ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.33/37 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวอยู่ในแดนบวกสลับกับแดนลบ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหว Sideways Up หุ้นเล็กที่มีการซื้อ-ขายร้อนแรงอาจชะลอตัวต่อเนื่องอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อรอดูท่าทีจากทางกลต. อย่างไรก็ตามบรรยากาศการเก็งกำไรยังคงอยู่ ซึ่งถือเป็นภาวะที่มีความเสี่ยงในการลงทุนสูง ขณะที่หุ้นใหญ่ Big Cap จะยังโดดเด่น จากเงินทุนต่างชาติที่ทยอยสะสมหุ้นไทยต่อเนื่อง แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่ Laggard หรือ ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดใน 3/57 ไปแล้ว หุ้นเด่นเลือก ANAN-GOLD-ICHI-GLOBAL-RICHY-RS-SCB และ EPCO




บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (20 พ.ย.) ว่า มาตรการควบคุมหุ้นที่มีการซื้อขายร้อนแรงยังคงต้องรอผลการพิจารณาจากทาง กลต. ทั้งนี้ ตลท.คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในปีหน้า ประเมินว่าหุ้นเล็กที่มีการซื้อ-ขายร้อนแรงอาจชะลอตัวต่อเนื่องอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อรอดูท่าทีจากทางกลต.

ขณะที่หุ้นใหญ่ Big Cap จะยังโดดเด่น จากเงินทุนต่างชาติที่ทยอยสะสมหุ้นไทยต่อเนื่อง จากสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นในระบบการเงินโลก บวกกับเป็นช่วงปลายปี ผู้จัดการกองทุนต่างชาติต้องเร่งปรับพอร์ตการลงทุน เพื่อให้สอดรับกับแผนการลงทุนในปีหน้า ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเดือนธ.ค.

ทั้งนี้ เชื่อว่าหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มอสังหาฯ จะเป็นเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนกลุ่มนี้ ซึ่งผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/57 ออกมาน่าประทับใจเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงได้อานิสงค์จากการฟื้นตัวของภาคการบริโภคภายในประเทศ และการเร่งการใช้จ่ายของภาครัฐ วันนี้ติดตามการแถลงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเป็นของขวัญของปีใหม่ โดยรมว.คลัง คาดว่าเป็นแนวทางกระตุ้นภาคการบริโภคภายในประเทศให้ฟื้นตัวต่อเนื่องและในอัตราเร่ง

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนอาจพิจารณาขายทำกำไรหุ้น Big Cap บางส่วนบริเวณ 1,590 จุด +/-“ และเข้าเก็งกำไรหุ้นที่ Laggard หรือ ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำ สุดใน 3/57 ไปแล้ว

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “เก็งกำไร” ANAN และ GOLD



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 พ.ย.) SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways Up แนวต้านย่อย 1,585 จุด และถัดไปที่ 1,600 จุด และเป้าหมายปลายปีที่ 1,650 จุด จากแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว และลุ้นการ “ฟื้นตัว” ของหุ้นกลุ่มพลังงานก่อนการประชุม OPEC วันที่ 27 พ.ย.นี้

สำหรับมาตรการสกัดการเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กของ ตลท. 3 มาตรการ 1) หุ้น Trading Alert ให้เข้าเกณฑ์ Cash Balance 3 สัปดาห์ 2) หุ้นติด Trading Alert ครั้งที่ 2 จะไม่นำไปคิดเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ 3) หุ้นติด Trading Alert ครั้งที่ 3 จะไม่สามารถใช้ Net Settlement ได้ ส่งผลกระทบ SET จำกัด

แนะนำ “ซื้อ” ICHI ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 27 บาท มีสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคสัปดาห์แรก เป้าหมาย 22.9/23.8 บาท



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (20 พ.ย.) ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ เทรดไซด์เวย์ต่อ

KGI คาด SET วันพฤหัสฯ แกว่งหรือบวกแคบ ยังไม่มีปัจจัยที่ชัดเจนผลักตลาดหุ้นขึ้นแรงหรือลงแรงหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัวหลังรายงานประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (FED) ไม่ฟันธงถึงเงื่อนเวลาการขึ้นดอกเบี้ยอเมริกา และชี้ว่ากรรมการเฟดหลายคนมองเงินเฟ้อสหรัฐฯ ต่ำกว่าเป้ามาก (ไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย) โดยนักลงทุนควรติดตามตัวเลข CPI สหรัฐฯ เดือน ต.ค. ในคืนวันนี้ประกอบ

ด้านปัจจัยภายใน มาตรการคุมหุ้นร้อนที่เสนอต่อ กลต. เมื่อวานนั้นพบว่าไม่มีมาตรการใหม่ เป็นเพียงการเสนอปรับเกณฑ์ Trading Alert และ Cash Balance เป็นกรณีๆ เท่านั้น คาดผลต่อ SET มีจำกัด ส่วนสัปดาห์หน้ามีตัวเลขเศรษฐกิจไทย ต.ค. หลายตัว ซึ่งจะเป็นเครื่องชี้แนวนโยบายการเงิน ธปท. ในระยะถัดไปด้วย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร GLOBAL และ RICHY



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (20 พ.ย.) ว่า มาตรการสกัดการเก็งกำไรหุ้นเล็ก คาดว่าจะมีผลบังคับต้นปี 2558 ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือบรรยากาศการเก็งกำไรยังคงอยู่ ซึ่งถือเป็นภาวะที่มีความเสี่ยงในการลงทุนสูงมาก นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวัง และควรปรับพอร์ตการลงทุนเข้ามาหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งมากขึ้น วันนี้ยังเลือก RS (FV@B 13.20) เป็น Top Pick



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (20 พ.ย.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค - SET แกว่งตัวบนเส้นค่าเฉลี่ย 10 ที่ 1,574 จุด และแรงสนับสนุนของเส้นค่าเฉลี่ย 25 ที่ 1,561 จุด ขณะที่ MACD ดีดตัวขึ้นอยู่ที่ 4.36 แสดงให้เห็นว่าสัญญาณทางเทคนิคทั้งสามจะหนุนตลาดให้เป็นแนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่ได้

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,574-1,595 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร SCB และ EPCO