แหล่งข่าวจากที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ได้นำบริษัทจดทะเบียนประมาณ 15-16 แห่งไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์ พบว่ามีหุ้นหลายตัวที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน ในระดับสูง ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE

“มีผู้บริหารกองทุนต่างประเทศ กว่า 30 กองทุนได้ขอพบผู้บริหารของมาลี เพื่อขอเอ็กซ์คลูซีฟแบบตัวต่อตัว เนื่องจากราคาที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สม่ำเสมอกว่า 3-4% และแบรนด์ก็ถือเป็นอันดับต้นๆของตลาดน้ำผลไม้ของไทย”

ทั้งนี้ในไตรมาสที่สอง MALEE จะเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อรองรับออร์เดอร์จากกลุ่มลูกค้าใหม่ที่บริษัทเป็นผู้รับจ้างผลิต โดยที่ผ่านมาหากเปรียบเทียบกับ TIPCO แล้ว มาลีถือว่าดีกว่าถ้าทิปโก้ เพราะหากทิปโก้ ไม่มีกำไรจาก TASCO เข้ามาช่วย

ขณะที่ราคาหุ้น MALEE ยังถือว่าไม่แพง PE แค่ 15 เท่า เมื่อเทียบ TIPCO คู่แข่งสำคัญพีอีสูงกว่า 32 เท่า และเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่มี พีอีประมาณ 20 กว่าเท่า ดังนั้น MALEE จึงได้รับความสนใจอย่างมากจากการไปโรดโชว์ในครั้งนี้

สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ คาดการณ์รายได้ MALEE ภายใน 2 ปีนี้เติบโตเฉลี่ย 15% โดยรายได้ปี 57-58F เพิ่มขึ้น 15% ปี อยู่ที่ 5,851 ล้านบาท และ 6,753 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากการรับงาน CM ที่เพิ่มขึ้นและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ผลักดันยอดขายที่เพิ่มขึ้น สำหรับอัตราทำกำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 29% จาก 28.5% จากปีก่อน เนื่องจากสัดส่วนแบรนด์มาลีเพิ่มขึ้นซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นสูงกว่า CM การคาดการณ์กำไรสุทธิภายใน 2 ปีนี้เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 33% โดยปี 57 อยู่ที่ 388 ล้านบาท และปี 58 อยู่ที่ 498 ล้านบาท

แนะนำให้ “ซื้อ” MALEE ราคาเป้าหมายที่ 37 บาท อ้างอิงวิธี PE Sector Beverage (HTC, MALEE, OISHI, SSC, TIPCO) เฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 13.3 เท่า โดยคาด EPS ปี 57 ที่ 2.77 บาท ปัจจุบัน MALEE ผู้นำในตลาดผลไม้กระป๋องและครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 2 ของน้ำผลไม้ 100% ผู้ผลิตและจำหน่ายธุรกิจแปรรูปผลไม้ ผลไม้ฤดูกาลกระป๋อง และธุรกิจเครื่องดื่ม เช่น น้ำผลไม้ น้ำผักผลไม้ ชา กาแฟและน้ำดื่ม และจำหน่ายนมสดยูเอชทีเครื่องหมายการค้า “ฟาร์มโชคชัย” จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับตลาดเครื่องดื่มน้ำผลไม้เติบโตต่อเนื่องปัจจุบันตลาดน้ำผลไม้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาเติบโตปีละ 10% โดยในปี 2555 ตลาดน้ำผลไม้ของประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านบาท เป็นตลาดน้ำผลไม้ระดับพรีเมี่ยมมูลค่าประมาณ 4.8 พันล้านบาท มีอัตราการเติบโต 14% ขณะที่น้ำผลไม้มาลี 100% มีอัตราเติบโตที่มากกว่าตลาดอยู่ที่ 23% ปัจจุบัน ณ ก.ย. 56 MALEE มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับสองอยู่ที่ 25% รองจาก TIPCO ที 41%

MALEE ออกผลิตภัณฑ์ใหม่และเพิ่มพันธมิตร CM ผลักดันยอดการผลิต โดยกลุ่มลูกค้า Contract Manufacturing (CM) ในปีนี้มีการเจรจา 5 ราย ซึ่งในไตรมาส 1/56 เริ่มมีการผลิตแล้ว 2 ราย และแบรนด์ของ MALEE เองที่มีนโยบายจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ปีละ 2-3 ประเภท ส่งผลให้บริษัทมีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สัดส่วนแบรนด์มาลี:CM ปัจจุบันอยู่ที่ 45:55 โดย MALEE ได้เพิ่มกำลังการผลิต 50% ในปี 55 จาก 200 ล้านลิตรเป็น 300 ล้านลิตรต่อปี

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการส่งออกสินค้าไปขายกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ทั้งในจีน ฟิลิปปินส์ รวมทั้งในตะวันออกกลาง โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะส่งออกสินค้าไปในประเทศแถบ AEC มากขึ้นเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ยอดการส่งออกปัจจุบันของ MALEE มีสัดส่วน 15% ของรายได้ และบริษัทคาดหวังใน 3-5 ปีจะเพิ่มสัดส่วนให้ได้ 50:50