April 26, 2024   4:20:17 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ฟันธงCPFมาแน่! Laggardบวกกำไรโต
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 12/09/2014 @ 08:30:11
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สื่อข่าวเว็บไซต์ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.24 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.15/18 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้ปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืนนี้ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในระยะสั้น แต่คาดว่าจะไม่หลุดแนวรับ 1,565 จุด และเชื่อว่าจะแกว่งตัวขึ้นทดแนวต้าน 1,595-1,600 จุด ได้ในระยะใกล้นี้ แนะนำซื้อกลุ่ม Domestic Play จังหวะตลาดพักฐาน ขณะที่กลุ่มสื่อสารเริ่มมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดอีกครั้ง หุ้นเด่นเลือก CPF-TRUEIF-LPN-DEMCO-SAMART-INTUCH-DTAC-THCOM-KBANK-BBL-STEC-CK และ SPALI



นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัยบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีหุ้นหลายตัวที่ยังไม่ปรับตัวขึ้นตามดัชนี ทั้งที่มีปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างแข็งแกร่ง มีโอกาสทำกำไรได้สูงขึ้นในอนาคต จึงน่าจะถึงเวลาเข้ามาลงทุนในหุ้นเหล่านั้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

โดยหุ้นที่อยากจะแนะนำเป็นอันดับแรกคือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เนื่องจากเป็นหุ้นปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด เพราะเมื่อเปรียบกับดัชนีในช่วงต้นปี 57 จนถึงปัจจุบันนี้ หุ้นตัวนี้มีราคาติดลบไป 39% ขณะที่ดัชนีปรับตัวขึ้นไปมากถึง 20% ซึ่งเป็นจุดที่บอกให้นักลงทุนรู้ว่า การลงทุนในหุ้นบลูชิพตัวนี้ น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นตัวอื่นในเวลานี้

นอกจากนี้ถ้ามองถึงความเป็นไปได้ของตัวเลขกำไรที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ย่อมเป็นเครื่องยืนยันหุ้น CPF กำลังจะเทิร์นอะราวด์เรื่องผลประกอบการเต็มๆ และตรงจุดนี้เป็นจุดขายที่ทำให้หุ้นตัวนี้จะกลับมาอยู่ในกลุ่มโกรทสต๊อกอีกครั้งในปีหน้า หลังกำไรในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ นั่นเอง

สำหรับราคาเป้าหมายของหุ้น CPF ปีนี้ให้ไว้ที่ระดับ 39 บาท ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 30.75 บาท มีส่วนต่างราคาสูงถึง 8.25 บาท หรือคิดเป็น 27%



บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ก.ย.) ว่า SET INDEX วานนี้จะปรับฐานลงสู่แนว 1,570 จุด และเกิด Technical rebound กลับมาปิดยืนเหนือ 1,580 จุดอีกครั้ง MBKET ประเมินภาพ SET INDEX ช่วง 1-2 วันนี้จะแกว่งในกรอบแคบ 1,575-1,585/90 จุด หุ้นหลักในกลุ่ม ICT / PTT Family จะเป็นกลุ่มช่วย SET INDEX ขณะที่หุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นการลงทุนเด่นเฉพาะตัว หรือมี Valuation ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตฯ เชื่อว่าจะขยับขึ้นเด่นกว่าภาพรวมของ SET INDEX

ด้านเงินทุนต่างชาติอาจชะลอการลงทุนในช่วงสั้น เพื่อรอผลการประชุมเฟดในวันที่ 16-17 ก.ย. ซึ่งน่าจะเป็นตัวแปรหลักที่กำหนดบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกแกว่งออกด้านข้างเพื่อรอผลดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม Downside risk ของตลาดหุ้นไทยยังเป็นไปอย่างจำกัด แนว 1,570 จุดเชื่อว่าจะทำงานได้ค่อนข้างดี เพื่อรอการแถลงนโยบายการบริหารประเทศของนายกฯ พล เอก ประยุทธ์ ในวันพรุ่งนี้

