ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.95/99 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของภาคเอกชน โดยญี่ปุ่นเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 หดตัว 6.8% เมื่อเทียบรายปี หลังมีการขึ้นภาษีการบริโภค นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังผันผวนในระยะสั้น คาดเม็ดเงินใหม่จากกองทุน Trigger Fund ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ หนุนกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ มองดัชนีลดลงเป็นโอกาสซื้อ เน้นหุ้น Domestic Play หุ้นเด่นเลือก SPCG-DEMCO-GUNKUL-EA-SAMART-BTS-BMCL-CENTEL-TPIPL-CK-STEC-SPALI-QH-LPN-KBANK-AAV-AOT-VGI-EFORL และ SF


บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ส.ค.) ว่า แม้ SET จะ “ผันผวน” ระยะสั้นเนื่องจากปัจจัยภายนอก อย่างไรก็ตาม TNS ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้ม SET ระยะสัปดาห์ต่อเนื่องด้วยเป้าหมาย 1,570-1,600 จุด จาก 1) สถานการณ์ความร้อนแรงในยูเครนลดความร้อนแรงลง หนุนการ Rebound ตลาดหุ้นโลกตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน 2) เม็ดเงินใหม่จากกองทุน Trigger Fund ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ หนุนกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ 3) พัฒนาการเชิงบวกทางการเมือง โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาล ยกเลิกกฎอัยการศึก และอนุมัติงบประมาณปี 2015 ในเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้

แนะนำ “ซื้อ” Domestic Play อย่างกลุ่มธนาคาร (KBANK) อสังหาฯ (SPALI QH LPN) รับเหมาฯ (CK STEC) วัสดุก่อสร้าง (TPIPL) ขนส่งและท่องเที่ยว (BTS BMCL AOT CENTEL) และกลุ่มสื่อสาร (SAMART) ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน รวมไปถึงกลุ่มหุ้นพลังงานทางเลือก (SPCG DEMCO GUNKUL EA)



บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ส.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ปรับขึ้นในกรอบที่จำกัด

KGI มอง SET วันพุธบวกปานกลาง การเมืองต่างประเทศดีขึ้นเล็กน้อยช่วงหยุดยาว คืนวันศุกร์มีข่าวรัสเซียอาจถอนทหารจากชายแดนยูเครน หนุนหุ้นโลกถึงเมื่อวาน ก่อนมีข่าวใหม่ว่ารัสเซียเตรียมส่งหน่วยช่วยเหลือเข้ายูเครนเพื่อมนุษยธรรม ซึ่งนักวิเคราะห์การทหารกลับมองเป็นแผนรุกรานครั้งใหม่

ด้านปัจจัยภายในยังเป็นบวก ขณะนี้รอโปรดเกล้าฯ ประธาน สนช. และถัดไปจะพิจารณางบฯ ปี 58 และเลือกนายกฯ คาดที่กล่าวมาทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในวันที่ 22 ส.ค. และเช้านี้เงินบาทแข็งค่าเร็วทดสอบ 32.0 อาจหนุนต่างชาติกลับลำมาซื้อ คงแนะนำถือหุ้น/สะสมหุ้นต่อ คงเป้า SET เดือน ส.ค. ที่ 1,550 จุด

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน “สะสม” หุ้นท่องเที่ยว (AAV, AOT) และกลุ่มรับเหมาฯ (CK, STEC)



บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ส.ค.) ว่า สัปดาห์นี้การรายงานงบไตรมาส 2/57 ใกล้สิ้นสุด ให้น้ำหนักหุ้นรายตัว เลือก BTS (FV@B12) Top pick นักวิเคราะห์ ASP ปรับเพิ่ม Fair Value ขึ้นจากเดิม 0.8 บาท สะท้อนมูลค่าหุ้น VGI (BTS ถือ 65%) ซึ่งได้ซื้อ MACO 24.9% และยังมีความคืบหน้าในการสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย



บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ส.ค.) ว่า สัปดาห์นี้ประเมิน SET ยังคงลักษณะขึ้น/ลงคละกลุ่มตามผลประกอบการไตรมาส 2 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนนี้ ประเมินตลาดมี Momentum หรือกำลังเพื่อสะสมแรงดีดทางขึ้นนั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วันนี้แนะนำ หาก SET ลดลงคือโอกาสซื้อ และหากตลาดปรับขึ้นในวันนี้ คาดว่าแรงซื้อจะอยู่กับตลาดในระยะสั้น แนะนำซื้อหุ้นเก็งกำไร

คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน SET แกว่งแคบต่อ โดยยังทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันและเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันตลอดทั้งวันอีก แต่ดัชนีไม่หลุดแนวรับ 1520 ก็ถือว่าโมเมนตัมของตลาดดีขึ้นกว่าวันก่อน ขณะที่ MACD เริ่มทรงตัวราบขึ้น แต่ยังต่ำกว่า signal line เราพบว่าดัชนีตลาดยังต้องแกว่งตัวทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 25 วันต่อไปอีก

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบแนวรับ 1,520-1,530 จุด

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร EFORL และ SF