April 27, 2024   2:51:31 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ส่อง 18 หุ้นเด่น SET ลุ้นรีบาวด์สั้น เน้นซื้อ-ขายเร็ว
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 27/10/2014 @ 09:27:36
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.16 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.37/42 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้น หลังบริษัทรายใหญ่ของสหรัฐ รวมถึงแคทเทอร์พิลลาร์ ได้เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นกรอบจำกัด ความผันผวนของตลาดหุ้นต่างประเทศยังเป็นความเสี่ยงหลัก การลงทุนเน้นซื้อขายเร็ว หุ้นเด่นเลือก ADVANC-INTUCH-KBANK-BBL-CK-STEC-SPALI-LPN-QH-SIRI-SAMART-BEAUTY-SAPPE-BGH-DEMCO-PTG-S และ E


แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO หลังจากได้มีการเซ็นสัญญาก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่นอีก 20 เมกะวัตต์ เมื่อเดือน กันยายน ที่ผ่านมา ก็ตั้งเป้าไล่ซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมให้ได้ 100เมกะวัตต์ ซึ่งรูปแบบการเข้าทำธุรกิจดังกล่าวจะมีทั้งการเข้าซื้อใบอนุญาตต่อจากผู้ประกอบการรายอื่น ผสมผสานกับการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้ว

โดยเหตุผลหลักที่ทำให้ EPCO หันมารรุกธุรกิจแนวนี้อย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นผลมาจากแผนงานของบริษัทที่ต้องการดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน และพลังงานทดแทน อย่างเต็มตัว เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงของรายได้ที่พึ่งพิงการดำเนินธุรกิจสิ่งพิมพ์เพียงอย่างเดียว ผนวกกับผลประกอบการที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ฉะนั้นในปี 2557 บริษัทจะเดินหน้าสานต่อโรงไฟฟ้าเดิม และพัฒนาโครงการใหม่ โดยขยายการลงทุนเพิ่มทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อเพิ่มรายได้ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมาได้เจรจากับบริษัทพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุนเป็นระยะ โดยในไตรมาส 1/2557 ได้มาแล้วประมาณ 12 เมกะวัตต์ ส่วนไตรมาส 2/2557 ได้อีกประมาณ 40 เมกะวัตต์ และไตรมาส 3/2557 ได้อีก ประมาณ 20 เมกะวัตต์

รวมทั้งยังมีแผนการขยายธุรกิจไปในประเทศอื่นๆ เช่น ลาว และกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุน ตลอดจนการลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Energy) อื่นๆ ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ของ EPCO ปีนี้ให้เติบโตขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้า 40% และสิ่งพิมพ์ 60% โดยวางเป้าหมายรายได้เติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 90%



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ต.ค.) สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้น ยังคาดหวัง Technical Rebound ด้วยเป้าหมาย 1,545-1,555 จุด หลังจากปรับลดลงแรงก่อนหน้านี้ ขณะที่ประเมิน Downside Risk ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.จำกัด จากแรงซื้อหุ้นผ่านก่อนทุน RMF และ LFT รวม 1-2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ความผันผวนของตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นความเสี่ยงหลัก

กลยุทธ์ลงทุนหลัก แนะนำ “ซื้อ” Domestic Plays อย่าง KBANK BBL CK STEC SPALI LPN QH SIRI SAMART BEAUTY SAPPE BGH ต่อเนื่อง โดยประเมิน Downside Risk ระยะสั้นจำกัดจากแรงหนุนของกองทุน RMF + LTF ในช่วงปลายปี ขณะที่ถ้าพิจารณาในทางเทคนิคหุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่อย่าง ADVANC และ INTUCH มีจังหวะฟื้นตัว และแนะนำ “ซื้อ”



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ต.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นกรอบจำกัด คงเน้นซื้อขายเร็ว

KGI มอง SET วันศุกร์ทรงตัวแดนบวก แต่ไม่ขึ้นแรง แม้ปัจจัยต่างประเทศเมื่อวานจะเป็นบวกหลายประการ เช่นสหรัฐฯ รายงานยอดขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด และเงินเฟ้อพื้นฐาน ก.ย. ชะลอ, ผลประกอบการ บ.ยักษใหญ่เช่น 3M และ Caterpillars แข็งแกร่ง, ดัชนีภาคการผลิตเบื้องต้น ต.ค. ของจีน และยุโรปเพิ่มขึ้นสูงที่คาด, และธนาคารกลางยุโรปซื้อพันธบัตรต่อเนื่อง แต่เช้านี้ข่าวเรื่องพบผู้ติดเชื้อ Ebola ในนิวยอร์ก จะกดดันจิตวิทยาหุ้นเอเชียในระดับหนึ่ง ดังนั้นกลยุทธ์สั้นยังเน้นขึ้นขาย-ลงแรงซื้อ ส่วนสัปดาห์หน้ามีปัจจัยสำคัญได้แก่การประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ วันที่ 28-29 ต.ค. ซึ่งหากมีการยุติ QE อาจกระทบตลาดหุ้นเชิงลบบ้าง เนื่องจากก่อนหน้านี้นักลงทุนมีความหวังอยู่บ้างว่าสหรัฐฯ อาจมีการคง QE ไว้ก่อน

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน สะสมหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนและเดินเรือต่อ / ซื้อ PTG ได้ประโยชน์จากการอ่อนตัวของราคาน้ำมันและแนวโน้มการปรับราคา NGV/LPG



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ต.ค.) ว่า ตลาดหุ้นโลกผ่อนคลายหลังยุโรปเข้าซื้อหุ้นกู้ในบางประเทศ แต่มิใช่แรงหนุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทย ด้วยอุปสรรค Current P/E ที่สูงถึง 16 เท่า โดยยังถือเงินสดส่วนใหญ่ เพื่อรอจังหวะสะสมหุ้นรอบใหม่ วันนี้เลือก DEMCO (FV@B18) เป็น Top pick



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ต.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET แกว่งตัวที่กรอบ 1,520-1,530 จุด โดยส่วนใหญ่ แต่สัญญาณทางเทคนิคเคิลยังเกิดเชิงลบหลังจากยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันและเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ขณะที่ MACD ยังอยู่ที่ -11.19 เรายังมองเป็นทิศทางแนวโน้มลง

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,520-1,540 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร S และ E

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com