รัฐอาจจะมีการจัดเก็บภาษีต่าง ๆ เพิ่มขึ้น กระทบต่อกำลังซื้อ แต่เป็นที่คาดหมายว่าจะมีการยืดอายุ LTF ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยเดียวที่หนุน SET ในช่วงนี้จนถึงสิ้นปี กลยุทธ์ยังให้เลือกหุ้นเป็นรายตัววันนี้เลือก SAMTEL(FV@B27) เป็น Top pick ในฐานะเป็น Growth stock + P/E ต่ำ



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ย.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ พักช่วงสั้น แต่ภาพใหญ่ยังแกว่งขึ้น

KGI คาด SET วันอังคารแกว่งแคบหรือบวกเล็กน้อย หลังวานนี้เปิดกระโดดแล้วยืนตามคาด เพื่อรอปัจจัยเพิ่มเติมจากต่างประเทศโดยเฉพาะฝั่งยุโรป หลังจากโบรกเกอร์ต่างประเทศเช่นเครดิต สวิส ออกมาคาดยุโรปจะทำ QE โดยซื้อพันธบัตรรัฐบาลในเดือน ธ.ค. ขณะที่โกลด์แมน แซคคาดยุโรปทำ QE ภายในครึ่งแรกของปี 2558 มุมมองดังกล่าวยังสนับสนุนทุนต่างชาติเข้าตลาดหุ้นไทยปานกลาง และแรงซื้อสถาบันจากเม็ดเงิน LTF-RMF ยังมีอยู่

ด้านปัจจัยภายใน มองว่าความคาดหวังต่อการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่กำลังจะประกาศ น่าจะส่งผลให้หุ้น Domestic plays เช่นกลุ่มก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และธนาคาร เด่นกว่าดัชนีฯ ต่อไป

หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร TASCO* (Consensus Upgrade) / ซื้อ BBL



บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ย.) ว่า SET ยังมีผันผวน ดังนั้นถ้าเทรดดิ้งก็ดูจังหวะทำกำไรบ้าง เพื่อรอซื้อลบ

แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังขยับขึ้นต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่แล้วอีก หลังมีข่าวการลดอัตราดอกเบี้ยของจีนและการยืนยันจากประธาน ECB ว่าพร้อมจะกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง แต่หลังจากดัชนีหุ้นไทยดีดขึ้นมาตั้งแต่เปิดทำการแล้ว จากนั้นก็เน้นหนักทางด้านแกว่งผันผวนในกรอบจำกัดมากกว่า เนื่องจากยังมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมากดดันตลาดอยู่พอควร

ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้เริ่มไร้ทิศทางอีกครั้ง โดยส่วนใหญ่อยู่ในลักษณะแกว่งบวก-แกว่งลบแคบๆ โดยถูกแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานกดดัน เนื่องจากนักลงทุนคาดว่ากลุ่มโอเปคอาจจะไม่ปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมที่จะมีขึ้นวันพฤหัสที่ 27 พ.ย.นี้ ดังนั้นแม้ว่าวานนี้ SET ยังมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาหนุน แต่ค่าเงินบาทที่กลับเริ่มอ่อนตัวอีกครั้ง และความไม่มั่นใจในภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ น่าจะส่งผลกดดันให้ SET ยังมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบให้เป็นจังหวะในการเลือกหุ้นเข้าซื้อเพิ่มเติมได้ ดังนั้นถ้าเทรดดิ้งตามรอบจึงยังน่าแบ่งส่วนขายทำกำไรช่วงบวก เพื่อรอกลับเข้าซื้อใหม่ช่วงลบมากกว่า

แนวรับ 1587-1585 , 1582-1578 จุด แนวต้าน 1592-1595 , 1598-1602 จุด

กลยุทธ์ : แม้ว่า SET จะดีดบวกขึ้นต่อ จากข่าวทางการจีนประกาศลดดอกเบี้ย และการที่หลายๆ ประเทศยังคงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง แต่ FSS คาดว่า SET จะมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนและย้อนลงให้เห็นเป็นระยะๆ ดังนั้นถ้าเทรดดิ้งสั้นตามรอบก็ควรดูจังหวะขายบวกบ้าง เพื่อรอลงค่อยซื้อใหม่ลดความเสี่ยงจากการผันผวนของตลาด อย่างไรก็ตาม FSS ยังมีมุมมองเชิงบวกกับภาวะหุ้นระยะกลาง-ยาวอยู่ ดังนั้นสามารถแบ่งส่วนถือต่อเนื่องได้เช่นเดิม

หุ้นเด่นมีประเด็น MC ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 20.50 บาท



บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(25 พ.ย.)ว่า ทิศทางตลาด : Sideway? คาดมีโอกาสปรับขึ้น แม้ตลาดต่างประเทศเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง แต่คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ

ขณะที่ประเด็นในประเทศ คาดน้ำหนักจาก Fund Flow เป็นบวกมากขึ้น หลังมีแรงซื้อสุทธิต่างชาติล่าสุดกว่า 1,400 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนต่อเนื่องจากสถาบันในประเทศ (LTF / RMF) อย่างไรก็ตามคาดภาพรวมของ Fund Flow ยังมีความผันผวนหลังแรงซื้อ/ขายสุทธิจากต่างชาติสลับกันไป และเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว (เดือนธันวาคม) ซึ่งคาด Fund Flow อาจชะลอตัวบ้าง และยังแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลัง GDP – 3Q/57 เติบโตต่ำกว่าคาด

รวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี 58 – 65 ซึ่ง ครม. อนุมัติเมื่อ 21/10/57 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว โดยล่าสุด (18/11/57) ครม. อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางหนองคาย – มาบตาพุด ระยะทาง 867 กม. ระหว่างไทย – จีน ด้วยวิธี G to G เงินลงทุน 400,000 ล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปี 59

นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58

หุ้นแนะนำ : BCP

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com