กลยุทธ์การลงทุน MBKET แนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นการลงทุนเด่นเฉพาะตัว เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,600 จุดหรือสูงกว่า

กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น MBKET แนะนำ “ทยอยสะสม” TRUEIF/ LPN



บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ก.ย.) ว่า แม้ SET มีแนวโน้ม “ผันผวน” ระยะสั้น แต่คาดว่าจะไม่หลุดแนวรับ 1,565 จุด (อิง MAV20 วัน) ขณะที่ระยะสัปดาห์มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นด้วยเป้าหมาย 1,600-1,615 จุด ตามกรอบ Uptrend Channel หุ้นกลุ่มสื่อสารเริ่มมีแนวโน้ม “แข็งแกร่ง” กว่า SET ระยะสัปดาห์ ด้วยปันผลสูง 6-7% และประเด็นลบจากการประมูล 4G ที่ล่าช้า ถูก Price-in ไปแล้ว

กลุ่มสื่อสารเริ่มมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดอีกครั้ง เนื่องจาก 1) ราคาหุ้น Underperform ตลาดมากหลังรัฐประหาร 2) อัตรผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 6-7% และ 3) คาดกำไรกลับมาเติบโตอีกครั้งในปี 2015 และมีประเด็นประมูลคลื่น 4G รออยู่ แนะนำ “ซื้อ” INTUCH DTAC และ THCOM ขณะที่ “ซื้อ” กลุ่ม Domestic Play ในจังหวะพักฐานของตลาด อย่าง KBANK BBL STEC CK และ SPALI



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ก.ย.) ดัชนีผันผวน ดอลลาร์แข็งค่า กดดันน้ำมัน (PTTEP และ PTT) และทองคำอ่อนตัว ระยะสั้นแนะนำให้ขายทำกำไรหุ้นรายตัว โดยให้ถือหุ้นไม่เกิน 40% ของเงินลงทุน วันนี้ยังเลือก SAMART (FV@B32) เป็น Top pick ฟื้นตัวแรงใน ครึ่งปีหลังของปี 57 และเติบโตต่อเนื่อง 23% ในปีหน้า



บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ก.ย.) คาด SET จะแกว่งตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้าน 1,595-1,600 จุด ในอนาคตอันใกล้ จับตาการแถลงนโยบายรัฐบาล

ให้น้ำหนักการติดตามนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลประยุทธ์ 1 โดยเห็นว่า การปรับฐานระยะสั้นของ SET Index เมื่อวานเป็นสิ่งที่ดีและน่าพอใจ เนื่องจากเป็นการปรับตัวที่ค่อนข้างเร็วและแรง (ทรุดลงเร็วและดีดกลับเร็ว) ทำให้ผู้เล่นในตลาดไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเมื่อเทียบกับการปรับฐานแบบซึมลง (อ่อนตัวลงแบบช้าๆ)

ซึ่งการปรับฐานระยะสั้นดังกล่าว ทำให้มองว่า หุ้นจำนวนมากได้ผ่านการเปลี่ยนมือจากผู้เล่นกลุ่มหนึ่งไปยังอีกกลุ่มหนึ่ง และพร้อมที่จะยอมรับราคาหุ้นใหม่ที่มีต้นทุนสูงขึ้น จึงเป็นปัจจัยบวกต่อโอกาสการปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยได้ต่อไป

ส่วนวันนี้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในช่วงของการเก็งกำไรรับการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อ สนช. ในวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะทิศทางนโยบายเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น ก่อนที่จะยกตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ยังจะสร้างความผันผวนให้กับตลาดบริเวณใกล้ๆ 1,600 จุด ต่อไป โดยให้กรอบ SET วันนี้แกว่งในช่วง 1,580-1,590 จุด

หุ้นเด่นวันนี้: แนะนำซื้อช่วงราคาอ่อนตัวในหุ้น DEMCO

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com